Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 15 เดือนกันยายน พ.ศ.2551 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดสงขลา มีคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ ช.30/2547 คดีหมายเลขแดงที่ ช.24/2551 ซึ่งเป็นคดีไต่สวนการตายกรณีการสังหารนักฟุตบอล 19 ศพที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 ความอาญา โดยมีเนื้อหาบางส่วน สรุปดังนี้


 


…..


 


ทางการไต่สวน ผู้ร้อง(พนักงานอัยการจังหวัดสงขลา) นำสืบว่า เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 เวลาประมาณ 5 นาฬิกา ได้มีกลุ่มวัยรุ่นผู้ชายรวมตัวกันประมาณ 20 คน แต่งกายคล้ายชุดดาวะห์(ชุดแต่งกายของมุสลิม) ขับรถจักรยานยนต์มาจำนวนหลายคัน แล้วจอดรถเดินถืออาวุธมีด ปืน และระเบิด เข้ามาจะทำร้ายเจ้าพนักงานตำรวจ ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่หน่วยบริการประชาชน บริเวณห้าแยกทางเข้าตลาดสะบ้ายบ้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา


 


เมื่อชายวันรุ่นวิ่งเข้ามาจำร้ายเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ใช้ปืนยิงต่อสู้จนชายวันรุ่นเสียชีวิตสองคน กลุ่มชายวันรุ่นที่เหลือวิ่งเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในร้านอาหารสวยน๊ะและบ้านพักครู ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง


 


เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจได้ติดตามไปบริเวณบ้านพักครู ชายวันรุ่นสองคนต่อสู้โดยมีอาวุธ เจ้าพนักงานตำรวจใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตอีกสองคน ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจได้ใช้วิทยุสื่อสารขอกำลังสนับสนุน มีทั้งฝ่ายปกครองและอาสาสมัครมาปิดล้อมร้านอาหารสวยน๊ะ และได้ไกล่เกลี่ยให้กลุ่มชายวัยรุ่นดังกล่าวออกมามอบตัวทั้งเป็นภาษายาวีและภาษาไทย


 


กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวไม่ยอมออกมามอบตัว ทั้งตะโกนว่าเป็นภาษายาวี แปลว่าสู้ตาย แล้วยิงตอบโต้ออกมาเป็นระยะ เจ้าพนักงานเคลื่อนกำลังเข้าไปประชิดและได้ยิงต่อสู้อยู่ประมาณ 4 - 5 นาที เมื่อเสียงปืนสงบลง พบว่า กลุ่มชายวัยรุ่นเสียชีวิตอยู่ในร้านอาหารสวยน๊ะทั้งหมดจากการตรวจสอบ 15 คน รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 19 คน


 


ผู้ซักถาม(ญาติผู้ตาย) ทั้ง 19 คน นำสืบว่า ผู้ตายทั้ง 19 คน ไม่มีอาวุธต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภาพศพและลักษณะบาดแผลของผู้ตาย ไม่น่าจะเกิดจากการต่อสู้ เนื่องจากลักษณะบาดแผลบางศพถูกยิงในระยะกระชั้นชิด และบางศพถูกยิงจากด้านหลัง


 


ศาลวิเคราะห์พยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายแล้ว คดีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าผู้ตายทั้งหมดเป็นใคร ตายที่ไหน เมื่อใด มีเหตุและพฤติการณ์อย่างไร เห็นว่า ผู้ร้องมีดาบตำรวจชาญณรงค์ หนูเลือน ดาบตำรวจสมปอง สงทิพย์ จ่าสิบตำรวจพณัฐ อินสีไทร สิบตำรวจเอกธวัชชัย เพ็งลาย  และสิบตำรวจเอกทรงชัย ขวัญพรหม เจ้าพนักงานตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำสถานีบริการประชาชนบริเวณห้าแยกเขตเทศบาลสะบ้าย้อย เบิกความสอดคล้องเป็นทำนองเดียวกันว่า


