ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552


การเมือง


 

"มาร์ค" เฉ่งรมต.ถือหุ้นเกิน 5% ถ้าเคลียร์ไม่ได้ตัวใครตัวมัน

ASTV ผู้จัดการรายวัน - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีรัฐมนตรี 3 คน ในรัฐบาลประกอบด้วย นายวีรชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม และนพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง ถือหุ้นเกิน 5 % ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดว่า หน้าที่ของรัฐมนตรีที่ถือหุ้นเกิน 5 % ก็ต้องโอนหุ้นเหล่านี้ไปให้บริษัทจัดการโดยรัฐมนตรีที่คืนหุ้นไปจะต้องไม่มีอำนาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวภายในเงื่อนเวลา 90 วัน จากนั้นต้องแจ้งให้ป.ป.ช.ทราบ ซึ่งขณะนี้ รัฐมนตรีทั้ง 2 ท่าน ก็กำลังดำเนินการอยู่

 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรมนั้น ได้รับรายงานว่า ตอนนี้สามารถหาคนที่จะรับจัดการหุ้นได้แล้ว ซึ่งทั้ง 2 คน ก็ต้องทำทุกอย่างตามกฎหมาย ถ้าไม่ทำตามกฎหมายก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง

 

"ผมได้แจ้งให้รัฐมนตรี ทราบตั้งแต่ก่อนวันที่ 23 ธ.ค.แล้ว ไม่ได้ปล่อยปละละเลย รัฐมนตรีทุกคนก็รับทราบว่า หน้าที่ของตัวเองคืออะไร ดังนั้นก็ต้องทำตามหน้าที่นั้น ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องรับผลที่จะต้องตามมา ทุกคนต้องรับผิดชอบตัวเอง เพราะอายุก็เกิน 35 ปีกันแล้วทั้งนั้น" นายอภิสิทธิ์กล่าว

 

ด้านนายวีรชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีมีข่าวว่าตนไม่แจ้งการถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ในบริษัทเอกชน ต่อคณะกรรมการป.ป.ช. ว่า ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และที่เข้าใจจะมี 3 กระบวนการ คือ กระบวนการแรก สามสิบวันแรก ต้องทำอะไร กระบวนที่2 ภายใน 90 วันต้องทำอะไร และกระบวนการที่ 3 ภายใน10 วันต้องทำอะไร

 

ที่มีคนถามคือ ทำไมตนไม่แจ้งการถือหุ้นตอนที่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินต่อป.ป.ช. ฉะนั้นขอชี้แจงว่า ตนได้ยื่นไปก่อนที่จะแจงบัญชีทรัพย์สินแล้ว เป็นจดหมายหนึ่งฉบับ และคิดว่าป.ป.ช. คงไม่เรียกชี้แจงอะไร ซึ่งจริงๆ หน่วยงานที่จะชี้แจงได้ดีที่สุดคือป.ป.ช. ทั้งนี้ หากป.ป.ช.มีข้อสงสัย ยินดีชี้แจงและถ้านายกฯ สงสัยก็จะชี้แจง

 

"ยอมรับว่ายังไม่ได้โอนหุ้น อยู่ระหว่างการดำเนินการโอน กำลังให้บริษัทหลักทรัพย์ดำเนินการ ซึ่งมีเวลา 90 วัน ตอนนี้แจ้ง ป.ป.ช.ขอรับประโยชน์จากหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ และเข้าใจว่ารัฐมนตรีท่านอื่นก็อยู่ลักษณะเดียวกัน ผมคิดว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายป.ป.ช. ก่อนหน้านี้ได้สอบถาม ทางป.ป.ช.แล้ว เขาบอกว่าหากจะขายอะไรคงลำบาก คงต้องถือต่อไปและทำตามกระบวนการที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ผมยังถือหุ้นอยู่" นายวีรชัยกล่าว

 

กกต.แจง ยังไม่ลงพิจารณาลงมติสำนวน "อภิรักษ์" แจกการ์ด Wi-Fi

เว็บไซต์แนวหน้า - นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้งด้านบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยถึงกรณีมีการเสนอข่าวว่า กกต. ยกฟ้องนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกทม. ทุกข้อกล่าวหา หลังประกาศรับรอง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า ข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เพราะกระบวนการพิจารณาสำนวนเรื่องร้องเรียนของนายอภิรักษ์ยังไม่สิ้นสุด และตนก็ไม่ได้เป็นผู้ให้ข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมา กกต.ได้รับเรื่องร้องเรียนนายอภิรักษ์ ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 5 ตุลาคม พ.ศ.2551 จำนวน 10 เรื่อง

