มาร์คกอดเนวินส่อยุบพรรค

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยกรณีพรรคเพื่อไทย ร้องเรียนกรณี นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เกี่ยวข้องกับจัดตั้งรัฐบาล โดยนำภาพถ่ายการพบปะระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีกับนายเนวิน กอดกันเป็นหลักฐาน ว่า เมื่อร้องเข้ามา กกต.ก็ต้องตรวจสอบ ขณะนี้เรื่องอยู่ที่สำนักกฎหมายเละคดี

รายงานจากกกต.ระบุว่า ประเด็นการร้องเรียนดังกล่าวอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามมาตรา 96 และ 98 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อให้ตนเองได้จัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากเป็นการได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และอาจเป็นการใช้อำนาจโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร หรือขัดต่อกฎหมาย ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ที่อาจเป็นไปตามมาตรา 94 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง  อาจถึงขั้นยุบพรรคได้

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ กกต.ได้เคยวินิจฉัยกรณีที่มีผู้ร้องว่าพรรคพลังประชาชนมีพฤติกรรมเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทยที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปีว่า พรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทยจริง แต่ไม่สามารถเอาผิดได้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายที่จะเอาผิดกรณีการเป็นนอมินี

มีรายงานข่าวว่า นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เตรียมเดินทางเข้ายื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดกับบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แล้วเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้การนำของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ซึ่งเบื้องต้นคือ นายเนวิน ชิดชอบ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน และ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย

"เรืองไกร" ลับมีดรอรัฐบาล "มาร์ค" คาใจเก้าอี้ ส.ส.สัดส่วนพรรคถูกยุบ

เว็บไซต์เดลินิวส์ - เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่า จะเป็นใครก็ได้ขอให้บริหารประเทศบนหลักประโยชน์ของส่วนรวมเพราะเป็นการได้มาตามวิถีทางการเมือง ถึงแม้จะเป็นวิถีแบบเดิม ๆ มีการช่วงชิงซื้อตัวกัน แลก ตำแหน่งก็ตาม ทั้งนี้ตนในฐานะ ส.ว. มีหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานรัฐบาลก็จะยังทำหน้าที่ต่อไปไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนก็ตาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสมาชิกภาพของ ส.ส.สัดส่วน ที่เคยสังกัดพรรคการเมืองที่ถูกยุบพรรคไปแล้ว อีกทั้งในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ตนยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจเพราะยังมี ส.ส. อีกหลายคนที่ยังไม่สังกัดพรรคการเมืองเกรงว่าจะขัดมาตรา 106 (4) ในส่วนนี้ต้องรอการพิจารณา ของ กกต.

ด้านนายประสพสุข บุญเดช ประธาน วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 จะเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมือง ทั้งนี้ควรให้รัฐบาลชุดนี้ได้บริหารประเทศดูบ้างว่าจะสามารถนำพาประเทศไปในทางที่ดีได้หรือไม่หลังจากที่รัฐบาล ชุดก่อนหน้านี้ไม่สามารถบริหารประเทศต่อไปได้ ซึ่งต้องให้โอกาสพิสูจน์ อีกทั้งเห็นว่าการโหวตเลือกนายกฯครั้งนี้ควรเป็นที่ยอมรับเพราะเป็นการโหวตจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นตัวแทน ประชาชนและเป็นการสู้กันในสภาผู้แทนราษฎร

"แก้วสรร" ชูแก้ปัญหาไล่รื้อที่ พร้อมคลอดสายตรวจชุมชน

คมชัดลึก - วันนี้ (15 ธ.ค.) เวลา 14.00 น. นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 12 เปิดเวทีชุมชนให้กรรมการชุมชน 120 ชุมชน 3 เขต ประกอบด้วย บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ราษฎร์บูรณะ จำนวน 1 00 คน ร่วมรับฟัง และสร้างสรรค์นโยบายความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและชีวิต ที่สำนักงานชั่วคราวกลุ่มกรุงเทพฯ ใหม่ ถนนราชดำเนินกลาง

