พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม แถลงข่าวหลังจากหารือครั้งสำคัญในช่วงบ่ายร่วมกับฝ่ายความมั่นคง หัวหน้าส่วนราชการระดับอธิบดีขึ้นไป อธิการบดีมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน รวมทั้งนายกสมาคมภาคธุรกิจหลายสาขา ที่ประชุมมีมติร่วมจะแก้ปัญหาครั้งนี้ ภายใต้กรอบของประชาธิปไตย ไม่ใช้ความรุนแรง โดยจะทำหนังสือเสนอให้นายกรัฐมนตรียุบสภาและให้มีการเลือกตั้งใหม่ รวมถึงให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย  (พธม.) ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิโดยเร็วและยุติการชุมนุมในทุกพื้นที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำหนังสือถึงนายกฯ เป็นการกดดันนายกฯ หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้กดดันรัฐบาล ประเทศชาติได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในปัจจุบัน มีผู้เกี่ยวข้องคือ รัฐบาลและ พธม. ซึ่งทั้งสองส่วนเป็นส่วนที่จะแก้ปัญหาได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าทั้งสองฝ่ายไม่ยอม จะทำอย่างไรต่อไป นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เชื่อว่านี่เป็นมาตรการเดียวที่จะทำได้ โดยเชื่อว่าถ้ารัฐบาลคืนอำนาจให้ประชาชน โดยการยุบสภาแล้ว ความชอบธรรมในการเรียกร้องชุมนุมของ พธม.ก็จะหมดไป เมื่อนั้น พธม.ก็จะต้องตอบคำถามเรื่องความชอบธรรมในทางสังคม และทุกคนต้องถาม พธม.

นายสุรพล กล่าวว่า ทัศนะนี้เกิดจากความบริสุทธิ์ใจ หวังว่ารัฐบาลจะไตร่ตรองและใช้ดุลพินิจ ตัดสินใจเพื่อยุติความรุนแรง หากรัฐบาลไม่มีข้อเสนอ ไม่มีแนวทางจัดการ รวมถึงไม่ทำตาม ก็อาจถึงขั้นปฎิเสธความชอบธรรมในการบริหารงานของรัฐบาลต่อไป

ผู้สื่อข่าว ถามว่า นี่คือการยึดอำนาจเงียบหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ ตอบว่า การแก้ปัญหานี้ได้ยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง อยู่บนกรอบของประชาธิปไตย ไม่มีการยึดอำนาจ และรัฐธรรมนูญก็ยังอยู่

พล.อ.อนุพงษ์ ได้ขอร้องสื่อว่า หลังจากพิจารณาหลายแง่มุมแล้ว ทิศทางนี้น่าจะเป็นไปได้ ขอให้สื่อช่วยสื่อให้ประชาชนเห็นว่าจะแก้ปัญหาได้ อย่าตั้งคำถามว่าถ้าไม่ทำแล้วจะเป็นอย่างไร อยากให้สร้างความเข้าใจ มากกว่าพาดหัวข่าวว่า "กดดันรัฐบาล"

ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ยืินยันว่า ได้พิจารณาแล้วว่า การปฎิวัติทำไม่ได้ เพราะทำแล้วปัญหาจะไม่จบ จะเกิดปัญหามากมาย ตอบคำถามต่างชาติไม่ได้ เศรษฐกิจและสังคมเกิดความแตกแยก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ารัฐบาลยอมถอย แต่ พธม. ไม่ยอมจบจะทำอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า สังคมคงต้องให้เจ้าหน้าที่มีความชอบธรรมที่จะดำเนินการได้ เพราะหาก พธม. ยังดำเนินการดังกล่าว ผลกระทบจะเกิดมาก ทั้งการปะทะกันของคนในชาติ เศรษฐกิจจะล่มจม ทั้งนี้เชื่อว่าประชาชนมีความรักประเทศชาติเหมือนกันทุกคน

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน และผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีออกมาตอบโต้พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ว่า หากต่อไปภายภาคหน้ามีคนจำนวนหนึ่งหมื่นคนมาปิดสนามบิน หรือปิดทำเนียบรัฐบาล จะต้องเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกหรือ
 