 

โดยพิจารณาไม่รับเป็นเรื่องคัดค้านจำนวน 3 เรื่อง และได้มีมติยกคำร้องไปแล้ว 2 เรื่อง ได้แก่ กรณีกล่าวหาเรื่องป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ของกทม.มีชื่อของนายอภิรักษ์ปรากฏอยู่ว่า เข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 และฝ่าฝืนประกาศ กกต.เรื่องวิธีการหรือลักษณะต้องห้ามในการหาเสียง พ.ศ.2551 หรือไม่ และเรื่องการติดป้ายคัทเอาท์ 3 ป้ายติดกันเป็นการจัดทำป้ายหาเสียงที่เกินขนาดตามที่ กกต.กำหนดไว้หรือไม่ ดังนั้น จึงเหลือเรื่องที่จะต้องพิจารณาอีก 5 เรื่อง รวมถึงเรื่องแจกการ์ด Wi-Fi ของนายอภิรักษ์ ซึ่งเรื่องร้องเรียนทั้งหมดอยู่ระหว่างการวิเคราะห์สำนวนของเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนฯ ก่อนนำเสนอเข้าที่ประชุม กกต.วินิจฉัยต่อไป

 

ปชป.ค้านกม.นิรโทษกรรม ชี้ไม่ใช่ทางออกประเทศ

เว็บไซต์เดลินิวส์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ก.พ.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงข่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะเสนอร่าง พ.ร.บ.การปรองดองแห่งชาติ ซึ่งเป็นกฎหมายนิรโทษกรรม เข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์หน้า ว่า แนวทางนี้ไม่น่าจะเป็นทางออกวิกฤติของประเทศ และเป็นห่วงว่า จะกลายเป็นประเด็นขัดแย้งใหม่ในสังคม เพราะคล้ายเป็นการเลือกปฏิบัติเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้พ้นข้อกล่าวหาและคดีอาญา

 

นออกจากนี้ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ร่างกฎหมายที่เสนอ ควรผ่านการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม โดยเฉพาะจากประชาชน รวมทั้งต้องอยู่บนพื้นฐานของการสร้างความสมานฉันท์ในประเทศ ทั้งนี้ วันที่ 16 ก.พ. วิปรัฐบาลจะหารือเรื่องดังกล่าว รวมทั้งพูดคุยถึงการปฏิรูปการเมือง ซึ่งเป็นเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย

 

พท.ไม่สนลุยเสนอกม.นิรโทษ-สว.รุมค้าน

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่า การที่ทีมกฎหมายของพรรคเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.เพื่อความปรองดองแห่งชาตินั้น เชื่อว่าจะช่วยทำให้ประเทศเกิดความสมานฉันท์และถือเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด เนื่องจากทุกคดีที่เกิดขึ้นหลังจากการรัฐประหาร 19 ก.ย.49 จะได้รับการนิรโทษกรรมทั้งหมด ซึ่งรวมถึงคดีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, คดีของกลุ่มคนเสื้อแดง รวมถึงคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยเช่นกัน

 

ทั้งนี้เชื่อว่าจะมีการล็อบบี้ ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้ช่วยผลักดันให้ร่างกฎหมายดังกล่าวมีผลในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะพรรคชาติไทยพัฒนา, พรรคภูมิใจไทย

 

ขณะที่นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย เพราะจะเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคม ส่งผลกระทบต่อระบบนิติรัฐของประเทศ เนื่องจากการนิรโทษกรรมทางการเมืองเป็นเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มการเมืองที่ได้รับผลกระทบหลังจากเกิดการรัฐประหาร 19 ก.ย.49

 

นายสุรชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกันเพื่อสร้างความเป็นนิติรัฐ แต่ขณะนี้กลับมีการใช้กฎหมายเพื่อสร้างความไม่เป็นธรรมเสียเอง เพราะหากเป็นเช่นนี้จะมีปัญหาตามมากลุ่มคนที่ต้องคำพิพากษาหลังจากเหตุการณ์ 19 ก.ย.49 ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องในทางการเมืองว่าจะได้รับการนิรโทษกรรมหรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็เชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะออกมาเรียกร้องอย่างแน่นอน

 

น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ระบุว่า ถ้าหากมีการตรากฎหมายดังกล่าวขึ้นจริงจะเท่ากับไม่ความสำคัญต่อสถาบันศาล เพราะการตรากฎหมายลักษณะนี้ถือว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตรง ซึ่งอาจจะสร้างความแตกแยกตามมาได้ จึงอยากให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีการทบทวนแนวคิดดังกล่าวด้วย

 

"ในเมื่อกลุ่มบุคคลที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จากคดียุบพรรคไทยรักไทยเหลือเวลาอีกไม่กี่ปีก็จะกลับมามีสิทธิในทางการเมืองแล้ว ดังนั้นทางที่ดีควรน่าจะรอให้ถึงเวลานั้นจะดีกว่า" น.ส.รสนา กล่าว

 

ตร.-จนท.อุดรรับมือ คอนเสิร์ต พธม.

