Skip to main content
sharethis





การเมือง


ขู่รัฐล้มหวยตู้ ล็อกซเล่ย์ฟ้อง เรียก2พันล้าน


โพสต์ทูเดย์ - ล็อกซเล่ย์ จีเทค ขีดเส้นตาย รัฐบาล 7 ธ.ค. ก่อนฟ้องเรียกค่าเสียหาย 2,000 ล้านบาท   นายตรีจักร ตัณฑ์ศุภศิริ กรรมการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ล็อกซเลย์ จีเทค เทคโนโลยี ผู้วางระบบหวยออนไลน์ เปิดเผยว่า ได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายของบริษัทฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาล 2,000 ล้านบาท หากไม่ได้คำตอบจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลว่าจะยกเลิกหรือไม่ ภายใน 30 วัน หรือภายในวันที่ 7 ธ.ค.นี้



 


พันธมิตรฯ เปิดถนนราชดำเนินนอกพรุ่งนี้ วิ่งรถได้ตามปกติ


แนวหน้า - เมื่อเวลา 19.00 น.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการเปิดเส้นทางจราจรบริเวณถนนราชดำเนินนอก ว่า พันธมิตรฯ ได้รับการประสานงานเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถนนราชดำเนินนอกจะเป็นเส้นทางสำรอง เพื่อให้พระบรมวงศานุวงศ์ใช้เสด็จในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ดังนั้น ในวันนี้พันธมิตรฯ จึงได้ทำการรื้อเต็นท์และสิ่งกีดขวางทางออกทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้นำเต็นท์หลบเข้าไปตั้งห่างจากถนนราชดำเนนนอกซึ่งเป็นเส้นทางเสด็จประมาณ 30 เมตร ซึ่งทั้งหมดจะต้องทำการรื้อให้เสร็จภายในวันที่ 12 พ.ย.และคาดว่าในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ย.) เวลา 6.00 น.จะสามารถเปิดเส้นทางการจราจรได้ตามปกติ เพื่อให้มีการทดสอบระบบการจราจรบนเส้นทางดังกล่าว


 


รัฐบาลอ้างล่าชื่อส.ส.ครบ เตรียมเสนอแก้รัฐธรรมนูญ


ผู้จัดการรายวัน - นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิป) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติม 1 แสนล้านบาท เพื่ออัดฉีดเศรษฐกิจของประเทศว่า อยู่ที่รัฐบาลว่าจะทำงบประมาณเสร็จเมื่อใด คาดว่าคงจะเป็นช่วงปลายเดือนธ.ค.นี้


 


เมื่อถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายห่วงว่าจะมีการสอดไส้แก้ไขรัฐธรรมนูญเข้ามาด้วย นายวิทยา กล่าวว่า คนละเรื่องกัน ต้องแยกให้ออกเพราะการพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องเป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา แต่การพิจารณางบประมาณ เป็นการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า จะยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เมื่อใด นายวิทยา ตอบว่าต้องดูเวลาที่เหมาะสม หลังงานพระราชพิธีฯ เราก็จะดูอีกครั้งหนึ่ง


 


เมื่อถามว่า ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนหลายคน อยากให้ชะลอการเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปก่อน ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ตนอยู่ในพรรคพลังประชาชนเหมือนกัน จึงอยากรู้ว่า ใครเป็นคนแถลงว่าต้องการให้ชะลอ อาจเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของโฆษกพรรคพลังประชาชน แต่ไม่ใช่มติพรรค ทั้งนี้ การจะมีมติว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ไม่ใช่ฟังความเห็นเพียงแค่ในพรรคพลังประชาชนเท่านั้น แต่ต้องฟังพรรคร่วมรัฐบาล และสมาชิกวุฒิสภาด้วย เพราะต้องเป็นความเห็นร่วมกันของทุกพรรคการเมือง


 


นายวิทยา กล่าวด้วยว่าขณะนี้ได้รวบรวมรายชื่อของผู้สนับสนุนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ครบ 1 ใน 5 ของสมาชิกรัฐสภาแล้ว แต่ก็ต้องกลับไปหารือกันอีกครั้ง มิใช่ได้จำนวน 1 ใน 5 แล้วจะพอ เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างน้อยต้องได้รับความเห็นชอบของสมาชิกรัฐสภาเกินกึ่งหนึ่งด้วย ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับสมาชิกวุฒิสภาก่อน


 






เศรษฐกิจ


ไทยส้มหล่นจีนอัดเงินกระตุ้นศก.