 


เมื่อวันที่28เมษายน2547เวลาประมาณ5นาฬิกากลุ่มวัยรุ่นผู้ชายรวมตัวกันประมาณ 20 คนแต่งกายคล้ายชุดดาวะฮ์ขับรถจักรยานยนต์มาจำนวนหลายคันแล้วได้จอดรถเดินถืออาวุธมีด ปืน และระเบิดเข้ามาจะทำร้ายเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งประจำอยู่หน่วยบริการประชาชนดังกล่าว


 


ดาบตำรวจชาญนรงค์ หนูเลื่อนใช้ปืนยิงต่อสู้จนชายวัยรุ่นเสียชีวิตสองคนที่บริเวณหน่วยบริการประชาชน ทราบชื่อภายหลังคือนายสะการียา หัดขะเจและนายสมศักดิ์ บังสามาน กลุ่มชายวัยรุ่นที่เหลือวิ่งเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในร้านอาหารสวยน๊ะและบ้านพักครู่ ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง เจ้าพนักงานตำรวจใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตอีกสองคน


 


สิบตำรวจเอกทรงชัย ขวัญพรหม วิทยุขอกำลังสนับสนุน มีทั้งฝ่ายปกครองและอาสาสมัครเจ้าพนักงานตำรวจ ได้ติดตามไปบริเวณบ้านพักครูชายวัยรุ่นสองคนต่อสู้โดยมีอาวุธ สิบตำรวจเอกทวี เสนเมืองและดาบตำรวจอาจินต์ หวานดี ใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตอีกสองคน ทราบชื่อภายหลังคือนายมะลายิ อาบูตัดสา และนายกามารูดิง แมพรมมิ


 


เจ้าพนักงานตำรวจและฝ่ายปกครองได้ปิดล้อมร้านอาหารสวยน๊ะและได้เกลี้ยกล่อม เพื่อให้ชายวัยรุ่นดังกล่าวออกมามอบตัว ทั้งเป็นภาษายาวีและภาษาไทย กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวไม่ยอมออกมามอบตัว ทั้งตะโกนว่าเป็นภาษายาวีแปลว่า สู้ตาย แล้วยิงตอบโต้ออกมาเป็นระยะ เจ้าพนักงานตำรวจร่วมกับเจ้าพนักงานปกครองกับพวกเคลื่อนกำลังเข้าไปประชิด และได้ยิงต่อสู้อยู่ประมาณ 4 - 5 นาที


 


เมื่อเสียงปืนสงบลง พบว่ามีกลุ่มชายวัยรุ่นเสียชีวิตอยู่ในร้านอาหารสวยน๊ะทั้งหมดจากการตรวจสอบ15คน พันตำรวจตรีธนิต แสนเจริญพนักงานสอบสวนเบิกความว่า ภายหลังเกิดเหตุพยานตรวจสอบรายชื่อผู้ตายและร่วมกับแพทย์ พนักงานอัยการ และเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองชันสูติพลิกศพผู้ตาย พยานถ่ายภาพไว้ บางศพนอนตายโดยมีอาวุธมีด อาวุธปืนและระเบิด


 


พยานรวบรวมอาวุธของผู้ตายทั้งหมดและทำบันทึกการตรวจพบอาวุธที่ผู้ตาย และถ่ายภาพไว้ นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ ตันติฉันทการุณ นายแพทย์วิษณุ ฝอยทอง แพทย์ผู้ร่วมชันสูตรพลิกศพผู้ตายทั้งสิบเก้า เบิกความประกอบรายงานการชันสูตรพลิกศพว่า ผู้ตายทั้งสิบเก้าตายด้วยสาเหตุถูกเจ้าพนักงานตำรวจยิง โดยอ้างว่าปฏิบัติการตามหน้าที่


 