โดยนายแก้วสรร กล่าวว่า ชุมชนแต่ละชุมชนใน กทม.มีปัญหาแตกต่างกัน อย่างที่เชิญผู้นำชุมชนชุมชนในพื้นที่ฝั่งธนบุรี มาวันนี้ ได้มีการสะท้อนปัญหาหลัก 2 ประการ ได้แก่ ความไม่มั่นคงด้านที่อยู่อาศัย และทุกข์ สุขใกล้ตัว ซึ่งหากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.จะเสนอนโยบายแก้ปัญหาดังกล่าว โดยให้ภาคส่วนต่างๆ ประกอบด้วย ชุมชน สหกรณ์ สถาบันการเงิน และ กทม. ร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหาการไล่ที่ของชาวบ้าน รวมถึงปฏิรูปและจัดสรรที่ดินใหม่ไม่ให้เกิดความเดือดร้อนกับกลุ่มสังคมฐานล่างของ กทม. ส่วนปัญหาทุกข์สุขรอบตัว ทั้งเรื่องยาเสพติด คนชราที่ต้องอาศัยอยู่ตามลำพังกับเด็กเล็กโดยไม่มีคนดูแล ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และอาชญากรรมในชุมชน จะมีการประสานไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ให้จับมือกับอาสาชุมชน เพื่อแต่งตั้งสายตรวจชุมชนคอยดูแลความปลอดภัย โดยเฉพาะอันตรายที่จะเกิดกับผู้หญิง ซึ่งงบประมาณที่ต้องใช้ในส่วนนี้ กทม.จะให้การสนับสนุน ทั้งนี้จะแต่งตั้งรองผู้ว่าฯ ฝ่ายพัฒนาชุมชน เพื่อให้เกิดการผลักดันแก้ไขปัญหา และวางแผนพัฒนาชุมชนอย่างแท้จริง

"กรณีที่บอกว่าเมื่อพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว จะส่งผลให้ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบ เนื่องจากสามารถประสานงานกับรัฐบาลได้ราบรื่นกว่านั้น มันไม่เกี่ยวกันและเป็นข้ออ้างที่ไร้เหตุผล สมัยที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.ดำรงตำแหน่ง ยังเห็นว่า ส.ก. และ ส.ข. จากพรรคพลังประชาชนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี การประสานงานกับรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นใครก็คงไม่มีปัญหา หรือถ้าจะมีปัญหาจริงๆ ก็ให้รัฐบาลส่งคนมาให้ประชาชนโหวตรับรองเลยไม่ดีกว่าเหรอ จะได้ไม่ต้องไปจัดเลือกตั้งให้เสียเวลา และอย่าลืมว่านายที่แท้จริง คือ คนกทม." นายแก้วสรร กล่าว

โรงงานแสบไล่คนออกเครื่องจักรแทน อ้างเศรษฐกิจทรุดหนักกำไรลดลง

เว็บไซต์เดลินิวส์ - นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขอเตือนผู้ประกอบการ และโรงงานอุตสาหกรรมที่ทำธุรกิจส่งออก อย่าอาศัยสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกกำลังผันผวน หรือมีการประเมินว่าการส่งออกปีหน้าจะหดตัว เป็นข้ออ้างในการปลดแรงงานออกเพื่อลดต้นทุนการผลิต หรือเพื่อนำเครื่องจักรมาใช้แทนแรงงานคน เพราะการดำเนินการเช่นนี้ จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศตามมาอีกมาก ทำให้คนงานตกงานเพิ่มขึ้น ทั้งที่จริงปัญหาการส่งออกยังไม่รุนแรงเท่าที่นักวิชาการบางรายคาดไว้

"อย่าเอาประเด็นส่งออกชะลอตัวมาอ้าง เพราะที่จริงบางบริษัทอาจแค่กำไรลดลง แต่จะมาไล่คนออก นำเครื่องจักรเข้ามาแทน ถือว่าไม่ถูกต้อง ดังนั้น ผู้ประกอบการควรจะหาทางช่วยกัน อะไรช่วยได้ก็ควรจะช่วย แต่ก็ยอมรับว่าบางสินค้าอาจได้รับผลกระทบจริง แต่ก็ไม่ควรหาทางออกด้วยการปลดคนงาน เพราะผู้ประกอบการน่าจะปรับตัวแข่งขัน โดยมีกระทรวงพาณิชย์พร้อมช่วยเหลือเต็มที่"

นายศิริพล กล่าวว่าการหารือผู้ประกอบการส่งออกทุกรายอุตสาหกรรม พบว่าหลายธุรกิจรับว่าการส่งออกจะติดลบในปีหน้า โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ และอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะได้รับ ผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อ เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้ไม่ใช่ของใช้จำเป็นและสามารถชะลอการซื้อได้ เช่น รถยนต์ โทรทัศน์ ตู้เย็น โทรศัพท์ เป็นต้น

"กระทรวงพาณิชย์ก็เป็นห่วง เพราะสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อีเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ มีสัดส่วนถึง 37% ของการส่งออกรวมทั้งหมด โดยเฉพาะรถยนต์อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบไปทั่วโลก ทั้งฟอร์ด จีเอ็ม ในสหรัฐ และเปอร์ โยต์ ซีตรองในยุโรป นอกจากนี้เอกชนในอีกหลายกลุ่มก็ยอมรับว่า ยอดส่งออกจะลด 5-10%"