"พวกผมเองกำลังปรึกษาหารือกันอยู่ ที่ตั้งใจกันอยู่ว่าหากท่านพลเอกอนุพงษ์ ไม่ได้มีภารกิจมาเสนอให้รัฐบาลกระทำการใดๆ วันนี้เราบอกว่า ถ้าพลอ.อนุพงษ์ใช้วิธีการเดิมๆ ให้นายกฯ ลาออก พวกเราเองก็คงทนกันไม่ได้ และคงชักชวนคนอออกมาชุมนุม และเนื่องจากพวกเราเองมีกลุ่มคนจำนวนมากที่มีความพร้อมที่จะออกมาชุมนุม และจะกำหนดมาตรการอย่างช้าวันพรุ่งนี้ คือข้อเรียกร้องของผู้บัญชาการทหารบก เอานายสุรพล นิติไกรพจน์ซึ่งยืนอยู่ข้าง คมช. มาลดความน่าเชื่อถือ แค่เห็นหน้าก็บอกยี่ห้อแล้ว" นายจตุพร กล่าว

สุริยะใส ย้ำ นายกฯ ต้อง "ลาออก" ไม่ใช่ "ยุบสภา"

ขณะที่ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานกลุ่ม พธม. กล่าวว่า จริงๆ เฉพาะประเด็นเรื่องยุบสภา ผมไม่ได้ฟังว่ามีการเสนอเรื่องลาออก จริงๆ แล้วการลาออกเป็นจุดยืน พธม. มาแต่ต้น และเราคัดค้านเรื่องการยุบสภา เพราะมันจะนำไปสู่ความขัดแย้งใหม่ และจะถูกผลักภาระไปให้ประชาชน และประชาชนทั้งสองฝ่ายก็ไม่อยู่ในความพร้อมที่จะเลือกตั้งใหม่ และในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ความขัดแย้งจะถูกกลบหมด ในนาม พธม. แล้วเท่าที่สอบถามประเด็นยุบสภานั้นเราไม่เห็นด้วย น่าจะเป็นการลาออกมากกว่า และที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอเรื่องยุบสภาหรือลาออก แต่อย่างน้อยก็มีฐานการวิเคราะห์คล้ายๆ พันธมิตรฯ ว่ารัฐบาลไปไม่รอด อยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจว่าจะลาออกหรือยุบสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าเลือกทางลาออก แล้วการเมืองจะไปอย่างไร ในเมื่อสัดส่วนในพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯ ก็จะยังเป็นคนในพรรคพลังประชาชนเหมือนเดิม รวมถึงมองเรื่องรัฐบา่ลแห่งชาติอย่างไร นายสุริยะัใสตอบว่า ผมคิดว่า พธม. เคยนำเสนอไปในแถลงการณ์ ฉบับที่ 21 เรื่องรัฐบาลประชาภิวัฒน์ หรือรัฐบาลแห่งชาติ หรือรัฐบาลเฉพาะกาลก็แล้วแต่ อยู่บนฐานที่เอาปัญหาของบ้านเมืองออกจากสภา เราต้องยอมรับว่าระบบและวิกฤตการณ์การเมืองขณะนี้มันแก้ไม่ได้ในกระบวนการปรกติ หรือรัฐสภา ถ้าเราโยนกลับไปที่รัฐสภา มันจะไม่ไปไหน เสื้อเหลืองเสื้อแดงก็ยังแตกแยกอยู่ ทางออกในเรื่องนี้ คิดว่าน่าจะมีรัฐบาลประชาภิวัฒน์ กลับไปสู่การเลือกตั้ง อย่าไปติดกับว่าต้องไปตามกรอบรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า สิ่งที่พธม. ทำอยู่ มีเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการ ทาง พธม. จะทบทวนเรื่องนี้บ้างไหม นายสุริยะใส ตอบว่า เราเข้าใจดี และยอมรับสภาพ แต่ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็ต้องกลับไปมองที่รัฐบาลที่เป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด แค่รัฐบาลลาออกก็จบปัญหา แต่การกดดันพันธมิตรฯ แล้วไม่มองรัฐบาลก็ไม่มีประโยชน์ เพราะรัฐบาลไปไม่ได้ และรัฐบาลพยายามเอาประโยชน์แก่ทักษิณซึ่งพันธมิตรฯ รับไม่ได้ และมีจุดยืนจะชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิต่อไป