2 กุมภาพันธ์ 2552  เวลาประมาณ 9.30 น. นายอภินันท์ จันทรังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  พร้อมคณะ ได้เดินทางมาร่วมเปิดงานวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก บริเวณป่าพรุแม่รำพึง ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่สอง

รองผู้ว่าฯกล่าวเปิดงาน และแสดงความคิดเห็นต่อพื้นที่ป่าชุ่มน้ำ "พรุแม่รำพึง" ว่า "ผมต้องขอขอบคุณทุก ๆ ท่าน  ที่มีจิตสาธารณะในการร่วมแรงร่วมใจกันปกป้องทรัพยากรของท้องถิ่น  ปกป้องฐานทรัพยากรที่ถือเป็นทรัพย์ชีวะ คือป่าให้ชีวิตที่มีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยความทรหดอดทน ด้วยความเข้มแข็งสามัคคี  จนเห็นผลจากการรักษาพื้นที่ชุ่มน้ำผืนนี้มา จากวันนี้ไปในวันข้างหน้าคุณค่าของป่าผืนนี้ก็จะทวีมูลค่าอย่างมหาศาลในเรื่องของคุณประโยชน์ต่าง ๆ อย่างมากมาย 

การจัดงานวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลกในปี พ.ศ.2552 ของพรุแม่รำพึงแห่งนี้ จะเป็นโอกาสสำคัญในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจ และความตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำอีกครั้งหนึ่ง ตลอดจนเป็นการเผยแพร่ผลการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ สมัยที่ 10 และเปิดโอกาสให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เครือข่ายการดำเนินงานด้านพื้นที่ชุ่มน้ำ ได้มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นต่อกระบวนการมีส่วนร่วมในการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำโดยเฉพาะจากภาคองค์กรเอกชน ชุมชนในพื้นที่และภาคธุรกิจ

ในระดับจังหวัดเองก็ได้ตระหนักถึงความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำอันเป็นบ่อเกิดของสรรพชีวิตและสนับสนุนให้เกิดความห่วงแหนในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์อย่างชาญฉลาดใช้อย่างยั่งยืนต่อไป"

จากนั้น สุพจน์  ส่งเสียง  รองประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ได้อธิบายถึงประโยชน์ต่างๆของป่าชุ่มน้ำแห่งนี้ เช่น เป็นต้นน้ำของคลองแม่รำพึงที่ไหลสู่อ่าวแม่รำพึง อีกทั้งเป็นแหล่งผลิตอาหาร(แพลงตอนพืช และสัตว์)ที่เป็นอาหารของลูกปลาทู และสัตว์น้ำวัยอ่อน ทำให้ทะเลแถบนี้มีความสมบูรณ์ส่งผลให้มีการปิดอ่าวถึงสามชั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์และพักตัวของสัตว์น้ำ   อีกทั้งเมื่อวันเสร์ที่ผ่านมาชาวบ้านได้พบนกแก๊ก ซึ่ง นกเงือกสามารถเป็นดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของพื้นที่ที่มันอาศัยอยู่ได้เป็นอย่างดี 

นอกจากนี้จากการที่ได้ทำการศึกษาความหลากหลายของพื้นที่ชุ่มน้ำจนหน่วยงานระดับชาติ ตนและวิฑูรย์  บัวโรย ได้ไปเป็นวิทยากรในเวทีที่สผ. จะจัดการประชุมเนื่องในวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลกและมีหัวข้ออภิปรายเรื่อง ชุมชนกับพื้นที่ชุ่มน้ำ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 นี้ ที่โรงแรมรามาการ์เด้น โดยท่านรองผู้ว่าก็มีความชื่นชมและกล่าวว่าเป็นสิ่งที่พวกเราน่าภาคภูมิใจ

จากนั้นรองผู้ว่าฯได้ร่วมปลูกต้นไม้และเดินชมนิทรรศการที่ทางชาวบ้านจัด ทั้งชมการสาธิตการทำไต้ การทำขนมจาก ข้าวต้มใบกระพ้อ การเย็บจาก โดยวัสดุที่นำมาใช้ส่วนใหญ่นำมาจากในพรุทั้งสิ้น

จากนั้นเวลาประมาณ 10.30 น. รองผู้ว่าพร้อมคณะจึงได้เดินทางกลับเพื่อปฏิบัติภาระกิจอื่นๆต่อไป