โพสต์ทูเดย์ - ไทยส้มหล่น รับอานิสงส์จีนฉีด 20 ล้านล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ นายสารสิน วีระผล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลจีนใช้งบประมาณ 20 ล้านล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ทำให้ประเทศคู่ค้าของจีน รวมถึงไทยได้รับผลดีตามไปด้วย



"เมื่อเขากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศย่อมมีการลงทุน ก่อสร้างสาธารณูปโภค ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอย นับเป็นโอกาสของไทยที่จะส่งสินค้าเข้าไปได้มากขึ้น ทั้งข้าว มันสำปะหลัง และผลไม้ รวมทั้งอาหาร ขณะที่ญี่ปุ่นก็อาจขายรถเข้าไปจีนได้มากขึ้น ประเทศตะวันตกก็ได้อานิสงส์ที่จะส่งอุปกรณ์และเทคโนโลยีเข้าไปจำหน่าย เพราะจะมีการก่อสร้างเกิดขึ้นมากมาย อีกทั้งเงินหยวนจะไม่แข็งค่าจนเกินไป เนื่องจากต้องนำเข้าสินค้ามาใช้ในการก่อสร้างและเพื่อบริโภค" นายสารสิน กล่าว



 


นายสารสิน กล่าวอีกว่า ผลจากการทุ่มงบประมาณของจีนในครั้งนี้ เป็นโอกาสที่รัฐบาลไทยจะพิจารณาให้ถ่องแท้ ว่าจะเพิ่มบทบาทให้นักธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนในจีนให้มากขึ้น ทั้งอุตสาหกรรมเกษตร และธุรกิจด้านอื่นๆ ได้อย่างไรบ้าง



 


บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน จะทำให้การส่งออกของไทยไปจีนดีขึ้นจากช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ชะลอเหลือ 22.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เติบโต 26.8% สินค้าส่งออกของไทยไปจีนที่ลดลง ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์



 


อัมมารห่วงหนี้ครัวเรือนจี้ธปท.ดูแลหนี้เสีย-ค่าเงิน


ผู้จัดการรายวัน -  นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า วิกฤตการเงินสหรัฐและยุโรปส่งผลกระทบต่อภาคการเงินไทยและมีผลต่อเศรษฐกิจบ้างแต่ไม่มากนัก เพราะภาคธุรกิจและสถาบันการเงินส่วนใหญ่มีความระมัดระวังตัวที่ดีเห็นจากงบดุลบริษัทต่างๆ ที่ดีอยู่ แต่ในปี 52 การเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปจะขยายตัวลดลงอย่างแน่นอน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะส่งผลให้ภาคครัวเรือนไทยได้รับผลกระทบมากกว่าภาคธุรกิจ ซึ่งการฟื้นตัวต้องใช้เวลา หากเป็นไปได้ภาครัฐควรมีนโยบายออกมาดูแลผู้ใช้แรงงานเป็นหลัก ส่วน ธปท.ควรหาทางดูแลภาคธุรกิจที่อ่อนแอ อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้น


 


ด้านอัตราแลกเปลี่ยน แม้ค่าเงินบาทไทยจะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้น้อยมาก แต่อาจได้รับผลกระทบทางอ้อมจากค่าเงินของประเทศเพื่อนบ้านที่มีการค้าขายกันอยู่ จึงควรมีนโยบายใดออกมาควรคำนึงถึงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อนบ้านด้วย และต่อไป ธปท.จะต้องทำงานหนักในการดูแลค่าเงินบาท เพราะมองว่าต่อไปเงินดอลลาร์จะอ่อน ซึ่งจะมีผลต่อเงินบาทไทยด้วย


