Skip to main content
sharethis

จากกรณีชาวบ้านย่าหมี หมู่ที่ 3 ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา รวมตัวกันไปสำรวจพื้นที่ป่าต้นน้ำ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ "ป่าช่องหลาด" ที่อยู่ในเขตหมู่บ้านย่าหมี เมื่อปลายปี 2550 ที่ผ่านมา แต่ถูกบริษัท นาราชา จำกัด เป็นบริษัทเอกชนอ้างสิทธิการถือครองที่ดินในบริเวณนั้นแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มชาวบ้านย่าหมี จำนวน 17 ราย ในข้อหาร่วมกันบุกรุกหรือเข้าไปทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครอง อสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข และร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ขณะนี้คดีความอยู่ในขั้นตอนการสอบปากคำ


 


กลุ่มอนุรักษ์บ้านย่าหมี จัดงานเลี้ยงน้ำชาเพื่อระดมทุนในการต่อสู้คดีที่โดนนายทุนแจ้งความดำเนินคดี และจัดเวทีสาธารณะ " การแก้ไขปัญหาและจัดการป่าไม้ที่ดิน  อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา  " วันที่  18 - 19  ธ.ค. 51  มีผู้เข้าร่วมงานเป็นเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ประกอบด้วยชาวบ้านจากหมู่บ้านทับตะวัน ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า , หมู่บ้าน ท่าสนุก ต.มะรุ่ย อ.ทับปุด , บ้านท่าไร่ ต.บางเตย อ.เมือง , บ้านในไร่ ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา  , บ้านกู้กู ต.รัษฎา และบ้านบางคณฑี ต.ราไวย์ อ.เมือง  จ.ภูเก็ต


 


โดยในวันแรก เวลา 20.30 น. เริ่มด้วยงาน  เสวนา  " กระแสทุนนิยม  ฟอกที่ดินเป็นสินค้า  ชุมชน - สังคม - ศาสนา  ร่วมกันรักษาปกป้องป่า - ที่ดิน  ได้อย่างไร " ผู้เข้าร่วมการเสวนาประกอบด้วย นายแสงชัย  รัตนเสรีย์วงษ์


 


ทนายความอิสระ  นายบุญ  แซ่จุ้ง  ผู้ประสานงานเครือข่ายรักษ์เทือกเขาบรรทัด  ( ตรัง - พัทลุง )  นายปรีชา  จันทร์ภักดี นักกิจกรรมทางสังคม และนางเรวดี ประเสริฐเจริญสุข ประธานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน  ดำเนินรายการโดย นายวิโชคศักดิ์  รณรงค์ไพรี ผู้ประสานงานสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้


 


ในส่วนของวันที่สอง เริ่มงานเวลา 09.00 น. เป็นการอภิปรายในหัวข้อเรื่อง  "การแก้ไขปัญหาและการจัดการป่าไม้  ที่ดิน ของรัฐ โดยการมีส่วนร่วมตามหลักการสิทธิชุมชน "  ผู้ร่วมการอภิปรายประกอบด้วย นางสุนีย์  ไชยรส   ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ,ดร.สุนทรียา  เหมือนพะวงศ์  ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น  ประจำสำนักงานศาลฎีกา  สถาบันวิจัยระพีพัฒนศักดิ์ ,พ.ต.ท.กรวัชร์  ปานประภากร  ผู้อำนวยการส่วนอาญาพิเศษ 1  สำนักคดีอาญาพิเศษ  กรมสอบสวนคดีพิเศษ, นายมานพ  รัตนจรุงพร  ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มติชน ดำเนินรายการโดยโดย  นายสุทธิพงษ์  ลายทิพย์


 


นางสุนีย์  ไชยรส   ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า "การต่อสู่ปกป้องป่าสงวนแห่งชาติเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ทางด้านเอกสารคดีชาวบ้านย่าหมีใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว"


 


ดร.สุนทรียา  เหมือนพะวงศ์  ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น  ประจำสำนักงานศาลฎีกา  สถาบันวิจัยระพีพัฒนศักดิ์ กล่าวว่า "เมื่อเกิดปัญหากรณีที่ดิน ป่าไม้ที่เป็นของรัฐ ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะทะเลาะกับนายทุน ซึ่งความเป็นจริงแล้ว หน่วยงานของราชการจะต้องเป็นคู่กรณีกับนายทุนมากกว่า ในปัจจุบันมีรัฐธรรมนูญที่เปิดช่องทางให้ชุมชนเข้ามามีส่วนในการดูแลและจัดการทรัพยากรในหมู่บ้านได้" 


