Skip to main content
sharethis

13 .. 51 - ทักษิณงดโฟนอิน "ความจริงวันนี้" มีแต่วีทีอาร์ อัดนักการเมืองหักหลัง ย้ำจงรักภักดีต่อสถาบัน และไม่พูดมากในวันนี้เพราะกลัวบ้านเมืองแตกความสามัคคี วอนขอเบื้องหลังหยุดแทรกแซงปล่อยให้กลไกทำงาน วีระชี้ทักษิณงดโฟนอินเพราะ"เสนาะ - ประชา" โทรร้องขอให้งดเพื่อเป็นเครดิตในการตั้งรัฐบาล


 


เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ในเวทีรายการ "ความจริง วันนี้ สัญจร" ครั้งที่ 3 ได้มีการฉายวีทีอาร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวในวีทีอาร์ว่า


 


"...เป็นการพบกันอีกครั้งหนึ่ง เรื่องแรกที่เกิดขึ้น การเข้ายึดสนามบิน มีผลกระทบรุนแรงมากต่อความเชื่อมั่นประเทศไทย ไม่ว่าเรื่องการท่องเที่ยว และการลงทุน เศรษฐกิจของเรามีปัญหา ทั้งที่มีปัญหาอยู่แล้ว มีปัญหาสังคมตามมา ส่งออกลดลง วิกฤตสหรัฐ มีผลกระทบหมด  สิ่งที่เกิดขึ้น ผมห่วงว่าลูกหลานที่จบการศึกษาปีนี้ จะไม่มีงานทำ บางคนพอมีฐานะดีหน่อยก็ไปเรียนต่อ  เรื่องนี้จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ถามว่าจะแก้กันอย่างไร ถ้าไม่มีปัญหาการเมืองเกิดขึ้น ก็คงพอแก้ไหว แต่พอมีปัญหาการเมือง แก้ยากมาก การแก้ปัญหาการเมืองจะย้ายซ้ายไปขวา ขวาไปซ้าย ไม่ใช่ ถามว่าทำไมไม่มีทางออก นั่นเพราะเราหวังจะเอาชนะกันมากเกินไป  และเราก็จินตนาการจากความพอใจซึ่งกันและกัน แล้วไล่ล่า ไล่ล้างกัน ระบบทั้งระบบเสียหาย เพราะว่า เราใช้อารมณ์ ความคิดที่ไม่เป็นเรื่อง"


 


"สิ่งที่ผมเป็นห่วงวันนี้คือ การเมืองเรากำลังมีปัญหา นักการเมืองอยู่ในฐานะซึ่งทำงานได้ลำบาก คนมาเป็นรัฐบาลวันนี้ก็ทำงานลำบาก เพราะมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เข้าข้างกัน ไม่เป็นลักษณะให้ระบบทำงานด้วยตัวเอง องค์กร หรือประเทศไหนก็ตาม ถ้าระบบทำงานไม่ได้ มีคนไปทำให้ระบบบิดเบี้ยวก็อยู่ไม่ได้ ยิ่งร้ายกว่านั้น ถ้าไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน ส่วนใหญ่ก็ไม่พอใจ"


 


"ผมดีใจที่คนเสื้อแดงรักษาประชาธิปไตยจริงๆ ขอขอบคุณเสื้อแดงที่ให้กำลังใจผม อยากเห็นระบอบไม่มีการแทรกแซงอย่างที่ผ่านมา ถ้าเราเป็นประชาธิปไตยจริง เราต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ประชาชน แต่เราก็ต้องเคารพเสียงส่วนน้อยด้วย แต่วันนี้ระบบบิดเบี้ยว  พี่น้องเชื่อไหมว่า ตอนนี้เราอยู่ในภาวะปฏิวัติรัฐประหาร เพื่อทำลายล้าง หรือทำลายระบอบประชาธิปไตยอยู่ เราเริ่มต้นเมื่อ 19 กันยายน 2549 เป็นการรัฐประหารโดยทหาร  แต่เมื่อมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ประชาชนยังเลือกพรรคไทยรักไทย หรือพลังประชาชนได้เสียงข้างมากเป็นรัฐบาล ทำให้การปฏิวัติได้แปลงสภาพไปเป็น การใช้ระบบศาล ระบบขององค์กรที่คิดว่าตัวเองเป็นอิสระเข้ามาดำเนินการทางการเมือง มีการยุบพรรคครั้งที่สอง และมีความพยายามจะตีความอีกมากมาย ใช้พจนานุกรมตีความกันมาแล้ว ไม่มีใครเขาทำกันในโลกนี้"


