ยอดผู้ว่างงานเดือนกันยายนของไทยเพิ่มเป็น 4.3 แสนคน

สำนักงานสถิติแห่งชาติ รายงานจำนวนผู้ว่างงานล่าสุดเดือนกันยายนปีนี้ มีจำนวน 432,000 คน คิดเป็นอัตราว่างงาน 1.1% ของผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานทั้งสิ้น 37.76 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5,000 คน โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราการว่างงานสูงสุดในอัตรา 1.3% รองลงมาคือ กรุงเทพมหานครและภาคเหนือ ที่มีอัตราการว่างงาน 1.2% ส่วนภาคใต้ 1% ขณะที่ภาคกลางมีอัตราว่างงานน้อยที่สุด 0.9%

สำหรับจำนวนผู้ว่างงานทั้งหมด แยกเป็นผู้ว่างงานที่เคยมีงานทำมาก่อน 270,000 คน ส่วนผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนมีประมาณ 162,000 คน

ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้เชิญสมาชิกทั่วประเทศหารือแนวทางแก้ปัญหาปลดพนักงานรวมถึงประเมินตัวเลขการเลิกจ้างงานที่แท้จริงในปี 2551 - 2552 เนื่องจากยอดคำสั่งซื้ออย่างไม่เป็นทางการได้ลดลง 20 - 30% ซึ่งเบื้องต้นนายจ้างยืนยันที่จะรักษาแรงงานจนถึงปลายปีนี้เท่านั้น

สภาอุตสาหกรรม ชี้ปี 52 มีแรงงานภาคอุตสาหกรรมเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้าง 4.5 ล้านคน

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เรียกประชุมสมาชิก สอท.ทั่วประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์การเลิกจ้างงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีแรงงาน 9 ล้านคน พบว่า 50% หรือ จำนวน 4.5 ล้านคน ยังไม่เลิกการจ้างงานแน่นอน ส่วนแรงงานที่เหลืออยู่อีก 4.5 ล้านคน จะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เข้าข่ายถูกเลิกจ้างงาน ซึ่งในจำนวนนี้แบ่งเป็น 12.4% หรือ 1.1 ล้านคน ผู้ประกอบการยืนยันแน่นอนแล้วว่า จะปลดคนงาน ส่วนที่เหลือกว่า 30% ผู้ประกอบการเห็นว่ายังไม่มีความแน่นอนว่า จะปลดคนงานหรือไม่เพราะต้องรอสถานการณ์ของยอดขายก่อน

นายสมมาต ขุนเศรษฐ รองเลขาธิการ ส.อ.ท. กล่าวว่า ผลสำรวจผู้ประกอบการที่จะปรับคนงานออกในปี 52 จำนวน 1.1 ล้านคน คาดว่า จะเกิดขึ้นมากที่สุดในไตรมาส 2 คือ ตั้งแต่เดือน มี.ค. - มิ.ย.52 เพราะในไตรมาสแรกผู้ประกอบการหลายรายยังมีออร์เดอร์เก่าที่ลูกค้าสั่ง จึงสามารถผลิตสินค้าได้อีก โดยอุตสาหกรรมที่จะปลดคนงานมาก เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เซรามิกส์ ของเล่นเด็ก และสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งมีคำสั่งซื้อลดลงอย่างมาก

ด้าน นายธนิต โสรัตน์ รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า เมื่อดูข้อมูลจากผลสำรวจผู้ประกอบการทั่วประเทศพบว่า แรงงานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือจะตกงานมากสุด เพราะส่วนใหญ่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเกษตร ร้านอาหาร และบริการท่องเที่ยว โดยเฉพาะภาคเหนือที่มียอดจองที่พักลดลงถึง 50%

เรียบเรียงจาก: แนวหน้า, เดลินิวส์