เว็บไซต์แนวหน้า - พล.ต.ท.สถาพร เหลาทอง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมกันที่ห้องประชุมฉัตรไพฑูรย์ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี เพื่อเตรียมการ และสรุปแผนการรับสถานการณ์การ ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จะมาทัวร์คอนเสิร์ต ที่ จ.อุดรธานี ในวันพรุ่งนี้ (14 กพ.)

 

ทั้งนี้ นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าฯอุดรธานี ได้เดินทางมาตรวจความเรียบร้อย โดยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานของกลุ่มพันธมิตร ซึ่งมีทั้งตำรวจในและนอกเครื่องแบบมาตรวจตราอย่างเข้มงวด โดยมีการ์ดพันธมิตร มาสังเกตการณ์อยู่รอบๆ ทั้งนี้ ยังมีรถประชาสัมพันธ์ของชมรมคนรักอุดร กลุ่มคนเสื้อแดง วิ่งไปมารอบๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ การจัดงานของชมรมคนรักอุดรด้วยเช่นกัน

 

นปช.เลี้ยงโต๊ะจีน "เสื้อแดง" 1,000 โต๊ะ ยันงานนี้ไร้โฟนอิน "ทักษิณ"

เว็บไซต์แนวหน้า - ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คณะทำงานฝ่ายการเมืองของพรรคเพื่อไทย ในฐานแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)และผู้จัดรายการความจริงวันนี้ กล่าวถึงความคืบหน้าของในการจัดเลี้ยงโต๊ะจีน เพื่อระดมทุนของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 14 ก.พ.ที่วัดไผ่เขียว ดอนเมืองว่า ขณะนี้การเตรียมความพร้อมด้านพื้นที่ ระบบเทคนิค เวที องค์ประกอบการจัดงานต่างๆ มีความพร้อมแล้ว รวมถึงการติดป้ายบอกทางเข้างานและได้ทราบฝ่ายติดต่อประสานงานได้มีการจองโต๊ะจีนไว้แล้วกว่า1,000โต๊ะ แต่คาดว่าจะมีประชาชนร่วมงานมากกว่านั้น จึงกำลังสำรองโต๊ะจีนเพิ่มเติม ไม่ทราบว่าจะเพียงพอรองรับพี่น้องคนเสื้อแดง ที่เข้าร่วมงาน

 

ส่วนยอดการระดมทุนครั้งนี้ จะต้องรอประเมินต้นทุนค่าใช้จ่ายจัดงานเลี้ยง แต่ขอให้มั่นใจว่าเงินระดมทุนที่ได้ จะนำไปใช้โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญเพื่อไปทวงข้อเรียกร้อง 4 ข้อต่อรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งในวันพรุ่งนี้(14ก.พ.)จะครบ 15 วันที่ได้กำหนดไว้ คงจะมีการประกาศจุดยืนและแนวทางการเคลื่อนไหวต่อไป นัดวัน เวลาในการชุมนุมใหญ่เพื่อเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อทวงถามข้อเรียกร้องดังกล่าวด้วย

 

นายณัฐวุฒิ ยังยืนยันว่า ในงานครั้งนี้ คงไม่มีการโฟนอินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตีอย่างแน่นอน แต่ถือเป็นการพบปะสังสรรค์ มีการพูดทางการเมือง สิ่งสำคัญจะได้มีการพบปะมีโอกาสได้ทักทายกระชับความสัมพันธ์กับคนเสื้อแดงกันอย่างใกล้ชิดมากกว่าในการร่วมชุมนุมที่ผ่านมา น่าจะเป็นบรรยากาศที่ดีที่เราจะเคลื่อนไหวครั้งสำคัญหลังจากนี้ภายในเดือนกุทภาพันธ์อย่างแน่นอน

 