 


"บางครั้งผมพูดอะไรไม่ได้มาก ถูกกล่าวหาไปมา ถ้าพี่น้องย้อนดูไป ผมเป็นนักเรียนนายตำรวจรุ่นเดียวกับ ผบ.ทบ. (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา) ในขณะนี้ ย้อนถามว่าตอนเราเป็นนักเรียน มีใครสักคนไหมที่ไม่จงรักภักดีไม่เคยปฏิญาณตน ยิ่งกว่านั้นปี 2519 ได้รับพระกรุณาธิคุณฯ สมรสพระราชทาน (กับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์) ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นรัฐมนตรี รองนายกฯ และนายกรัฐมนตรี ได้ตามเสด็จฯสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไปตามที่ต่างๆ ได้เห็นการทรงงานอย่างเหน็ดเหนื่อย ผมมีความจงรักภักดีจึงถวายงานทุกอย่าง และจงรักภักดีด้วยการตัดสินใจรับใช้ชาติ"


 


"ผมอยู่อย่างทุกวันนี้กลับถูกกล่าวหา จนมาถึงลอบฆ่าสองครั้ง ครั้งหนึ่งที่ จ.ลำปาง ผมไม่รู้หรอก บังเอิญว่าผมไปเชียงใหม่ต้องเดินทางเข้าลำปาง และอีกครั้งที่สนามหลวง ทั้งที่ผมเองตั้งใจที่จะปราศรัย แต่การเตรียมการไม่สำเร็จ ก็มาโดนวางระเบิด หลังจากนั้น กระบวนการก็กระทำผมมาตลอด กล่าวหา และฟ้องร้องมาถึงทุกวันนี้"


 


"ผมโดนรังแกอย่างต่อเนื่อง มีความพยายามจะถอดถอนพรรคอีก เคยได้ยินสุภาษิตโบราณไหมว่า "หมาจนตรอก" ไล่จนไม่มีตรอกอยู่ แต่จะให้ผมไม่มีตรอกจะอยู่จะเอาอย่างนั้นเลยหรือ ผมไม่เคยทำคุณงามความดีให้บ้านเมืองเลยหรือ ทั้งหมดมีการกล่าวว่าไม่จงรักภักดี ผมถูกทำลาย กล่าวโน่นกล่าวนี้ ไม่เท่าประเทศชาติวันนี้ อยากให้นักการเมืองต่อสู้กันด้วยความดี แข่งกันทำให้ประชาชน หันหน้าเข้าหากัน วันนี้พันธมิตรฯกลับไปแล้ว พี่น้องเสื้อแดง ก็แสดงพลังให้เห็นว่า ไม่ชอบใจในความยุติธรรม ไม่ขอบใช้การแทรกแซงของทหาร ไม่ชอบใจการปฏิวัติในรูปแบบต่างๆ"


 


"ใครอยู่เบื้องหลังทำอะไร ใครเรียก ใครสั่ง ใครกดดัน เมื่อไม่ปล่อยให้กลไกทำงานมันอยู่ไม่ได้ เมื่อปล่อยให้ระบบไม่ยุติธรรม ไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน ปิดประตูตีแมวว่าโลกไม่เห็น ทำอะไรก็ได้ เป็นสิ่งที่สะสมในใจยาวนาน ไม่ดี แล้วในที่สุด ก็ต้องเชิญพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวมาให้ฟัง ผลสุดท้ายคนที่แพ้คือชาติ มองไปข้างหน้าดีกว่า ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าอนาคตของเราคืออะไร เราเป็นประธานอาเซียนปีนี้ แต่ยังจัดประชุมอาเซียนไม่ได้ วันนี้ยังไม่มีรัฐบาล ก็เป็นอะไรที่มันพอเถิด ปล่อยให้กลไกทำงาน ใครที่แทรกแซงรัฐบาล ปล่อยเถิด อย่าใช้องค์กรบางองค์กรเข้ามาแทรกแซง เพื่อให้งานเดินได้ เพื่อให้ประชาชนไม่เจ็บช้ำน้ำใจ"