 


ส่วนทางด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์  ปานประภากร  ผู้อำนวยการส่วนอาญาพิเศษ 1  สำนักคดีอาญาพิเศษ  กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า "คดีบ้านย่าหมีใกล้จะเสร็จแล้วเหลือดูภาพถ่ายทางอากาศ ในวันหนึ่งคงจะเห็นรอยยิ้มของคนที่นี่"


 


ก่อนปิดการอภิปรายนางกานดา  โต๊ะไม ตันแทนชาวบ้านย่าหมีได้แจ้งยอดการรับบริจาค 349,137 บาท และอ่านคำประกาศจัดตั้ง กองทุนพิทักษ์สิทธิ์  " อ่าวพังงา "


 


 






 


คำประกาศคลองสน


จัดตั้ง กองทุนพิทักษ์สิทธิ์  " อ่าวพังงา "


                       


ตามที่ชาวบ้านชุมชนบ้านย่าหมี  ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะยาวใหญ่ อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา เป็นองค์กรชุมชนที่เป็นสมาชิกของเครือข่ายประมงพื้นบ้านอ่าวพังงา สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้  ได้ถูกบริษัท นาราชาจำกัด แจ้งความดำเนินคดี ในข้อหา " ร่วมกันบุกรุก หรือเข้าไปทำการใดๆอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข ร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร (ต้นงวงช้าง)และทำให้เสียทรัพย์  "


            การกระทำดังกล่าวทำให้ชุมชนพี่น้องชาวบ้านย่าหมีและพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำละเมิดสิทธิชุมชนเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ป่าต้นน้ำโดยอ้างความเป็นเจ้าของตามเอกสารสิทธิ พวกเราชาวบ้านย่าหมีและพี่น้องพื้นที่ใกล้เคียงได้รับรู้โดยการบอกเล่าจากผู้เฒ่า บรรพบุรุษว่า " ป่าบ้านเราเป็นป่าของหลวง เป็นป่าสงวนแห่งชาติ เราไม่ควรไปบุกรุกทำลาย จะต้องเว้นไว้ให้เป็นสมบัติของส่วนรวม และการใช้สอยเพื่อการดำรงชีพของชาวบ้าน"  ซึ่งพวกเราได้ยึดถือคำบอกเล่าเหล่านี้มาโดยตลอด เพื่อความมั่นคงของพี่น้องในชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียง


           


ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาการรวมของชาวบ้านเป็นองค์กรชุมชน ซึ่งเป็นภาคประชาชนกลุ่มหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการจัดการและปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ในระดับชุมชน ระดับจังหวัด ระดับอ่าวพังงา และระดับภาค  ซึ่งใช้ระยะเวลาพัฒนาการกระบวนการชุมชนร่วม 20 กว่าปี


 


สถานการณ์เหล่านี้ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพียงที่นี่ ยังมีเหตุการณ์ บุกรุกทำลายสภาพป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติและท้องทะเลอีกหลายพื้นที่ในบริเวณอ่าวพังงา เช่น การออกเอกสารสิทธิในพิ้นที่ป่าชายเลนบ้านกู้กู บ้านในไร่ การอนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ (สะพานท่าเทียบเรือมารีนา) บ้านยามู บ้านป่าคลอก เป็นต้น ภารกิจในการต่อสู้ปกป้องป่าต้นน้ำ ป่าสงวนแห่งชาติอันเป็นสมบัติของประเทศชาติ ของสาธารณะ ของส่วนรวม ของประชาชน จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนร่วมกัน


 


เพื่อให้เกิดความชัดเจน และทวงคืนสมบัติของประเทศชาติ ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ พวกเราชาวย่าหมี และพี่น้องเครือข่ายในอ่าวพังงา จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด พวกเราจึงใช้โอกาสในวันนี้ ประกาศ จัดตั้งกองทุนพิทักษ์สิทธิ " อ่าวพังงา "  เพื่อเป็นกองทุนในการต่อสู้และทวงคืนให้ป่ากลับมาเป็นของชุมชน ของพี่น้องอ่าวพังงาและของประเทศชาติดังเดิมให้จงได้


 


ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๑


 


ชุมชนบ้าย่าหมี


เครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านอ่าวพังงา


สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net