 


"ไม่ได้ห่วงว่าการเมืองไทยจะส่งผลต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทยมากนัก เห็นได้จากในช่วงทักษิณเป็นนายกฯ เทียบกับในช่วงนี้ที่มีการทะเลาะกันมาก ซึ่งเป็นเรื่องกรรมเก่าของใครคนใดคนหนึ่ง และแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีทุก 3 เดือน แต่โครงการหรือนโยบายต่างๆ ก็ไม่ได้รื้อออกไป และส่งผลให้การเติบโตเศรษฐกิจก็ยังคงอยู่ระดับ 4-5% แม้รัฐบาลไม่เอาไหนและไม่ทำอะไรทุกอย่างก็ยังดีอยู่แล้ว และบางโครงการก็ออกแนวประชานิยม เพื่อช่วยหาเสียงมากกว่า ฉะนั้นเราควรหาทางออกด้านอื่นดีกว่า"นายอัมมารกล่าว


                 






ภาคใต้


ยกฟ้องกบฎเบอร์ซาตู


โพสต์ทูเดย์ - ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้องกบฎเบอร์ซาตู ก่อความไม่สงบ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้  ระบุ หลักฐานไม่มีน้ำหนัก



 


ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่นายอิลยาซ มะลี โต๊ะอิหม่าม หัวหน้ากลุ่มพูโล บีอาร์เอ็น มูจาฮีดีน นายมะเพาซี สะเตง และนายยา อะแด สมาชิกขบวนการแบ่งแยกดินแดนเบอร์ซาตู จำเลยที่ 1 - 3 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ซ่องโจร และสมคบกันเป็นกบฏ โดยคดีนี้ศาลได้จำหน่ายคดีจำเลยที่ 1 และ 2 ออกจากสารบบ เนื่องจากเสียชีวิต เหลือเพียงจำเลยที่ 3 มาฟังคำพิพากษา



 


ศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐาน เห็นว่าคำเบิกความของโจทก์มีพิรุธน่าสงสัยหลายประการ และคำให้การของพยานโจทก์ปากอื่นเป็นเพียงพยานบอกเล่า อีกทั้งจำเลยทั้ง 3 ยืนยันตลอดว่าถูกตำรวจทำร้ายร่างกายให้รับสารภาพ อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง



 


สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2542 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2545 จำเลยร่วมกันกับพวกที่หลบหนี ได้ร่วมขบวนการก่อการร้ายกลุ่มพูโล บีอาร์เอ็น มูจาฮีดีน ต่อมารวมกลุ่มกันใช้ชื่อ เบอร์ซาตู เพื่อก่อความไม่สงบในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีจำเลยที่ 1 เป็นหัวหน้า ร่วมกันยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนเป็นสมาชิก และวางแผนก่อการร้าย ลอบยิง ลอบวางระเบิดทหาร ตำรวจ สถานที่ราชการ ซึ่งจำเลยทั้ง 3 ให้การปฏิเสธ




 






ต่างประเทศ


โสมแดงสั่งปิดชายแดนทางบก เพิ่มความบาดหมางกับโสมขาว


ผู้จัดการรายวัน - รอยเตอร์ - เกาหลีเหนือประกาศว่าจะปิดชายแดนทางบกด้านที่ติดเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป นับเป็นการขยายความบาดหมางที่เพิ่มทวีขึ้นหลังโสมขาวได้ตัวประธานาธิบดีหัวอนุรักษนิยม ขณะเดียวกันก็เป็นการยุติการติดต่อแลกเปลี่ยนที่มีอยู่เพียงน้อยนิดอยู่แล้ว ระหว่างรัฐทั้งสองที่ถูกแบ่งแยกออกจากกันนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็น


 


การปิดชายแดนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลเกาหลีเหนือแสดงความโกรธเคืองต่อรัฐบาลหัวอนุรักษนิยมของเกาหลีใต้ที่มีแนวทางแข็งกร้าวต่อโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของโสมแดง และเกาหลีเหนือยังกล่าวหาว่าเกาหลีใต้นั้นยกระดับการเผชิญหน้าของทั้งสองประเทศ "ให้สูงกว่าระดับอันตราย" ด้วย


         


ทั้งนี้ โสมแดงและโสมขาวถือว่ายังประกาศสงครามกันอยู่ โดยเพียงแต่ทำข้อตกลงหยุดยิงหลังสู้รบกันหนักในช่วง "สงครามเกาหลี" ปี 1950-53 ทว่าไม่อาจทำสนธิสัญญาสันติภาพกันได้ และแม้ชายแดนระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้จะมีการตั้งเขตพื้นที่ปลอดทหารขึ้นมา แต่หลังแนวปลอดทหารออกไป ทั้งสองฝ่ายยังคงชุมนุมกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากจนอยู่ในสภาพเป็นป้อมค่าย และการติดต่อข้ามชายแดนอันน้อยนิดที่ดำเนินอยู่เวลานี้ ก็เป็นผลผลิตของข้อตกลงหลายฉบับที่จัดทำขึ้นในระยะเวลา 10 ปีในช่วงที่เกาหลีใต้มีผู้นำหัวเอียงซ้าย


         


แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและใต้เริ่มปีนเกลียวมากขึ้นนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อประธานาธิบดีลีเมียงบัคเข้ารับตำแหน่งพร้อมกับให้คำมั่นว่าจะใช้นโยบายแข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือ และเสนอด้วยว่าจะให้ความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจก้อนโต หากโสมแดงกลับตัวกลับใจเสียใหม่


 


ทว่า เมื่อเดือนที่แล้ว เกาหลีเหนือได้ขู่จะถล่มเกาหลีใต้ให้ราบเป็นหน้ากลองหากโสมขาวไม่หยุดยั้งกลุ่มประชาชนที่กำลังใช้วิธีต่างๆ เช่น ปล่อยบอลลูน เพื่อส่งใบปลิวต่อต้านรัฐบาลเกาหลีเหนือเข้าไปยังแดนโสมแดง


 


พวกนักวิเคราะห์มองว่าใบปลิวจำนวนมหาศาลที่ถูกส่งเข้าไปในช่วงหลังๆ นั้นมีส่วนสั่นคลอนเก้าอี้ของพวกผู้นำเกาหลีเหนือ และนับวันการเผยแพร่ใบปลิวจะยิ่งกระจายลึกเข้าไปในประเทศมากขึ้น ทำให้รัฐบาลเกาหลีเหนือไม่สบายใจ โดยเฉพาะในช่วงนี้ซึ่งมีข่าวลือเกี่ยวกับสุขภาพของผู้นำสูงสุด คิมจองอิล อยู่ด้วย


 


ในช่วงที่ผ่านมา มีรายงานเผยแพร่ออกมาว่าคิม ซึ่งถือเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำแบบราชวงศ์ขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกคอมมิวนิสต์ อาจกำลังป่วยหนักด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ แม้ว่าทางการเกาหลีเหนือจะยืนยันว่าคิมยังมีสุขภาพดีและรับผิดชอบงานได้ตามปกติก็ตาม


 


ทางฝ่ายเกาหลีเหนือระบุในประกาศเรื่องการปิดชายแดนว่า ข้อตกลงต่างๆ ที่สองฝ่ายทำกันมา 10 ปี กำลังถูกถูกดูแคลนหลังจากที่ลีเข้ารับตำแหน่ง ทั้งนี้ ตามรายงานของสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือ ทางการโสมแดงระบุว่า "รัฐบาลหุ่นเชิดของเกาหลีใต้ไม่ควรลืมว่าความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีทั้งสองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน กำลังอยู่ที่ทางแยกสายสำคัญ ระหว่างการคงความสัมพันธ์ที่มีอยู่ต่อไป กับการแยกขาดจากกัน"