 


"หลังจากนั้นเราก็มาเยียวยาประเทศ ให้พี่น้องมีความสุขอีกครั้ง หันหน้าเข้าหากันดีกว่า อยากวิงวอนทุกฝ่าย มาช่วยกันรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เหตุที่คนพยายามใช้อิทธิพล หรือในฐานะที่ผู้คนนับถือทำให้ระบบทำงานไม่ได้ ต้องหยุด นักการเมืองทั้งหลาย ท่านพุทธทาสเคยสอนไว้ว่า "นักการเมืองที่ดีต้องรักประชาชน ถ้าไม่รักประชาชน ประชาธิปไตย จะกลายเป็นประชาธิปตาย"


 


"แต่วันนี้นักการเมืองบางคนดันไปหักหลังประชาชน อันนี้น่ากลัว หลอกประชาชนว่าเลือกผมเถิดครับ จะทำนั่นทำนี่ เอาทักษิณกลับบ้าน แต่วันนี้จะไปยกมือให้เขา ไม่รักประชาชนอากาหนักแล้ว แต่หักหลังอาการหนักกว่า เดี๋ยวนี้ประชาชนเขารู้ว่าอะไรเป็นไง แต่จะพูดหรือไม่ เขาจะแสดงออกในวันเลือกตั้ง ถ้าได้ชื่อว่า นักการเมืองหักหลังประชาชน ตายทั้งตระกูล อยู่ไมได้ ขอให้ทุกคนคิดให้ดี นักการเมืองที่ดี ต้องรักษาประชาธิปไตยให้ได้ ต้องเป็นนักการเมืองรักประชาชน ไม่ใช่หักหลังประชาชน"


 


"ผมถูกกล่าหาแต่ทนได้ แต่ขณะนี้พี่น้องยากจน เจ็บป่วย เป็นผู้ใช้แรงงาน ต้องส่งลูกเรียน ลำบากถ้วนหน้า ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ยางพาราไม่กี่บาทจากราคาเป็นร้อย ราคาข้าวก็ตก คนตกงาน ลูกหลานเรียนหนังสือลำบากขึ้น ปัญหาสังคมตามมา ยาเสพติดกลับเข้ามาใหม่ เพราะผู้มีอำนาจที่ประชาชนมอบหมายให้ไปทำงาน ก็ทำงานไม่ได้ เพราะมีการแทรกแซงระบบ พอจะทำงาน ก็ต่อสู้กันของฝ่ายการเมือง และฝ่ายอิทธิพลทั้งหลาย คนที่รับกรรมคือประชาชนตาดำๆ ของเรา แบะกระทบต่อสถาบันชาติ สถาบันที่เราเคารพมากคือพระมหากษัตริย์ อยากวิงวอนไม่ต้องห่วง ไม่ต้องแคร์ผม เอาบ้านเมืองให้รอด หยุดแทรกแซงเถิด เพื่อนๆ ผมทั้งหลาย ทุกสิ่งเป็นสิ่งสมมุติ ความจริงคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เอาให้อยู่ แล้วเราจะทำให้บ้านเมืองไปรอด"


 


"ผมมีเรื่องราวมาก แต่ไม่อยากจะพูดอะไรให้มาก ให้เกิดความแตกสามัคคี อยากให้มองไปข้างหน้าจะอยู่กันอย่างไร ผมเดินทางรอบโลก แต่ละประเทศเวลามีวิกฤตเขาหันหน้าเข้าหากัน เอาสถาบันชาติเป็นหลัก ท่านเห็นบารัก โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กับจอห์น แมคเคน คู่แข่งขันประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน เขาแพ้ก็สนับสนุนกันทำงาน นางฮิลลารี คลินตัน แพ้ก็ยอมรับ ในที่สุด โอบามาก็เชิญฮิลลารี เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ นั่นจิตใจเขาสูงมาก"


 


