(25 พ.ย.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีเนื้อหาคำแถลง ดังนี้
00000
คำแถลง
การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ใช่การใช้เสรีภาพในการชุมนุมที่สงบปราศจากอาวุธตามรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการกระทำที่ใช้กำลังความรุนแรง ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น อันเป็นการขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง
ทั้งๆ ที่ทราบดีอยู่แล้วว่า การประชุมรัฐสภาที่จะมีขึ้นไม่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่กลุ่มพันธมิตรฯ กลับใช้เป็นข้ออ้างในการเคลื่อนไหว ที่ลุกลามบานปลายมากกว่าการขัดขวางการประชุมรัฐสภาไปอีกมาก แม้จะมีการเลื่อนประชุมรัฐสภาออกไปแล้ว การเคลื่อนไหวที่ผิดกฎหมายนี้ยังไม่ได้ลดน้อยลง จนเห็นได้ชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ มีจุดมุ่งหมายอยู่ที่การขัดขวางการทำหน้าที่ของรัฐ ทั้งฝ่ายบริหาร และนิติบัญญัติ ทำให้บ้านเมืองอยู่ในสภาพปกครองไม่ได้ สร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะได้ใช้เป็นข้ออ้างในการที่ผู้มีอำนาจทางทหารจะทำรัฐประหาร ล้มล้างประชาธิปไตย แล้วสร้างระบบการปกครองที่เป็นเผด็จการภายใต้ชื่อที่เรียกว่า "การเมืองใหม่"
การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ ไม่ต่างอะไร จาก"การรัฐประหารอีกรูปแบบหนึ่ง" ที่ยังไม่สำเร็จสมบูรณ์ และยังต้องอาศัยการสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมให้พัฒนาไปสู่การรัฐประหารอย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง
การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่เพียงแต่เป็นอุปสรรคต่อการที่รัฐบาลไทยจะเข้าร่วมประชุมกลุ่มประเทศอาเซียนบวกหกเท่านั้น แต่การขัดขวางการทำงานของรัฐบาลและรัฐสภา การเคลื่อนไหวที่เป็นอนาธิปไตยนี้กำลังทำลายภาพพจน์และความเชื่อมั่นที่นานประเทศมีต่อประเทศไทย ซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจของประเทศให้เลวร้ายหนักยิ่งขึ้นไปอีก
หากกลุ่มพันธมิตรฯ ไปชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ ๒๖ พ.ย.นี้จริง จะยิ่งทำให้ภาพพจน์ของประเทศเสียหายยับเยินหนักเข้าไปอีก
กรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่สามารถสร้างความเสียหายต่อประเทศอย่างร้ายแรงต่อเนื่อง และยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงง่ายๆ นี้ เกิดขึ้นได้เพราะไม่มีการรักษากฎหมาย เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่อาจบังคับใช้กฎหมายเพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดการปะทะ และจะถูกนำไปเป็นข้ออ้างในการรัฐประหาร ซึ่งจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก
นี่แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของระบบยุติธรรมของประเทศ สังคมไม่ยึดหลักนิติธรรม ระบอบประชาธิปไตยยังอ่อนแอ ยังมีความเสี่ยงที่อาจเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจได้ทุกขณะ
ต่อสภาวะวิกฤตเฉพาะหน้านี้ ขอเสนอ
๑)สังคมไทยควรตั้งสติให้มั่น ใช้ปัญญา เหตุผลในการแก้ปัญหาด้วยความอดทน สังคมไทยต้องไม่ยอมแพ้ ยอมจำนนต่อการเคลื่อนไหวที่ใช้ความรุนแรงและผิดกฎหมายนี้ ไม่ควรคิดแบบขอไปที เช่น ยอมๆ เขาไปเสียเถอะ จะได้จบๆ กันไปเสียที การไม่ยืนยันในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมกลับจะยิ่งสร้างปัญหาอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
๒)ประณาม คัดค้านการเคลื่อนไหวที่รุนแรงของกลุ่มพันธมิตรฯ นับตั้งแต่การเข้ายึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสถานีโทรทัศน์ ปิดล้อมรัฐสภา ปิดล้อมที่ทำงานชั่วคราวรัฐบาลเขตสนามบินดอนเมือง ฯลฯ
๓)เรียกร้องให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมาย ยุติการทำผิดกฎหมายซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของความรุนแรง
๔)แสดงความไม่เห็นด้วยและคัดค้านการรัฐประหาร ป้องกันไม่ให้เกิดเงื่อนไขที่นำไปสู่การรัฐประหาร
เมื่อผ่านวิกฤตช่วงนี้ไปแล้ว สังคมจำเป็นต้องมีการหารือกันว่า จะทำให้สังคมกลับมาเป็นสังคมที่สามารถรักษากฎหมายได้อย่างไร บ้านเมืองจะเป็นนิติรัฐ ยึดหลักนิติธรรม ที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยเท่าเทียมกันได้อย่างไร
จาตุรนต์ ฉายแสง
๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
.........................
หมายเหตุ: ตัวหนาเน้นโดยตัวผู้แถลง