พยานหลักฐานผู้ร้องเบิกความเชื่อมโยงสอดคล้องตรงกันเป็นลำดับขั้นตอน ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ปรากฏว่าพยานผู้ร้องมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายทั้งสิบเก้า เชื่อว่า เบิกความไปตามความจริง ส่วนพยานหลักฐานผู้ซักถามที่ 1 ถึงที่ 19 ไม่สามารถนำสืบหักล้างให้ศาลเห็นเป็นอย่างอื่น


 


ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามที่ผู้ร้องนำสืบ เชื่อว่า พฤติการณ์วันเกิดเหตุผู้ตายทั้งสิบเก้ามีอาวุธมีด ปืน และระเบิด เข้ามาจะทำร้ายเจ้าพนักงานตำรวจ ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่หน่วยบริการประชาชน บริเวณห้าแยกทางเข้าเทศบาลสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เจ้าพนักงานตำรวจซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ได้ใช้ปืนยิงต่อสู้เสียชีวิตสองคน กลุ่มผู้ตายที่เหลือวิ่งเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในร้านอาหารสวยน๊ะและบ้านพักครู ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง


 


เจ้าพนักงานตำรวจติดตามไปบริเวณบ้านพักครูสองคนต่อสู้โดยมีอาวุธ เจ้าพนักงานตำรวจใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตอีกสองคน เจ้าพนักงานตำรวจ ฝ่ายปกครองและอาสาสมัคร ภายใต้การสั่งการของร้อยตำรวจเอกอุทัย รักนวล ปิดล้อมร้านอาหารสวยน๊ะและเกลี้ยกล่อม เพื่อให้กลุ่มผู้ตายออกมามอบตัว กลุ่มผู้ตายไม่ยอมออกมามอบตัวทั้งยิงตอบโต้ออกมาเป็นระยะ เจ้าพนักงานตำรวจเคลื่อนกำลังเข้าไปประชิดและยิงต่อสู้อยู่ประมาณ 4-5 นาที พบว่ากลุ่มผู้ตายเสียชีวิตอยู่ในร้านอาหารสวยน๊ะอีกสิบห้าคน


 


อาศัยเหตุผลดังวินิจฉัยมา จึงมีคำสั่งว่า ผู้ตายคือ นายมักตา หอมะเม๊าะ นายยะยา มาหิงตะ นายนิรุพ เระสะอะ นายดือเระ ดือราแม นายมะรอนิง หยงมะเกะ นายสะรอนี กาลอ นายอุสมาน สาและ นายสามิต โสะปนแอ นายอัดนาน ดีสะธรรม นายอับดุลฮาเล็ม ลือมูซอ นายมะลายิ อาบูตัดสา นายกามารูดิง แมพรมมิ นายสมศักดิ์ บังสาสมาน นายอับดุลบาซิต มันปุเตะ นายปาซอรี ดาหายอ นายสะการียา หัดขะเจ นายฮามิ เลาะปุสา นายสารภู หยงมะเกะ นายรอมัน ลือไมติง


 


ผู้ตายทั้งหมด ตายที่ตำบลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่28เมษายน2547 เหตุ และพฤติการณที่ตาย คือ ผู้ตายทั้งสิบเก้าได้ใช้อาวุธมีดและปืน และระเบิดจะเข้าทำร้ายเจ้าพนักงานตำรวจประจำหน่วยบริการประชาชนตำบลสะบ้าย้อย เจ้าพนักงานตำรวจ ร่วมกับเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองกับพวกหลายคน ร่วมกันยิงต่อสู้และร่วมกันปิดล้อมร้านอาหารสวยน๊ะ ภายใต้การสั่งการของร้อยตำรวจเอกอุทัย รักนวล หลังจากนั้นได้มีการต่อสู้กัน ผู้ตายทั้งหมดถึงแก่ความตาย เนื่องจากถูกกระสุนปืนของเจ้าพนักงานตำรวจและเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองกับพวกที่อวัยวะสำคัญ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net