Skip to main content
sharethis




ที่มาภาพ: http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic.php?id=759444


13 ธ.ค.51  ที่สนามกีฬาศุภชลาศัย มีการจัดงาน  "ความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่3" โดยมีประชาชนสวมเสื้อสีแดงเข้าร่วมราว 50,000 คนจนล้นสนาม และภายในงานได้เริ่มเปิดการปราศรัยในเวลาประมาณ 14.00 น. โดยมีการถ่ายทอดผ่านทางเว็บไซต์และวิทยุชุมชนหลายแห่ง อาทิ www.facttoday.co.cc   www.konrakya.com/rakyatv.html  www.newskythailand.com  www.predawn-radio.org ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำได้มีสัญญาณขาดหายหลายครั้ง โดยเฉพาะก่อนหน้าที่จะมีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร



 


วีระ มุสิกพงศ์  ผู้ปราศรัยคนสุดท้ายของรายการความจริงวันนี้ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาลขึ้นบริหารประเทศ เพราะคนคัดค้านแดงเถือกไปทั้งแผ่นดิน ไม่มีที่ไหนในโลกจะจัดตั้งรัฐบาลได้ บริหารงานได้ในภาวะเช่นนี้ โดยเฉพาะการหนีการเกณฑ์ทหาร แล้วยังนำเอกสารปลอมมายื่นประกอบเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย


 


สำหรับองค์กรอิสระ ที่เกิดตามรัฐธรรมนูญนี้และปฏิบัติหน้าที่อย่างอยุติธรรมทำให้ประชาชนไม่ยอมรับ สถาบันอย่างนี้ต้องยึดโยงกับประชาชน ต้องได้รับการยอมรับเชื่อถือ ถ้าคนทั้งชาติไม่เอาจะอยู่อย่างไร หากยังสงสัยต่อการยอมรับให้ลองจัดทำประชามติสอบถามดูก็ได้


 


วีระกล่าวว่า อยากสรุปว่า ประชาชนมาร่วมชุมนุมล้นทุกครั้ง คนต่างจังหวัดที่มาไม่ได้ก็ใส่เสื้อแดงไปชุมนุมกัน เมื่อเห็นความยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเช่นนี้แล้ว จะขออนุมัติประชาชนจัดตั้งองค์กรใหม่ เรียกว่า "สถาบันคนเสื้อแดง" ซึ่งจะทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพิทักษ์ประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ และต้องย้ำว่าประชาธิปไตยที่พูดกัน หมายถึง ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อย่างที่คณะราษฎรได้ทำไว้ในปี 2475 นั้นเอง จะมาป้ายสี ใส่ไคล้ สาดโคลนกันไม่ได้ คนเสื้อแดงจะไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว เมื่อประชาชนที่นี่อนุมัติให้แล้วก็จะขอประกาศให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย


 


หลังจากนั้น เวลาประมาณ 21.00 . หลังจากนายวีระ มุสิกพงศ์ ปราศรัยและกำลังจะเข้าสู่ช่วงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ดำเนินรายการบนเวทีความจริงสัญจรได้กล่าวว่า ขณะนี้สัญญาณการโฟนอินถูกบล็อก ทางทีมงานกำลังดำเนินการตรวจสอบและหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ก่อนจะมีการฉายวีทีอาร์พ.ต.ท.ทักษิณ


 


ประกาศสัญจรครั้งหน้า ขอจัดสนามกีฬากองทัพบก


จตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า พล.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ประกาศความพร้อมว่าได้เตรียมทหารไว้ 17 กองร้อยเพื่อรับมือการชุมนุมความจริงวันนี้ แต่พันธมิตรบุกสนามบิน แต่กองทัพบกของประเทศไทยกลับเป็นง่อย


 


