ศาลล้มละลายสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ

มติชนออนไลน์ รายงานว่า  มีประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์เด็ดขาด นายทัยกร หรือไทกร พลสุวรรณ (คดีหมายเลขแดงที่ ล. 7150/2551) ลงเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาลงวันที่ 13 มกราคม 2552  เนื่องจาก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เจ้าหนี้เป็นโจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้ลูกหนี้ล้มละลายและศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ กรกฎาคม 2551 ให้พิทักษ์ทรัพย์ของ นายทัยกรลูกหนี้ เด็ดขาด ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พุทธศักราช 2483 แล้ว

โดยระบุว่า ลูกหนี้ อาชีพ ไม่ปรากฏแน่ชัด มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จังหวัดขอนแก่น

นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดเป็นต้นไป เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอำนาจดังต่อไปนี้

(1) จัดการและจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือกระทำการที่จำเป็นเพื่อให้กิจการของลูกหนี้ที่ค้างอยู่เสร็จสิ้นไป

(2) เก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สิน ซึ่งจะตกได้แก่ลูกหนี้ หรือซึ่งลูกหนี้มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น

(3) ประนีประนอมยอมความ หรือฟ้องร้อง หรือต่อสู้คดีใดๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้

อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายเรื่องนี้ จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ฝ่ายคำคู่ความ สำนักงานเลขานุการกรมกรมบังคับคดี ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานบังคับคดีซึ่งลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ ภายในกำหนดเวลา 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งนี้ แต่ถ้าเจ้าหนี้อยู่นอกราชอาณาจักร เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อาจขยายกำหนดเวลาให้อีกไม่เกิน 2 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไทกร อ้างตัวเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวอีสานเคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2538 โดยระบุว่า เพราะศรัทธาและประทับใจ นายชวน หลีกภัย ซึ่งสมัยนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  ต่อมาได้ลาออกและได้จัดตั้งพรรคการเมืองของตนเองขึ้น ชื่อ "พรรคประชาชนไทย" แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

จากนั้นจึงก่อตั้งขบวนการอีสานกู้ชาติ เพื่อทำการต่อต้านระบอบทักษิณโดยเฉพาะ นายไทกรเป็นที่รู้จักขึ้นมา จากการเป็นผู้เปิดโปงการทุจริตและประพฤติมิชอบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างในรัฐบาลชุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์และไทยรักไทย หลังการรัฐประหาร 19 กันายน 2549 นายไทกรเป็นผู้มีบทบาทอย่างมากในการสืบหาหลักฐานที่พรรคไทยรักไทยจ้างวานพรรคเล็กเพื่อให้ลงเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549และเป็นพยานสำคัญในการพิจารณาคดีของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ  แต่ทางพรรคไทยรักไทยโต้กลับมาว่า นายไทกรใส่ความพรรคไทยรักไทยและสนิทสนมกับทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

ปัจจุบัน นายไทกรยังคงดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอยู่ในลักษณะการเคลื่อนไหวภาคประชาชน โดยมักจะเคลื่อนไหวออกมาเป็นระยะๆ และได้เข้าเป็นสมาชิกพรรคมัชฌิมาธิปไตย และลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในจังหวัดขอนแก่น ปลายปี พ.ศ. 2550 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท