Skip to main content
sharethis

รต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ต่อเนื่องมาจากนโยบายเร่งด่วนในการเปิดห้องเฝ้าระวังเว็บไซต์หมิ่น ตลอด 24 ชั่วโมง (War Room) โดยเปลี่ยนชื่อมาเป็นศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต (ISOC : Internet Security Operation Center) ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจัดตั้งขึ้นเพื่อติดตามเฝ้าระวังเว็บไซต์ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม รวมถึงประสานความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร


      


"ศูนย์ ISOC จะทำงานในการเก็บฐานข้อมูลเว็บไซตที่ผิดกฎหมาย โดยแบ่งออกเป็น 3 ด้านใหญ่ๆ คือ 1. การเฝ้าระวังทางด้านชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ 2. เฝ้าระวังทางด้านขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม และ 3. เฝ้าระวังทางด้านเกมออนไลน์ และการพนันทางอินเทอร์เน็ต"


      


สำหรับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯจะแบ่งเป็น 6 ข้อได้แก่ 1.กำหนดนโยบายการป้องกันและปราบปรามข้อมูลข่าวสารที่ไม่เหมาะสมผ่านระบบคอมพิวเตอร์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 2.อำนวยการและสั่งการให้หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและหรือองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และบุคคลอื่นๆ ให้ดำเนินการป้องกันมิให้มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมายและไม่เหมาะสม 3.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อมูล ข้อคิดเห็น เพื่อประกอบการปฏิบัติภารกิจ 4.ออกระเบียบตลอดจนข้อปฏิบัติอื่นๆ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องปฏิบัติภายใต้กฎหมาย 5.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือบุคคลเพื่อมอบหมายให้ดำเนินการใดตามที่คณะกรรมการกำหนดเพื่อช่วยปฏิบัติตามความจำเป็น 6.ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย


      


"ไอซีทียังอยู่ในระหว่างการประสานกับทาง กทช. เพื่อที่จะเปิดหมายเลข คอลเซ็นเตอร์ 1122 เพื่อรับแจ้งเหตุเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งจากการแจ้งข้อมูลผ่านทางหน้าเว็บในช่วงที่ผ่านมาทางกระทรวงได้มีการส่งเรื่องฟ้องศาลให้มีการสั่งระงับที่อยู่ของเว็บไซต์ไปแล้ว 4,818 เว็บไซต์ โดยเป็นการปิดกั้นเว็ปไซต์ที่หมิ่นสถาบัน 4,683 เว็บไซต์ เว็บไซต์ลามกอนาจาร 98 เว็บไซต์ และเว็บไซต์โฆษณาเท็จอีก 37 เว็บไซต์"


      


อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีการปิดกั้นเว็บไซต์ hi5.com ภายหลังมีข่าวเรื่องการขายบริการทางเพศ การลงรูปภาพที่มีการเสพยาเสพติด รวมไปถึงการขายอุปกรณ์เกี่ยวกับเพศสัมพันธ์นั่น รต.หญิงระนองรักษ์ กล่าวว่า ทางกระทรวงจะไม่ทำการปิดกั้นเว็บไซต์ไฮไฟว์ในทันที แต่จะเป็นการเฝ้าระวังเหตุดังกล่าว ซึ่งถ้ามีการตรวจพบทางไอซีทีจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ในการช่วยสืบหาต้นตอผู้เผยแพร่ที่แท้จริง เพื่อจะได่ออกหมายค้นและออกหมายจับตามกระบวนการยุติธรรม


      


"การดำเนินการจะพิจารณาปิดกั้นเฉพาะ URL ที่ไม่เหมาะสมเท่านั้น ซึ่งจะไม่ส่งผลต่อเว็บไซต์หลักทั้งหมด โดยการปิดกั้นทางไอซีทีจะมีการบันทึกข้อมูลไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการสืบหาผู้กระทำผิด นอกจากนี้ทางกระทรวงจะเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคได้รับรู้ว่า การกระทำใดบ้างที่ผิดตามพรบ.คอมพ์"


      

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net