พรรคปชป.บอกว่า มี ส.ส.260 สนับสนุน ก็คงต้องยกสมองมือ ขอประกาศว่าเราไม่แพ้ เหตุที่ให้อภิสิทธิ์เป็นนายกฯไม่ได้ เพราะต้องเอาเวลาไปรับใช้ชาติด้วยการเกณฑ์ทหารให้ครบถ้วนเสียก่อน อีกคนคือ ลูกชายของพล.ต.สนั่น ขจรประสาท ที่หนีทหาร


 


ฉะนั้น การพูดของทักษิณจะไม่สูญเปล่า  พ.ต.ท.ทักษิณคือสัญลักษณ์ของฝ่ายประชาธิปไตยไปแล้ว ทักษิณคือคนที่เผด็จการย่ำยี เขาสู้กับเผด็จการ เขาจึงมีสิทธิร่วมกับพวกเรา


 


จตุพรกล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ หลายคนเป็นห่วงว่าพวกเราจะไม่รอดใช่หรือไม่ ดูประวัติศาสตร์ของการเสียกรุงศรีอยุธยาทั้ง 2 ครั้ง การเสียกรุงปี 2112 คนที่เป็นไส้ศึกเปิดประตูให้กษัตริย์พม่าคือบุเรงนอง คือ พระยาจักรี สุดท้ายก็โดนบุเรงนองนำตัวไปประหาร หรือจิตร ภูมิศักดิ์ เคยเขียนกลอนว่า เจ้าซื่อต่อคนคด แต่เจ้าทรยศต่อประชาชน นี่คือคำบอกกับพวกทรยศทั้งหลาย แต่ละคนที่ไปกอดกับอภิสิทธิ์ ล้วนเป็นคนที่ประชาชนเลือกไปเพราะตั้งใจว่าจะให้ทักษิณเป็นนายกฯ และใช้การหาเสียงว่าจะพาทักษิณกลับบ้านกันทั้งนั้น ฉะนั้น สิ่งที่เขาเสียไปในวันนี้ไม่ใช่เพียงเสียเพื่อน เสียนาย เสียพรรค แต่สิ่งที่จะเสียตลอดไปคือเสียความไว้วางใจจากประชาชน


 


การจัดตั้งรัฐบาลในคราวนี้ นักการเมืองที่จะเป็นคณะรัฐบาลได้มีการหารือในค่ายทหาร ซึ่งได้รับการบอกกล่าวว่าถ้าไม่สลับขั้วไปอยู่กับประชาธิปัตย์  จะยึดอำนาจจะเล่นรุนแรง และยังอ้างคำสั่งเบื้องบนด้วยพวกนี้ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หลังไปบวชมาได้แสดงความเห็นว่าบัดนี้ทหารทำสิ่งที่น่าละอาย คือการเอากองทัพมาแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาล


 


ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผบ.เหล่าทัพ บอกว่า ไม่ต้องกลัวเสื้อแดง ถ้าเสื้อแดงมาล้อมหรือเคลื่อนไหว จะนำกำลังมาปราบ ถามอีกครั้งว่าใครจะมาปราบประชาชน เพราะว่าในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น มีแต่คนเสื้อแดงที่จะไปปราบผู้นำเหล่าทัพที่มาแทรกแซงระบอบประชาธิปไตย ซึ่งวางแผนกันอย่างเป็นขั้นตอน เป็นกระบวนการ ยึดอำนาจ 19 ก.ย., ยุบพรรคไทยรักไทย, ทำให้รัฐธรรมนูญที่เลวที่สุดที่เคยมีมาในประเทศนี้ผ่านประชามติ, ยึดทรัพย์ ทักษิณและครอบครัวเพื่อบอกกับนักเลือกตั้งว่าทักษิณไม่มีเงินแล้ว, พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ลาออกจากประธาร คมช. มาเป็นรองนายกฯ เพื่อล็อกการเลือกตั้ง, จนมีการเลือกตั้ง23 ธ.ค. ปรากฏว่าพลังประชาชนได้มา 233 นั่นคือชัยชนะของประชาชน เมื่อฆ่าในสนามเลือกตั้งไม่ตาย ตามมายุบพรรคพลังประชาชนต่อ แล้วก็สั่งสอนพวกที่ไปร่วมด้วย แล้วการสร้างกระแสยุบพรรคก็ปล่อยให้พันธมิตรฯ สร้างเงื่อนไขยึดทำเนียบรัฐบาล สนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ


