Skip to main content
sharethis

กองทัพรัฐบาลศรีลังกาเผยสามารถยึดเมือง "มุลไลติวู" ฐานที่มั่นในเมืองแห่งสุดท้ายของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมไว้ได้ หลังจากที่ช่วงปีใหม่ได้ยึด "คิรินอชชี" เมืองหลวงและพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬไว้ ทำให้ฝ่ายพยัคฆ์ทมิฬต้องปรับกลยุทธ์ต่อสู้ในป่าอันเป็นเขตยึดครองทางตอนเหนือแทน ด้านองค์กรบรรเทาทุกข์ห่วงพลเรือน 2.5 แสนรายยังติดอยู่กลางพื้นที่ปะทะ

 

แฟ้มภาพ นักรบพยัคฆ์ทมิฬ ระหว่างการฝึกซ้อมการป้องกันภายในค่ายทหารในพื้นที่ยึดครองของฝ่ายพยัคฆ์ทมิฬ เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2550 โดยสถานการณ์ล่าสุดฝ่ายพยัคฆ์ทมิฬได้สูญเสียที่มั่นในเมืองให้กับรัฐบาลศรีลังกาเกือบทั้งหมด (ที่มา: Daylife.com/AP/Gemunu Amarasinghe)

 

 

แผนที่แสดงเขตที่รัฐบาลสามารถยึดคืนมาได้ในการสู้รบในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ โดยล่าสุดเมืองมุลไลติวู เมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของศรีลังกา ซึ่งเป็นพื้นที่ยึดครองในเมืองของฝ่ายพยัคฆ์ทมิฬแห่งสุดท้ายก็เพิ่งถูกกองทัพรัฐบาลศรีลังกายึดคืนได้

 

 

พล.ท.สารัท ฟอนเสก (Sarath Fonsek) ผู้บัญชาการกองทัพรัฐบาลศรีลังกาเปิดเผยเมื่อ 25 ม.ค. นี้ว่าฝ่ายรัฐบาลเข้ายึดที่มั่นสุดท้ายของกองทัพพยัคฆ์ทมิฬอีแลมในเมืองมุลไลติวู (Mullaitivu) เมืองชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศได้แล้ว โดยเขากล่าวผ่านรายการโทรทัศน์ของศรีลังกาว่ากองทัพสามารถยึดเมืองมุลไลติวูเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ หลังปฏิบัติการกวาดล้างกองทัพพยัคฆ์ทมิฬอีแลมที่ดำเนินมาหลายเดือน นับเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ที่ทหารรัฐบาลสามารถเข้าสู่เมืองนี้ได้

 

รัฐบาลศรีลังกาต้องการปราบกลุ่มกบฏชาวทมิฬ ที่ต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดนทางตอนเหนือของคาบสมุทรจาฟนาให้เป็นเอกราชจากรัฐบาลศรีลังกามาเป็นเวลากว่า 25 ปี โดยสงครามที่กินเวลามาอย่างยาวนานนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 70,000 คน

 

พล.ท.สารัท ประกาศว่าปฏิบัติการเอาชนะกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมประสบความสำเร็จไปแล้วร้อยละ 95 "เรายึดมุลไลติวูได้โดยสมบูรณ์แล้ว" เขากล่าว

 

มีการจุดประทัดเฉลิมฉลองทั่วไปในกรุงโคลัมโบ เมืองหลวงของศรีลังกา ขณะที่ผู้บัญชาการทหารศรีลังกาอ่านสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์

 

โดยก่อนหน้านี้เล็กน้อย โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า กองพลที่ 59 ของกองทัพศรีลังแกได้เริ่มรุกคืบสู่พื้นที่เมืองมุลไลติวูมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว

 

ขณะที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กองทัพศรีลังกาเผยว่ากลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลม ได้ระเบิดผนังเขื่อนเพื่อให้น้ำท่วมที่ดินชะลอการรุกคืบของกองทัพรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวยังไม่มีการยืนยัน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่หวงห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวอิสระเข้าไป

 

อันภาราสนัน อิธิราจัน (Anbarasan Ethirajan) ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงโคลัมโบ ของศรีลังกา กล่าวว่าการสูญเสียฐานที่มั่นในเมืองหลักของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬน่าจะทำให้สถานการณ์ทางทหารของกลุ่มอยู่ในระดับวิกฤติ

 

ในรอบหลายเดือนมานี้กองทัพศรีลังกาประสบชัยชนะอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้สามารถยึดเมืองหลวง "คิลินอชชี" ของพยัคฆ์ทมิฬอีแลมไว้ได้เมื่อ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ฝ่ายพยัคฆ์ทมิฬต้องถอยร่นเข้าไปอยู่ในเขตป่าทางตอนเหนือของคาบสมุทรจาฟนา กินพื้นที่ไม่ถึง 365 ตารางกิโลเมตร จากที่แต่เดิมฝ่ายพยัคฆ์ทมิฬสามารถยึดครองพื้นที่ไว้ได้ถึง 15,000 ตารางกิโลเมตรนับแต่ปี 2549

 

แม้ว่าพวกเขาจะเสียฐานที่มั่น แต่ฝ่ายพยัคฆ์ทมิฬยังมีขีดความสามารถปฏิบัติการต่อต้านแบบกองโจรภายในฐานที่มั่นในป่าเขาได้

 

ส่วนชะตากรรมของพลเรือนในเมืองมุลไลติวูยังไม่ทราบแน่ชัด

 

ก่อนหน้านี้ กองทัพศรีลังกาอ้างว่าได้จัดเขตปลอดภัยสำหรับพลเรือนไว้ในเขตสมรภูมิ อย่างไรก็ตาม หน่วยงานบรรเทาทุกข์แสดงความห่วงใยต่อสวัสดิภาพของพลเรือน 250,000 คน ที่มีรายงานว่าติดอยู่กลางพื้นที่ความขัดแย้งนั้น

 

ผู้สื่อข่าวของบีบีซีกล่าวว่า ชาวทมิฬจำนวนมากเตือนว่าการยึดคืนดินแดนจากฝ่ายกบฏแต่เพียงอย่างเดียว ไม่อาจยุติความขัดแย้งทางเชื้อชาติได้ และพวกเขาต้องการทางออกทางการเมืองเพื่อคลี่คลายให้เกิดสันติภาพในขั้นสุดท้าย

 

 

ที่มาของข่าว: แปลและเรียบเรียงจาก

Last Tamil Tiger bastion 'taken', BBC, 25 Jan 2009

http://news.bbc.co.uk/2/hi/south_asia/7849684.stm

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net