Skip to main content
sharethis

แปลจาก Where are Thai protesters now?, สำนักข่าวบีบีซี


http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/7865911.stm


 


 


ข่าวสารจากประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ถูกครอบงำโดยการเคลื่อนไหวประท้วงของกลุ่มคนเสื้อเหลือง ซึ่งเรียกตนเองว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (PAD) ซึ่งได้ช่วยทำให้นายกรัฐมนตรี 2 คนพ้นจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อพันธมิตรฯ ไม่ได้ปรากฎการณ์ตัวอีกตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นมา โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซี ประจำกรุงเทพฯ ได้ตามไปค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับพันธมิตรฯ


 


00000


 


ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง พื้นที่ของสนาม อันแวดล้อมไปด้วยภูเขา รอบนอกกาญจนบุรี ภาคตะวันตกของประเทศไทย ได้กลายเป็นที่ตั้งแคมป์ขนาดใหญ่


 


เต็นท์ โต๊ะปิกนิค รวมถึงการจราจรที่ติดขัดเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนผู้คนที่เดินทางมาถึง รถยนต์จำนวนมากคือเมอซิเดส ไม่ก็บีเอ็มดับบลิวส์ พวกเขา ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจที่มั่งคั่งในกรุงเทพฯ เดินทางมาเพื่อฉลองความสำเร็จในฐานะผู้ปฏิวัติทางการเมือง


 


งานสังสรรค์ครั้งนี้จัดขึ้นโดยพลตรีจำลอง ศรีเมือง หนึ่งในห้าแกนนำพันธมิตรฯ ผู้ดำเนินกิจการโรงเรียนผู้นำและเกษตรอินทรรีย์ที่นี่มาตั้งแต่ต้นทศวรรษ 90


 


นี่เป็นการรวมตัวกันอย่างไม่เป็นทางการครั้งแรกของพันธมิตรฯ นับตั้งแต่ที่พวกเขาเลิกยึดสนามบินนานาชาติไปเมื่อ 3 ธ.ค.


 


กลุ่มคนซึ่งเคยชุมนุมร่วมกันมานาน 3 เดือนในทำเนียบรัฐบาล ต่างทักทายกันราวเพื่อนเก่า


 


พวกเขามาจากทุกชนชั้นทางสังคม เศรษฐกิจ และเชื้อชาติ แต่แน่นอนว่าพวกเขาเป็นชนชั้นกลาง


 


ผมนัดพบกับกัลยาณีและเพื่อนของเธอ พวกเธอเป็นพนักงานบริการบนเครื่องบินของการบินไทย ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ


 


กัลยาณีมีกำหนดจะต้องบินไปลอนดอนในวันนั้น แต่เธอได้แลกเวรกับเพื่อนร่วมงานแล้ว เธอจึงสามารถมาร่วมงานสังสรรค์นี้ได้


 


"ฉันไม่ได้ทำเพื่อบริษัท แต่ฉันทำเพราะฉันเป็นคนไทย" เธอบอกผม "ถ้าเราเห็นว่ามีอะไรผิดปกติ เราต้องทำอะไรสักอย่าง เราต้องกลายเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง"


 


"ทุกครั้งที่ฉันกลับจากเดินทาง ฉันจะตรงกลับบ้าน เปลี่ยนมาใส่เสื้อเหลือง คว้ามือตบ และออกไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล"


 


ผมพบว่ามีพนักงานสายการบินร่วมชุมนุมในจำนวนที่น่าแปลกใจ จึงถามว่าพวกเขาทั้งหมดสนับสนุนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ หรือไม่


 


 


คุณลักษณะที่อธิบายไม่ได้


ไม่ พวกเธอตอบ บริษัทของพวกเธอก็เหมือนๆ กับที่อื่นๆ ซึ่งแบ่งออกเป็นฝ่ายสนับสนุนทักษิณ กับฝ่ายต่อต้านทักษิณ แต่พวกเขาถูกกันออกจากการถกเถียงเรื่องการเมืองขณะอยู่บนเครื่องบิน


 


ดูเหมือนจะมีเพียงไม่กี่คนในที่นี่ที่ชัดเจนว่า จริงๆ แล้วพันธมิตรฯ เชื่อมั่นในอะไร นอกจากความไม่พอใจอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และความรักในสถาบันกษัตริย์


 


ไม่มีใครอธิบายได้ว่าสิ่งที่พันธมิตรฯ มุ่งหมายในการเรียกร้องการเมืองใหม่คืออะไร? หมายถึงรัฐสภาจากการเลือกตั้ง หรือจากการแต่งตั้ง? คุณจะทำให้ประเทศไทยปราศจากวัฒนธรรมที่หยั่งลึกอย่างการคอร์รัปชั่นได้ไหม? พันธมิตรฯ ชนะหรือยัง จะต้องกลับมาบนท้องถนนอีกครั้งหรือไม่?