 


ปฏิบัติการของขบวนการนี้ได้ออกดอกออกผล บันไดสี่ขั้นออกฤทธิ์ตอนยุบพรรคสามพรรค ตอนยึดสนามบิน และยุบพรรคเสร็จก็มีการไปจับขั้วสลับข้างกันทันที


 


จตุพรยังกล่าวถึงประเด็นการกล่าวหาคนเสื้อแดงว่า คนใส่เสื้อแดงไม่จงรักภักดี เป็นคนต้องการล้มล้างราชบัลลังก์ คนที่ทำลายสถาบันจริงๆ คือคนใส่เสื้อสีเหลือง ใส่เสื้อตราสัญลักษณ์ แล้วไปยุดสนามบินสุวรรณภูมิ ต่างชาติเขาเห็นกันทั้งหมด นี่คือการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ คนที่ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์มากที่สุดในประเทศไทย ชื่อสนธิ ลิ้มทองกุล แอบอ้างสถาบันเพื่อทำลายทักษิณ ชินวัตร


 


ทิศทางต่อไปนี้ไม่ว่าเผด็จการจะซ่อนรูปมาในแบบไหน ก็หนีการรู้ทันของฝ่ายประชาธิปไตยไม่ได้ มีคนเสนอกับพวกเราว่า ถ้าเราจัดสนามศุภฯ แตกแล้ว สนามราชมังคลาฯ ก็แตกแล้ว ก็เหลือสนามเดียวที่น่าไปคือสนามกีฬากองทัพบก ครั้งหน้าจะไปขอเช่าสนามกีฬากองทัพบก ขอฝากสื่อมวลชนไปถาม ผบ.ทบ.ว่าจะกล้าให้ใช้หรือไม่


 


"ถ้ากองทัพบอกกล้าให้เราก็กล้าจัด ไม่มีอะไรจะสะใจเท่ากับการต้านการรัฐประหารในกองทัพบกอีกแล้ว" จตุพรกล่าวและว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ต้องออกมาขอโทษกับประชาชนว่าทำผิดไปแล้วที่ออกมาแทรกแซงประชาธิปไตย


 


 


"จักรภพ" นัดประชาชนกดดัน ส.ส.ในพื้นที่ ไม่ร่วมกับฝ่ายเผด็จการ


จักรภพ เพ็ญแข กล่าวว่า กระแสประชาธิปไตยเป็นกระแสของโลก ไม่ใช่ความต้องการของคนกลุ่มเดียว พรรคการเมืองเดียว แต่เป็นความต้องการของคนทั่วโลก


 


พฤติกรรมของพันธมิตรฯ คือการก่อการร้ายตามมาตรฐานสากล เพราะไม่เดินในกติกาโลก ผู้ก่อการร้ายคือคนที่ไม่เคารพกฎเกณฑ์ของสังคม สากล สร้างความหวาดกลัวกับคนอื่น ไม่ว่ายูเอ็นและประเทศประชาธิปไตยใหญ่ๆ ยอมรับหลักเกณฑ์เดียวกันว่าสำหรับผู้ก่อการร้ายสามารถลงโทษได้ถึงขั้นประหารชีวิต


 


เดิมทีประเทศไทยรักสงบ เชื่อว่าความดีงาม ถูกต้องเป็นธรรมหาได้ในประเทศ แต่เมื่อเหตุการณ์มาถึงขั้นนี้เราก็จะทำตัวเป็นพลโลกใช้กฎเกณฑ์เหล่านั้นบีบคั้นให้เกิดความถูกต้อง ดีงามให้ได้ ฉะนั้น การต่อสู้ของชาวเสื้อแดงชัดเจนว่าต่อสู้เพื่อทำลายผู้ก่อการร้ายให้สิ้นซาก และตามมาด้วยการต่อต้านพรรคการเมืองที่วิ่งไปเป็นทาสของผู้ก่อการร้าย และเป้าหมายของชาวเสื้อแดงในวันนี้คือการต้านรัฐประหารทุกรูปแบบ ทั้งในรูปและซ่อนรูป วันนี้สื่อมวลชนต่างประเทศ เขาเข้าใจหมดแล้ว


