ส่วนนโยบายอื่นๆ จะช่วยให้คนกรุงมีงานทำมากขึ้น ขึ้นเงินเดือนให้คนกวาดขยะและคนรดน้ำต้นไม้ ร้อยละ 6 เป็นต้น สำหรับแนวทางการหาเสียงจะเน้นไปที่สื่อทุกรูปแบบ ส่วนทีมงานอยู่ระหว่างการคัดเลือก อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการลงพื้นที่พบปะประชาชนถือว่าเป็นจุดอ่อนของตัวเอง

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวไม่ขอลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หลังจากที่ได้ลงสมัครไป 2 ครั้งแต่กลับไม่ได้รับความไว้วางใจจากคนกรุงเทพฯ เจตนารมณ์ของตนจึงสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา ในการเลือกตั้งผู้ว่า ฯ กทม ครั้งก่อน ดังนั้น ขอทำหน้าที่รับใช้คนกรุงเทพฯ และคนไทยในฐานะอื่นดีกว่า

นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่าระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งที่แล้ว ตนได้นำเสนอข้อเท็จจริงกรณีรถดับเพลิงของ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน แต่ไม่มีใครฟังเพราะฉะนั้นในเมื่อตนกล้าเสนอตัว แต่คนกรุงเทพฯ ไม่กล้าเลือก ก็คงต้องขอกลับไปเป็นประชาชนธรรมดา

ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานอำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการเตรียมความพร้อมส่วนหนึ่งของผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีความพร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. ทั้งนี้พรรคเชื่อว่า เราจะมีโอกาสในการนำเสนอนโยบายแนวความคิด ที่จะยกระดับพัฒนาความเป็นอยู่ของพี่น้องชาว กทม.ในช่วง 40 วันข้างหน้าก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้ง 11 ม.ค.52

"ทางพรรคพร้อมที่จะชี้แจงทุกเรื่องที่คาดว่าจะถูกผู้สมัครอื่นโจมตี โดยเฉพาะ การลาออกของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. จนทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ เป็นเหตุให้ประเทศเสียงบประมาณกว่าร้อยล้านบาท ซึ่งทั้งหมดไม่ได้เป็นข้อกังวลของพรรคที่จะต้องอธิบาย"นายกรณ์ กล่าว

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า กระบวนการในการหาเสียงของพรรค ก็มีความพร้อม เนื่องจากได้มีการเตรียมการมาตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหลังจากที่มีการเปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการแล้ว ทางตัวผู้สมัครและทีมงาน ผู้แทนของพรคทุกระดับในพื้นที่ กทม.ก็พร้อมที่จะประสานกันในการนำเสนอความคิดในเชิงนโยบายของผู้สมัครเพื่อให้ประชาชนพิจารณาและให้โอกาสกับผู้สมัครของพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้า มรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครของพรรคไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ จะถือว่า ประธานอำนวยการเลือกตั้ง เสียหน้าหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า นอกจากเสียหน้าแล้ว ตนจะเสียใจมาก วันนี้ตนขอยืนยันว่า คิดว่าสิ่งที่ มรว.สุขุมพันธุ์พูดกับพวกเราในห้องประชุมวันนี้ เป็นการสะท้อนถึงความในใจและเป็นกำลังที่ให้กับพวกเราทุกคนโดย ได้ให้คำมั่นกับที่ประชุม 3 ข้อ คือ 1.จะขยัน 2 จะไม่ประมาท 3 จะไม่แพ้ เพราะฉะนั้นด้วยคำมั่น 3 คำนี้เป็นกำลังของพวกเรา

"ที่สำคัญผมอยากจะสื่อกับพี่น้องชาว กทม.ว่าขอโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งหนึ่ง ที่ได้ส่งบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถมากที่สุดคนหนึ่งมาเป็นตัวเลือกให้กับประชาชน ซึ่งพรรคมั่นใจว่าจะนำชัยชนะมาสู่พรรคได้" นายกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

---------------------

ที่มา: http://www.komchadluek.com