 






ศิลปวัฒนธรรม


กรมศิลป์แนะทวงรัฐบาลโสมชี้ฟอสซิลภูเวียงเป็นสมบัติชาติ


คมชัดลึก -  ดร.พิสิฐ เจริญวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคด้านโบราณคดีและวิจิตรศิลป์ แห่งองค์การรัฐมนตรีศึกษา ประจำสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SPAFA : SEAMEO) นักโบราณคดีผู้เป็นแกนนำดำเนินเรื่องทวงคืนทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์จากสถาบันศิลปะชิคาโกของสหรัฐอเมริกาเมื่อ 20 ปีที่แล้วกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สำหรับนักโบราณชีววิทยาทั่วโลกแล้ว การพบกระดูกหรือฟอสซิลไดโนเสาร์อายุ 100 กว่าล้านปี แถบอีสานของประเทศไทยถือเป็นเรื่องสำคัญทางประวัติศาสตร์มาก เนื่องจาก 1.มีการพบรอยเท้าไดโนเสาร์ 2.มีการขุดพบกระดูกไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งชนิดกินพืชและกินเนื้อ 3.เป็นกระดูกไดโนเสาร์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ มีทั้งไดโนเสาร์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่



 


ดร.พิสิฐกล่าวด้วยว่า ฟอสซิลไดโนเสาร์ถือเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ ไม่อนุญาตให้ซื้อขายออกนอกประเทศ หากมีการลักลอบนำออกไป แล้วเอามาขายคืนถือว่าเป็นฟอสซิลผิดกฎหมาย รัฐบาลไทยซื้อคืนไม่ได้ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นการซื้อของโจร สิ่งที่ต้องทำคือเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ช่วยติดตามทวงคืน โดยติดต่อผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ในไทย ถือเป็นการขอความร่วมมือระหว่างประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันหาข้อมูลเพื่อทวงคืนฟอสซิลไดโนเสาร์ให้กลับคืนประเทศไทย



"เป็นที่รับรู้ร่วมกันว่ารัฐบาลของแต่ละประเทศจะไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่รับบริจาคโบราณวัตถุหรือสิ่งของทางประวัติศาสต์-วัฒนธรรม ที่ไม่รู้ที่มาที่ไปหรือที่เรียกกันว่า แอคควิซิชั่น เอธธิก (Acquisition Ethics) หรือการครอบครองอย่างมีจริยธรรม"



 


แกนนำทวงคืนทับหลังนารายณ์แนะด้วยว่า ฟอสซิลไดโนเสาร์ถือเป็นทรัพย์แผ่นดินไทย ไม่ว่านักธุรกิจเกาหลีใต้จะซื้อไปได้ด้วยวิธีใดก็ตาม หากกระทรวงการต่างประเทศรู้เรื่องแล้วต้องดำเนินการตามขั้นตอน คือ 1.ทำหนังสือทวงคืน รวมถึงติดต่อไปยังรัฐบาลเกาหลีใต้ให้รู้ว่า นี่เป็นการทำผิดกฎหมายไทย ไม่ควรนิ่งเฉย 2.ต้องระวังไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งค้าฟอสซิลข้ามชาติ ที่อาจไม่ต้องการขายคืนรัฐบาลไทยจริง เพียงแต่ต้องการให้รัฐบาลไทยออกหนังสือยืนยันความต้องการซื้อ หรือหนังสือยืนยันว่าเป็นฟอสซิลของไทยจริง หรือหนังสือต่อรองราคา เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการขายฟอสซิลไดโนเสาร์ให้กลุ่มนักสะสมในตลาดมืด หลักฐานเหล่านี้จะทำให้ฟอสซิลผิดกฎหมายราคาสูงขึ้นไปอีก ถือเป็นหนังสือรับรองทางอ้อม



  

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net