 


จักรภาพกล่าวอีกว่า อีก 2 วันนี้เราจะระดมพลอย่างเต็มที่เพื่อต่อต้านพรรคการเมืองที่อยู่ใต้เท้าเผด็จการ ผู้ก่อการร้าย เราจะถ่ายทอดความอึดอัดใจ ความโมโหเป็นแผนปฏิบัติการร่วมกัน ขั้นแรกต้องไม่ให้ฝ่ายเผด็จการทั้งตามรูปแบบและซ่อนรูปได้จัดตั้งรัฐบาล ขั้นที่สองระหว่างนี้ไปจนถึงวันจันทร์ (15 พ.ย.) ที่มีการเปิดสภาเลือกนายกฯ ขอให้ประชาชนได้แสดงพลังกดดันไปยัง ส.ส.ทุกคน ขอให้คืนประชาธิปไตยสู่ประเทศ อย่าร่วมกับฝ่ายเผด็จการ


 


"ส.ส.ทุกคนมีโอกาสจะพิสูจน์ประโยคนี้แล้วว่า "อย่าลืมบุญคุณประชาชน" ฉะนั้น 2-3 วันจากนี้ไปจะตื่นเต้นมาก ลุ้นระทึกว่าตกลงจะขึ้นรถประชาธิปไตยที่เตรียมจะเดินหน้าวิ่งอย่างเต็มสูบ หรือจะกลับไปเกวียนเผด็จการที่ตกหล่มแล้วไปไม่ได้อยู่หลายปีแล้ว มีเวลาเลือก 48 ชั่วโมง" จักรภพกล่าว


 


จักรภพกล่าวว่า วันนี้จึงเป็นการพิสูจน์ให้บรรพบุรุษในคณะราษฎรเห็นว่าประชาชนรับมรดกแล้วไม่เสียเปล่า มีพัฒนาการชัดเจน กระนั้น ก็ยังมีพี่น้องที่ยังหลงเชื่อคำโกหกของเอเอสทีวี หลงเชื่อระบบการล้างสมอง เราต้องให้ความรู้ ข้อมูลกับเขา ว่าประชาธิปไตยประกอบด้วยอะไรบ้าง หลักการแรก ประชาธิปไตยแปลว่าอธิปไตยเป็นของปวงชน ประการที่สอง ประชาธิปไตย ต้องมีความเสมอภาค และความเสมอภาคนั้นมาจากหลักกฎหมายที่เป็นธรรม ประการที่สาม เราต้องมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ปัญหาในการเลือกตั้งมี ก็ต้องปรับปรุงการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมให้บทบาทของเงินมีน้อยที่สุด ให้ส.ส.เป็นผู้แทนที่แท้จริงของประชาชน แต่ไม่ใช่ยกเลิกประชาธิปไตยทั้งระบบ หลังจากจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย ให้ความรู้มวลชนแล้ว ยังต้องเรียกร้องว่า ถ้าหากว่าเล่นกันไม่เลิกจริงๆ ก็ต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรเสีย โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับแนวทางนี้เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ เรื่องการยุบสภาต้องถือว่าเป็นทางเลือกที่มีอยู่ในปัจจุบัน


 