ส่วนสินค้าที่เหลือเช่นสิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง วัสดุก่อสร้าง เม็ดพลาสติก สิ่งพิมพ์ เครื่องหนัง รองเท้า เครื่องใช้เครื่องตกแต่ง เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เภสัช เครื่องมือแพทย์ เครื่องกีฬา และของเล่น รวมถึงสินค้าเกษตรและอาหาร กระทรวงคาดว่าจะขยายการส่งออกได้ดีขึ้น เพราะ เป็นสินค้าจำเป็น และทั่วโลกยังน่าใช้จ่ายบริโภค  ตามปกติ

แม้ภาคเอกชนหลายกลุ่มอุตสาหกรรม จะประเมินว่าการส่งออกในปีหน้าจะขยายตัวติดลบ แต่กระทรวงพาณิชย์ในฐานะที่เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนด้านการส่งออก จะคงเป้าหมายและผลักดันการส่งออกให้เป็นบวกระดับ 0-5% โดยจะมีการเพิ่มมาตรการกระตุ้นการส่งออกให้มากขึ้น และจะรายงานตัวเลขพร้อมมาตรการให้รัฐบาลใหม่พิจารณาต่อไป

"ได้รับรายงานตัวเลขผลการประเมินเป้าหมายการส่งออกสินค้าไทยในปี 52 จากกรมส่งเสริมการส่งออกแล้ว แม้เอกชนมองว่าการส่งออกจะติดลบไปจำนวนเท่าใดก็ตาม แต่กระทรวงพาณิชย์จะต้องใช้ความพยายามให้มากที่สุด ให้ส่งออกติดลบน้อยที่สุด และต้องเป็นบวกให้ได้ เพราะการประเมินส่งออกจะติดลบ เป็นการมองในแง่ร้ายสุด แต่ผมไม่เชื่อว่าการส่งออกจะแย่ขนาดนั้น"

โรงแรม 5 ดาวถอยลงทุน

โพสต์ทูเดย์ — นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้นักลงทุนในธุรกิจโรงแรมทั้งคนไทย และต่างประเทศ ได้ชะลอแผนการลงทุนก่อสร้างโครงการโรงแรมระดับ 5 ดาว ในช่วงปี 2552-2553 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากไม่มั่นใจกับสถานการณ์การเมืองของประเทศ แม้ว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย โดยเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยให้นักท่องเที่ยวเดินทางลดลง

ทั้งนี้ จากการรวบรวมตัวเลขการลงทุนดังกล่าว มีโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่เตรียมลงทุนใหม่ในช่วง 2 ปีนี้ ราว 8,000 ห้อง มีมูลค่าการก่อสร้างราว 2 หมื่นล้านบาท ที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ เช่น กลุ่มโรงแรม ดิ เอ็ม เพรส มีแผนก่อสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาว บริเวณจุดเชื่อมต่อแอร์พอร์ตลิงก์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ชะลอการลงทุนออกไปอย่างไม่มีกำหนด หรือจนกว่าสัญญาณการเมืองภายในประเทศ รวมถึงเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนต้องการ ให้รัฐบาลเร่งกู้ภาพลักษณ์ของประเทศกลับคืนมาในสายตาของนักลงทุนและ นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยต้องทำให้ทั่วโลกรับรู้ว่าประเทศไทยมีความปลอดภัย สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ตามปกติ

นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า หากว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะนำเรื่องการท่องเที่ยวบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ รวมถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่นายกรัฐมนตรี จะเข้ามาบริหารจัดการด้วยตัวเอง ถือเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับอุตสาหกรรมนี้ เพราะที่ผ่านมาททท. ได้ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี ทำให้การทำงานมีความคล่องตัว และจะทำให้การทำงานของแต่ละหน่วยงานมีความเชื่อมโยงและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

เรือปินส์ล่มหวั่นตายครึ่งร้อย

เว็บไซต์ข่าวสด - เมื่อ 15 ธ.ค. บีบีซีรายงานว่า เรือเฟอร์รี่ฟิลิปปินส์ล่มนอกชายฝั่งอีกแล้ว ครั้งล่าสุด มีผู้เสียชีวิต 22 ราย สูญหาย 30 ราย ก่อนเกิดเหตุเรือชื่อเมยันกำลังแล่นมุ่งหน้าเข้าสู่ท่าเรืออาร์ปารี จังหวัดคากายัน แต่เนื่องจากคลื่นแรงจัดกระแทกโครงเรือบางส่วนจนแตก ทำให้ผู้โดยสารตื่นตระหนก บางส่วนกระโดดหนีตายลงจากเรือโดยไม่ทันคิด กระทั่งตัวเรือเสียสมดุลและพลิกคว่ำ ทั้งนี้ เหตุเรือเฟอร์รี่ล่มบ่อยครั้งเพราะบรรทุกน้ำหนักเกินหรือเรือไม่ได้มาตรฐาน ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิ.ย. มีผู้เสียชีวิตจากภัยเรือล่มนอกชายฝั่งเกาะซิบูยันนับร้อยศพ