 


ดูเหมือนจะไม่มีใครแน่ใจ แม้ว่าจะไม่มีแรงจูงใจให้ทำอะไรที่น่าตื่นเต้นอย่างการยึดสนาบินอีกก็ตาม


 


เรื่องราวจำนวนมากเกี่ยวกับพันธมิตรฯ ยังคงเป็นเรื่องลึกลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาของเงินทุน และรูปพรรณสัณฐานของผู้หนุนหลังที่มีอิทธิพลที่สุด


           


พวกเขากลับพูดคุยเรื่องความผูกพันที่พวกเขามีต่อกันแทน หลังจากยืนหยัดคัดค้านร่วมกันหลายเดือน ในทำเนียบ ที่ซึ่งมีลูกระเบิดโจมตีพวกเขาเป็นครั้งคราว และการเผชิญหน้าอย่างรุนแรงกับตำรวจเป็นประจำ ทำให้เกิดคุณลักษณะที่อธิบายไม่ได้ ซึ่งผูกพันพวกเขาไว้ด้วยกัน


 


"ตลอด 192 วัน ทั้งกลางวันและกลางคืน ทุกคนกินด้วยกัน นอนด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน พวกเราแบ่งปันความเศร้า พวกเรามีน้ำตา และรอยยิ้ม เหมือนในหนังของสปีลเบิร์ก คุณรู้สึกเหมือนๆ กัน" อรณี จินดามณี พนักงานบริการบนเครื่องบินกล่าว


 


"คนเหล่านี้ส่วนมากไม่เคยเข้าร่วมการเคลื่อนไหวทางการเมืองมาก่อน" ศ.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ความเห็น


 


"การชุมนุมของพันธมิตรฯ เกือบจะเป็นเหมือนนิกายทางศาสนาของผู้คนที่หลากหลาย เพื่อเติมเต็มพวกเขาในภาวะสุญญากาศทางการเมือง การอยู่ร่วมกันในตอนกลางคืน คำปราศรัย การเต้นรำ และความบันเทิง ทำให้ผู้คนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของอะไรบางอย่างที่มีความหมาย"


 


 


การทำความสะอาดการเมือง


ความสำเร็จอย่างมากของพันธมิตรฯ ในการชักชวนชนชั้นกลางที่ไม่เคยสนใจการเมืองมาก่อน อาจเป็นผลมาจากเอเอสทีวี สถานีโทรทัศน์ของตัวเอง ซึ่งแพร่ภาพไปทั่วประเทศผ่านสายเคเบิลและดาวเทียม


 


เอเอสทีวีผลิตโฆษณาชวนเชื่อที่เร้าอารมณ์และรุนแรง ซึ่งพิสูจน์ได้จากการที่ผู้ชมเสพติดเป็นพิเศษ


 


พนักงานการบินไทยที่ผมพบกล่าวว่า พวกเขารู้ว่า มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับประเทศไทยจากการดูเอเอสทีวี เมื่อผมเสนอว่า รายการเหล่านี้อาจจะเสนอเรื่องราวเพียงด้านเดียว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะประหลาดใจกับความคิดนี้


 


ผมดูการถ่ายทอดของเอเอสทีวี ซึ่งกระจายเสียงจากสตูดิโอเล็กๆ ใจกลางกรุงเทพฯ ดำเนินรายการโดยปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นักกิจกรรมคนสำคัญ และเป็นหนึ่งในแกนนำไม่กี่คนของพันธมิตรฯ ที่เต็มใจให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ


 


"เราสามารถพูดได้ว่า เราไม่ได้อยู่ทางซ้าย ไม่ได้อยู่ทางขวา แต่เราจะอยู่ตรงกลางของความถูกต้อง ในการแสดงครั้งนี้" เขาตอบเมื่อผมขอให้เขาระบุทิศทางทางการเมืองของพันธมิตรฯ


 


เป็นเรื่องยากที่จะไปให้พ้นโฆษณาชวนเชื่อแบบทางการ เมื่อพูดคุยกับผู้สนับสนุนพันธมิตรฯ จำนวนมาก


 


พวกเขาเป็นกลุ่มที่ไม่ใช้ความรุนแรง พวกเขามักจะพูดเช่นนั้น แม้ว่าจะมีหลักฐานว่ามีเหตุการณ์ที่การ์ดพันธมิตรฯ ยิงปืนใส่ฝ่ายตรงข้ามและตำรวจ


 


พวกเขาถูกบีบให้ยึดสนามบิน เพราะไม่มีทางเลือกอื่นที่จะทำให้รัฐบาลฟังข้อเรียกร้องของพวกเขา พวกเขาบอก


 


ปานเทพมีความแตกต่างในประเด็นนี้ เขาให้เหตุผลว่า พวกเขาถูกบีบให้ต้องทำอย่างนั้น เพราะมีความเสี่ยงอย่างมากที่พวกเขาจะถูกโจมตีในทำเนียบรัฐบาล


 


อย่างไรก็ตาม เขาชัดเจนว่าเป้าหมายหลักของพันธมิตรคือ การทำความสะอาดการเมืองไทย แล้วแทนด้วย "การเมืองใหม่" ที่ขาวสะอาดกว่า ซึ่งเขาระบุว่า คือการแต่งตั้งกลุ่มคนที่มีจริยธรรมและมีคุณวุฒิ ซึ่งอยู่นอกเหนือจากการเมืองที่มีมลทิน เพื่อมาเป็นรัฐมนตรี


 


เรื่องราวจำนวนมากเกี่ยวกับพันธมิตรฯ ยังคงเป็นเรื่องลึกลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาของเงินทุน และรูปพรรณสัณฐานของผู้หนุนหลังที่มีอิทธิพลที่สุด


 


จินตนาการสำหรับประเทศไทยยังยากที่จะชี้เฉพาะลงไป แต่พันธมิตรฯ ก็ได้กลายเป็นพลังทางการเมืองที่มีอิทธิพลที่สุด ซึ่งยังคงเพลิดเพลินกบจำนวนผู้สนับสนุนอย่างมีนัยสำคัญ


 


และจะมีบทบาทหลักในการก่อรูปก่อร่างพื้นที่ทางการเมืองของประเทศไทยในอนาคต

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net