"ประชัย" โชว์ใบเสร็จ 250 ล้านค่าโฆษณา

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ปฏิเสธคำกล่าวอ้างว่าเขาเป็นผู้บริจาคเงินจำนวน 250 ล้านบาท ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ และยินดีที่จะให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาตรวจสอบ

 

นายประชัย กล่าวว่า เงินจำนวน 250 ล้านบาทที่กล่าวถึงนั้น เป็นเงินที่เขาจ่ายเป็นค่าโฆษณาให้กับ บริษัท แมสไซอะ บิชิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด ซึ่งมีการออกใบเสร็จให้ทุกครั้ง และตอนนี้ยังเก็บใบเสร็จเหล่านั้นไว้

 

"ถ้าไม่เชื่อให้มาดูได้ เป็นใบเสร็จของจริง เอาที่ไหนมาพูดว่าบริจาคเงินให้กับพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ออกมาพูด ซี้ซั้ว มาตรวจสอบได้เลย ผมไม่ได้ทำอะไรผิด การจ่ายเงินทุกครั้งมีการออกใบเสร็จอย่างชัดเจน เพียงแต่บริษัทนั้น ไม่ไปยอมไปจ่ายภาษีให้ถูกต้องเท่านั้นเอง กรมสรรพากร จึงต้องเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งไม่เกี่ยวกับผม และขอยืนยันอีกครั้งว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิด มีหลักฐานทุกขั้นตอน ตรวจสอบได้"

 

วันเดียวกันนี้ นายศิลปิน บูรณศิลปิน รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า ตามที่มีการรายงานข่าวในทำนองว่าที่ผ่านมา บริษัททีพีไอโพลีน บริจาคให้แก่พรรคการเมืองเป็นจำนวน 250 ล้านบาท นั้น ทางบริษัทขอยืนยันว่ามิได้มีการบริจาคเงินให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่อย่างใด แต่เป็นการใช้จ่ายในการโฆษณาสร้างภาพลักษณ์ และส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ของบริษัท อันเป็นการดำเนินธุรกิจตามปกติ

 

นายศิลปิน กล่าวด้วยว่า การที่มีการกล่าวหาเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินของบริษัท ไปในทำนองดังกล่าวได้สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ทางบริษัท ซึ่งทางบริษัทจะได้ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาแก่ผู้ที่สร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของบริษัท

 

ศาลนัดไต่สวน18พ.ค.ทักษิณฟ้องสุเทพหมิ่น ปธน.

เว็บไซต์สยามรัฐ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ก.พ.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา 326 , 328 และขอให้ลงคำโฆษณาในหนังสือพิมพ์ รวม 7 วัน โดยจำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย กรณีวันที่ 3 ก.พ. 2552 และวันที่ 5 ก.พ. 2552 นายสุเทพกล่าวหาพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับไทยเพื่อเป็นประธานาธิบดี

 

นายอุดม กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทีมทนายความได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมไปยังพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ นอกจากนี้ ทีมทนายความเตรียมยื่นฟ้องดำเนินคดีทางแพ่งกับนายสุเทพ โดยเรียก ค่าเสียหายอีกจำนวนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังเตรียมยื่นฟ้อง นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการตางประเทศและนายสรรชัย อินทรสูตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทในสัปดาห์หน้า

 

ทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายสุเทพที่ สน.ดุสิต แต่เห็นว่า นายสุเทพ มีตำแหน่งเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เกรงว่าจะเข้าไปมีส่วนได้เสียจึงมายื่นฟ้องต่อศาลอีกทางหนึ่ง ซึ่งได้ยื่นหลักฐานให้ศาลประกอบด้วย วิซีดี ในการให้สัมภาษณ์ และเอกสารการถอดเทป โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ในวันที่ 18 พ.ค. 2552 เวลา 09.00 น

 

 

ความมั่นคง

 

ผลตรวจดีเอ็นเอกระดูกที่หุบเขาโป่งอีเก้า ไม่ใช่ "ทนายสมชาย"

เว็บไซต์แนวหน้า - พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ผลการตรวจดีเอ็นเอ กระดูกต้องสงสัยที่ตรวจเจอในบริเวณทำลายวัตถุระเบิด หุบเขาโป่งอีเก้า อ.เมืองราชบุรี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านดีเอ็นเอ ได้เลือกชิ้นส่วนกระดูก 20 ชิ้น จากทั้งหมดที่เจอ 200 ชิ้น ไปตรวจดีเอ็นเอ เปรียบเทียบกับดีเอ็นเอพี่ชายและน้องชายของนายสมชาย นีละไพจิตร ผลปรากฏว่า เป็นชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ แต่ดีเอ็นเอไม่ตรงกับพี่น้องนายสมชาย จึงอนุมานได้ว่า ชิ้นส่วนกระดูกดังกล่าว ที่เจอในกระสอบปุ๋ยไม่ใช่ของนายสมชาย แต่อย่างใด คงไม่มีการเปิดแถลงข่าว เพราะกำลังปฏิบัติราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนแนวทางการดำเนินการต่อไป คงต้องรอกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ประสานมาอีกครั้ง ทราบว่า มีการประชุมกันอยู่