จักรภพกล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ว่า ผู้นำในระบอบประชาธิปไตยต้องมีจุดยืนของตนเอง ต้องแน่วแน่ไม่กลับไปกลับมา ถ้านโยบายยังไม่เป็นที่เข้าใจของประชาชนก็ต้องอธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่า พยายามเพิ่มมิตร เพิ่มผู้ร่วมอุดมการณ์ ไม่ใช่มองแล้วเห็นว่าตัวไม่มีทางเอาชนะได้ ก็เลยร่วมมือกับโจรปล้นประชาธิปไตยเสียเลย ขอท้าให้พรรคประชาธิปัตย์ประกาศตัวเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมไปเลยแล้วมาสู้กัน ส่วนเนวิน ชิดชอบ ที่หันไปจับมือด้วยนั้นเชื่อว่าจะไม่สามรถดำเนินนโยบายประชานิยมต่อไปได้โดยให้ประชาชนยอมรับ เพราะนโยบายเหล่านี้มาจากการริเริ่มของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปีกว่าประชาชนจะยอมรับ ใช้เวลาและเครดิตชื่อเสียงของทักษิณ ไม่ใช่บะหมี่สำเร็จรูปที่คนชื่อเนวินชิดชอบจะคว้าติดตัวไปฝากคนชื่ออภิสิทธิ์ได้


 


นายจักรภพ ยังได้กล่าวเชิญชวนประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้ไปร่วมงานฌาปนกิจศพของท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ ที่วัดพระศรีมหาธาตุ ในวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคมนี้ด้วย


 


 


"ณัฐวุฒิ" หยอด ทักษิณอยู่ในที่ที่ปลอดภัยที่สุด


ณัฐวุฒิ  ไสยเกื้อ  กล่าวว่า เราไม่ได้ปฏิเสธการเป็นรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ และไม่ปฏิเสธการโหวตเลือกนายกฯ ของ ส.ส. แต่เราปฏิเสธวิธีการและอำนาจ วันโหวตนายกฯ คนเสื้อแดงจะไม่กระทำการผิดกฎหมายเหมือนคนเสื้อเหลือง 


 


ณัฐวุฒิกล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่า ไม่เคยเห็นนายกฯ คนไหนทำประโยชน์ให้ประเทศไทยมากเท่ากับ พ.ต.ท.ทักษิณ มาก่อน ฉะนั้น ใครก็ตามที่บอกว่าเสื้อแดงมาเพราะรับใช้ทักษิณนั้นผิด แต่ถ้าเพราะรักทักษิณ ต้องยอมรับว่าจำนวนหนึ่งเป็นอย่างนั้น แม้บางส่วนไม่ใช่ แต่เมื่อรวมกันแล้วทั้งหมดคือ ทุกคนรักประชาธิปไตย อย่างน้อยเราก็มั่นใจได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ตามระบอบประชาธิปไตย ขึ้นเป็นนายกฯ ด้วยแรงศรัทธาของประชาชน ไม่ใช่แรงของทหาร มีคนพยายามจะบอกว่า จะสู้ไปทำไม ทักษิณไม่มีแผ่นดินจะอยู่ มีแต่คนปองร้าย ขอบอกให้ทราบว่า ไม่มีทางที่ใครหรืออำนาจใดจะทำร้ายคนคนนี้ได้ เพราะทักษิณได้เข้าไปนั่งในที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลก คือ ในหัวใจประชาชน ถ้าคุณไม่ได้ทำอะไรที่ดีกว่า มีประโยชน์กว่าสำหรับคนยากคนจนและคนส่วนใหญ่ คุณก็ไม่มีทางเอาเขาออกจากหัวใจประชาชน ขณะเดียวกัน เมื่อใดก็ตามถ้าทักษิณทรยศต่อประชาชน ปฏิเสธปชต. ผมจะเป็นคนแรกๆ ที่ไม่ยอมรับเขา เพราะเราไม่ยอมรับใครก็ตามที่ยอมขายวิญญาณประชาธิปไตย


 


 


