Skip to main content
sharethis


รูปชนะเลิศ


 




รูปถูกนำไปติดแสดงไว้ตามสถานที่ต่างๆ ในตัวเมืองปัตตานี


 




วันที่ผู้ว่าฯ ปัตตานี ภาณุ อุทัยรัตน์ มอบรางวัล


 






ศิลป์กีรติ ว่าโร๊ะ



 


ดูเหมือนวันนี้ ประเทศไทยแทบไม่เหลือร่องรอยความสมานฉันท์ยิ่งขึ้นทุกที ด้วยมองไปทุกที่มีแต่เรื่องราวแห่งความขัดแย้ง ไม่ว่าความขัดแย้งขั้นแตกหักทางการเมือง ปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ข้อพิพาทปราสาทเขาพระวิหารกับกัมพูชา


 



มิหนำซ้ำยังต้องฝ่าสภาวะตกต่ำทางด้านเศรษฐกิจ ด้วยค่าครองชีพที่สูงสุดกู่อีกต่างหาก


 



ท่ามกลางดงควันปืน เสียงระเบิด และกลิ่นสาบคาวเลือด ในจังหวัดชายแดนใต้ เรารู้ๆ กันอยู่ว่า ความหวาดหวาดระแวง ความหวาดกลัวไม่ไว้วางใจกันและกัน ได้กัดกินความเป็นมิตรไปมากขนาดไหน คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ที่จะค้นพบรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความรัก ความเอื้ออาทร เป็นกันเองดังแต่ก่อน



 


ทว่า ในท่ามกลางความขัดแย้ง ย่อมมีความสวยงามเสมอ ตราบใดที่ยังมีดอกกุหลาบเสียบปลายกระบอกปืน เช่นเดียวกับดอกไม้ย่อมบานได้บนกองขยะ ที่กล่าวมาเป็นแค่การยกตัวอย่าง เปรียบเทียบระหว่างสิ่งที่ตรงกันข้าม ย่อมเกิดความงดงามท่ามกลางขัดแย้งปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ


 



เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2551 ทางจังหวัดปัตตานี ได้จัดพิธีมอบรางวัลการประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ "ยิ้มปัตตานี" โดยในการจัดการประกวด ได้แบ่งภาพถ่ายออกเป็น 2 ประเภท คือ


 



1. ภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอล



2. ภาพถ่ายจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ (มือถือ)



 


หนึ่งในรางวัลชนะเลิศ ตกเป็นของ "นายมูฮัมหมัดยูซุฟ มามะ" นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขานวัตกรรมการออกแบบสื่อและการผลิตสื่อ คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี โดยคว้ารางวัลชนะเลิศประเภทภาพถ่ายจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ ได้รับทุนการศึกษา 20,000 บาท



 


ภาพที่ได้รับรางวัลเป็นภาพ "นายมูฮัมหมัดยูซุฟ มามะ" ในชุดละหมาดกับ "ส.ต.ท.คมสัน บุตดา" เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งกำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่บริเวณซุ้มประตูเมืองปัตตานี ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี กำลังกอดคอยิ้มอย่างเป็นกันเอง



 


"นายมูฮัมหมัดยูซุฟ มามะ"ซึ่งเป็นคนปัตตานีโดยกำเนิด บอกว่าทราบข่าวการจัดการประกวดภาพถ่ายหัวข้อ "ยิ้มปัตตานี" จากประกาศโฆษณาไวนิล และเว็บไซต์จังหวัดปัตตานี อันเป็นผู้จัดการประกวดภายใต้แนวคิดของ "นายภานุ อุทัยรัตน์" ที่วันนี้กลายเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีไปแล้ว



 


เมื่อถามถึงที่มาของรูปที่ได้รับรางวัล คำตอบที่ได้รับกลับมา ก็คือ เป็นภาพถ่ายระหว่างเดินทางกลับจากละหมาด "ศุฮ์ริ" ตอนหลังเที่ยงของวันหนึ่งกับเพื่อน แล้วบังเอิญเจอตำรวจนายหนึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ ตรงบริเวณซุ้มประตูเมืองปัตตานี



 


"ผมเข้าไปผูกมิตร ทำความรู้จัก และให้เพื่อนที่เดินมาด้วยถ่ายรูปไว้ 3-4 รูป ทั้งด้วยกล้องมือถือ และกล้องดิจิตอล หวังลึกๆ ว่าจะได้ภาพที่ดีจากกล้องมือถือ" เป็นคำบอกเล่าจากเจ้าของรางวัลชนะเลิศ


 


คิดว่ารูปตัวเองที่ได้รับรางวัลได้แสดงอัตลักษณ์ความเป็นปัตตานีหลายๆ อย่างอยู่ในนั้น ทั้งบริเวณซุ้มประตูเมืองปัตตานี และบรรยากาศที่สื่อถึงความเป็นอยู่ของวิถีชีวิตชาวบ้านกับเหตุการณ์ความไม่สงบโดยความสัมพันธ์ระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่รัฐ ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพ



 


แถมตำรวจที่เขาขอกอดคอถ่ายรูปตอนนั้น วันนี้ กลายเป็นเพื่อนสนิทของเขาไปแล้ว



 


นี่คือ ความสวยงามในอีกแบบ ที่คนนอกพื้นที่ไม่มีโอกาสได้สัมผัส



โดยให้แนวคิดในการถ่ายภาพครั้งนี้ไว้ว่า "ต้องการแสดงให้เห็นถึงความรักอย่างแท้จริงของชาวปัตตานี มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน และเห็นคุณค่าของการเอื้ออาทรระหว่างกัน โดยกอดคอกันยิ้มเพื่อสื่อให้เห็นถึงความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรมที่ลงตัว มีความรัก ความสามัคคี ความเอื้ออาทรต่อกันอย่างชัดเจน"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net