Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. นายนรชิต สิงหเสนี รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวภายหลังได้เข้าร่วมประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ระหว่างวันที่ 24-28 พ.ย. ที่นครเจนนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์  โดยนายนรชิต กล่าวว่า เมื่อไทยร่วมเป็นสมาชิกอนุสัญญาดังกล่าวแล้ว จะต้องเก็บกู้ทุ่นระเบิดภายใน ปี 2553 โดยที่ประชุมมีมติให้ประเทศที่ครบกำหนดเวลาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด สามารถสัญญาต่อไปได้ โดยไทย เป็น 1 ใน 15 ประเทศ ที่ได้รับความเห็นชอบดังกล่าว


 


นายนรชิต กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ไทยประเมินว่าจะใช้เวลา 9 ปี 6 เดือนในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เนื่องจากตามแนวชายแดนของไทยทุกภาคมีทุ่นระเบิดฝังอยู่ ต้องใช้เวลาในการเก็บกู้ ถ้าหากประเมินเป็นพื้นที่ มีประมาณกว่า 2 พันตารางกิโลเมตร แต่เมื่อปี 2551 ไทยได้นำระบบการประเมินมาตรวจสอบว่ามีพื้นที่ใดบ้างที่น่าจะมีทุ่นระเบิด ทั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเหลือพื้นที่ต้องตรวจสอบเพียง 528 ตารางกิโลเมตร


 


ด้านนายวีระชัย พลาศรัย อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้ใช้โอกาสในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ยกประเด็นพบทุ่นระเบิดชนิด PMN2 เป็นระเบิดฝังใหม่ในดินแดนไทย ส่งผลให้ทหารพราน 2 นายของไทยเหยียบทุ่นระเบิดดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยขณะที่ไทยหยิบประเด็นนี้ขึ้นในที่ประชุม ฝ่ายกัมพูชาก็โมโห จากนั้นกัมพูชาได้ทำเอกสารตอบโต้ฝ่ายไทยที่หยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นในที่ประชุม


 


นายวีระชัย กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม กัมพูชาได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้เป็นการภายในและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขณะที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการหาข้อเท็จจริงจาก 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ไทย กัมพูชาและประเทศที่ 3 ซึ่งทั้งไทยและกัมพูชาเห็นประโยชน์ของการตั้งคณะกรรมการ แต่ฝ่ายกัมพูชายืนยันจะขอให้มีผลสรุปการสอบสวนก่อนที่จะให้มีการตั้งคณะกรรมการจาก 3 ฝ่ายชุดดังกล่าวขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ก่อนปิดการประชุม ทางกัมพูชาได้มีถ้อยแถลงแสดงความเสียใจที่ทหารพรานฝ่ายไทยเหยียบกับระเบิด ซึ่งในขณะนี้รัฐบาลไทยยังไม่มีแนวทางที่จะยื่นเรื่องดังกล่าวต่อนายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติให้สอบถามไปยังประเทศกัมพูชา แต่ไทยยืนยันที่จะแก้ปัญหาในระดับทวิภาคี เพื่อแสดงถึงความเป็นประเทศที่มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน


 


ส่วนกรณีที่กัมพูชาแสดงความห่วงกังวลต่อเสถียรภาพการเมืองไทยที่ไม่สามารถเปิดประชุมสภาฯ ได้และอาจส่งผลต่อการพิจารณากรอบการทำงานของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี นายวีระชัย กล่าวว่า กัมพูชาต้องเข้าใจว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ทางตันและไทยยังสามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้


 


"เพื่อน ก็ต้องเข้าใจเพื่อนด้วย รัฐสภาปิดเดี๋ยวก็เปิด สามารถขอประชุมสภาฯ สมัยพิเศษได้ มันไม่ใช่เป็นทางตัน ไม่ใช่ว่ารัฐสภาไทยตายไปแล้ว ผมเรียนว่ายังไม่ตาย เพราะ ส.ส.มีจำนวนไม่มากที่ถูกตัดสิทธิ์ และก็เลือกตั้งซ่อมได้ แต่ก่อนเลือกตั้งซ่อม องค์ประชุมต้องครบ ขณะนี้ยังมองไม่เห็นปัญหา และต้องใจเย็นๆ อย่าเอาประชาธิปไตยไทยมาอ้างเพื่อที่จะบอกว่ามันไม่ได้ผล" นายวีระชัยกล่าว


 


เมื่อถามว่า ในการประชุมสภาฯ ในวันที่ 8-9 ธ.ค. กระทรวงการต่างประเทศจะเสนออะไรเป็นพิเศษ นอกจากเรื่องอาเซียนหรือไม่ นายวีระชัย กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้เสนอกรอบการทำงานของเจบีซี เข้าสภาฯ ไปก่อนหน้านี้พักใหญ่แล้ว     


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net