"มานิตย์" ชำแหละ รัฐประหารโดยข้าราชการตุลาการ


มานิตย์ จิตรจันกลับ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การปฏิวัติโดยข้าราชการตุลาการ เป็นภัยร้ายแรงยิ่งกว่าการปฏิวัติโดยทหาร ที่ผ่านมา มีการยุบพรรคและเปลี่ยนพรรคแล้ว ก็ยังมีการตามมาปฏิวัติยึดอำนาจอีก ทหารไม่ได้ปฏิวัติ แต่กลายเป็นข้าราชการตุลาการ ประชาชนต้องช่วยกันตั้งคำถามถามว่า เอากฎหมายที่ไหนมาพิพากษา เพราะสิ่งที่ใช้ล้วนแต่เป็นกฎหมายในระบอบเผด็จการทหารทั้งสิ้น


 


ข้าราชการที่ทำหน้าที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 2 ชุด มาจากรัฐธรรมนูญระบอบเผด็จการทหาร ไม่ใช่ฉบับของระบอบประชาธิปไตย ในอดีตตุลาการเคยได้รับการเคารพนับถือยกย่อง เป็นผู้อำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนชาวไทย แต่คงลืมไปว่ารับจ้างเข้ามาตัดสินข้อพิพาทเท่านั้น เป็นเพียงลูกจ้าง ไม่ได้ใหญ่โตอะไร และการเข้ามารับจ้างตัดสินนั้นปวงชนชาวไทยกำหนดไว้ด้วยว่า ต้องทำตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และพระปรมาภิไธยในพระมหากษัตริย์ โดยกฎหมายและรัฐธรรมนูญนั้นต้องเป็นในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่กบฏเขียน มีข้อถกเถียงว่าอย่างน้อยฉบับนี้ก็มีการทำประชามติแล้ว ขอบอกว่าการทำประชามตินั้น เป็นการทำประชามติว่าจะรับว่าเป็นรัฐธรรมนูญ 2550 เท่านั้น ไม่ได้รับรองว่าเป็นรัฐธรรมนูญของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และการลงมตินั้นเป็นเพราะประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเผด็จการทหารออกไปเสียที ข้อพิสูจน์ง่ายๆ ที่ว่าเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการทหาร คือ มาตรา 309 ซึ่งสรุปได้ว่า การปฏิวัติยึดอำนาจ ไม่ผิดกฎหมาย


 


ในฐานะที่เป็น ส.ส.สัดส่วนคนใหม่ก็ขอปวารณาตัวว่าจะเอารัฐธรรมนูญ 2540 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตยมาใช้ให้ได้


 


ก่อแก้ว  พิกุลทอง  กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ อ้างสถานบันในการปฏิบัติการจนถึงวันนี้ไม่มีใครกล้าใส่เสื้อเหลืองแล้ว พันธมิตรฯ ทำผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่มีใครกล้าออกมาจัดการ หรือตำหนิพันธมิตรฯ แม้แต่คนเดียว ประชาชนก็ได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ในใจ แม้ทหารตำรวจซึ่งกินเงินภาษีประชาชนก็ไม่ทำหน้าที่ในการรักษาความสงบของประชาชน และตัวการที่ยุยงปลุกปั่นให้คนไทยแตกแยกกันขนาดนี้ก็คือเอเอสทีวี ถามว่าทำไมศาลปกครองจึงยังให้ความคุ้มครองอยู่ หลายสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้คนไทยจำนวนมากไม่อาจเชื่อได้แล้วว่ากฎหมายยังมีความยุติธรรมอีกต่อไป ไม่อย่างนั้นคงไม่เห็นป้ายที่มักเขียนกันในที่ชุมนุมว่า "ทำกับข้าวถูกปลด เป็นกบฏถูกปล่อย" เราจึงต้องทำให้ประเทศไทยเป็นนิติรัฐ บังคับใช้กฎหมายกับทุกคนอย่างถ้วนหน้าเสียก่อน ไม่เช่นนั้นเราจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้  เรื่องแรก ต้องเอาผิดกับพันธมิตรฯ เรื่องที่สองรัฐธรรมนูญนี้มีเนื้อหาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย บ่อนทำลายรัฐบาลจนไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็บริหารงานยาก ต้องจัดการแก้ไข


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net