"หลายคนผ่านการศึกษาระดับสูง เขาใช้มาทำงานให้ประชาชน ถืออำนาจตามประชาชนมอบหมาย อย่าพยายามดิ้นรนทุรนทุรายมีอำนาจ กติการบอกว่า ประชาชนมอบหมายให้มาทำงาน เป็นผู้เสียภาษีอากร ข้าราชการทั้งหลายต้องทำงานให้ประชาชน เมื่อไรมีการเลือกตั้งวันเดียวกัน ให้เลือกขัาง แต่ตอนนี้เลือกข้างไม่ถูกต้อง อยากฝากให้หันหน้าเข้าหากัน ผมช้ำ แต่ผมเชื่อว่าพี่น้องในประเทศช้ำมาก หากินลำบาก ขายของไม่ออก ลูกหลานก็หางานทำยากขึ้น นี่คือความช้ำ ที่เกิดจากความเข้าใจผิด ทั้งๆ ที่ประวัติของผมไม่เคยมี แต่ถามว่า น้อยอกน้อยใจไหม ก็มี เพราะเป็นปุถุชนธรรมดา ถามวันนี้คิดอย่างไร บอกว่าประเทศไทย และสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นของคู่กันต้องร่วมกันเชิดชู เราต้องยึดไว้ ก็ขอฝากพี่น้องอีกครั้งว่า ขอเป็นกำลังใจ อวยพรให้ทุกคนผ่านพ้นช่วงวิกฤตเศรษฐกิจการเมือง ไปด้วยดี "


 


ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้เวลาในการพูดคุยผ่านวีทีอาร์ ประมาณ 10 นาที โดยหลังจากจบวีทีอาร์นายวีระ มุสิกพันธ์ กล่าวบนเวทีว่า ประชาชนคงได้ชมวีทีอาร์ การพูดเปิดใจแล้ว โดยการพูดดังกล่าว เป็นการพูดแบบเปิดหมดหัวใจ ซึ่งเดิมทีเดียวเรามีสัญญาว่าจะให้ พ.ต.ท. ทักษิณ โฟนอินสด แต่ถูกมองว่าจะทำให้เกิดปัญหา ฝ่ายตรงข้ามจ้องจะขย้ำและมีเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกับการแย่งซีนจัดตั้งรัฐบาล แต่ความจริงเรามองถึงข้อเสนอของนาย เสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่ต้องการให้การจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นรัฐบาลเพื่อชาติ ซึ่งนายเสนาะและพล.ต.อ. ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ขอร้องว่าอย่าโฟนอิน เพื่อให้ทั้งสองคนมีความน่าชื่อถือในการจัดตั้งรัฐบาล


 


ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โทรมาปรึกษาตนและนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ว่าการที่นายเสนาะและพล.ต.อ.ประชาขอแลกการโฟนอินกับการให้เราจัดตั้งรัฐบาลได้ ตนจึงแนะนำ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ถ้าโมโหโกรธาเรื่องอะไรก็ให้ระบายกับตน แต่หากการงดโฟนอินแล้วทำให้เราได้รับชัยชนะในการโหวตเลือกนายกฯ ก็ควรทำ ซึ่งตรงนี้ขอฝากไปยังพรรคเพื่อแผ่นดินว่าสัญญาต้องเป็นสัญญาลูกผู้ชาย เบี้ยวไม่ได้หักหลังไม่ได้ หากวันจันทร์นี้มีการหักหลังเกิดขึ้น พรรคประชาธิปัตย์สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็จะพบกับคนเสื้อแดงทั้งประเทศ


 


"การที่พรรคประชาธิปัตย์ไปคุยประเทศต่างๆที่จะเลื่อนจัดประชุมอาเซียนขึ้นจากเดือนมีนาคมเป็นกุมภาพันธ์ อย่าหวังจะจัดประชุมในประเทศไทยได้ และถึงวันนั้นจะให้ประเทศไทยคืนตำแหน่งประธานอาเซียน เพราะเราไม่มีเกียรติ เพราะนายกฯมาจากพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเกียรติ หากจะประชุมเราจะปิดสถานที่ประชุม หลังจากนี้เราคอยดูวันจันทร์ แต่วันนี้ต้องกราบเท้าขอโทษประชาชนเสื้อแดงที่มาชุมนุมว่าของดการโฟนอิน " นายวีระกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net