 

ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า อยากให้ประชาชนที่คิดว่า มีญาติสูญหาย เข้าติดต่อกับศูนย์พิสูจน์บุคคลสูญหาย สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเปรียบเทียบดีเอ็นเอ ที่เก็บได้จากพื้นที่จังหวัดราชบุรี หรือชิ้นส่วนกระดูกนิรนาม ที่สถาบันนิติฯ ตรวจสอบเจอประมาณ 1,000 ราย ในรอบ 6 ปี ซึ่งยังไม่ร่วมกับศพนิรนามในจังหวัดปัตตานี และพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กรณีการเจอศพนิรนามจำนวนมากนั้น เป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน ที่ปล่อยรื้อรังมานาน อยากให้รัฐบาล มอบหมายให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นเจ้าภาพในการแก้ปัญหา เพราะสิ่งเหล่านี้ บ่งบอกได้ว่า ระบบสืบสวนสอบสวนน่าจะยังมีปัญหา ทำให้มีการตายผิดธรรมชาติเกิดขึ้นอยู่

 

ขณะเดียวกันในช่วงบ่าย ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอป พล.ต.อ.ธานี สมบุรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.พ.ต.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนคดีการหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตรอดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม เพื่อวางแนวทางการเร่งรัดการสืบสวนสอบสวน หาเบาะแสศพทนายความมุสลิมที่ถูกอุ้มหายตัวลึกลับตั้งแต่เดือน มีนาคม 2547 จนถึงขณะนี้ยังไร้วี่แวว ส่วนผลการประชุมยังไม่เป็นที่เปิดเผย

 

 

เศรษฐกิจ

 

ไทยลงขันกองทุนอาเซียน 4 พันล.ดอลล์

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 ก.พ.2552 กระทรวงการคลังไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐ มนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน +3 วาระพิเศษ ที่จังหวัดภูเก็ต โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไทยและสาธารณรัฐเกาหลีจะเป็นประธานร่วม (CO-Chair) ในการประชุม ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน 10 ประเทศ และประเทศญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐเกาหลี เลขาธิการอาเซียน และประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย

 

การประชุมนัดพิเศษครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจการเงิน การคลังระหว่างประเทศอาเซียน+3 และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมาชิกให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้นในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ระบบการเงินขาดเสถียรภาพ และราคาน้ำมันมีความผันผวน โดยซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก ภาวะเศรษฐกิจของภูมิภาค ซึ่งจะมีการเน้นเกี่ยวกับและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกอาเซียน+3 และจะมีการหารือเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายและมาตรการของภูมิภาคอาเซียน+3 เพื่อให้เศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน+3 หลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และกลับมาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง

 

นอกจากนี้จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ G-20 ตลอดจนการพิจารณาความคืบหน้าในการดำเนินความร่วมมือตามมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่พหุภาคี (Chiang Mai initiative multilateralisation: CMIM) เพื่อเป็นกลไกในการเสริมสภาพคล่องทางการเงินระยะสั้นระหว่างกัน และจะมีการหารือเกี่ยวกับมาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของตลาดพันธบัตรเอเชีย ทั้งในด้านการเพิ่มอุปสงค์และอุปทาน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Market Infrastructure)

 

การประชุมนัดพิเศษ เป็นการประชุมวาระพิเศษเป็นครั้งแรก โดยปกติ การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 จะจัดประชุมปีละ 1 ครั้ง ในเดือนพ.ค.ก่อนการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ซึ่งในปีนี้ จะจัดขึ้นในวันที่ 3 พ.ค.2552 ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย

 

นายกรณ์ กล่าวว่า ข้อสรุปสำหรับการประชุมครั้งนี้ จะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมอาเซียนซัมมิต ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมช่วงปลายเดือนก.พ.นี้ และ จะได้เสนอต่อที่ประชุมในกลุ่มประเทศG20 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษด้วย

 

ด้าน ดร.สมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ได้มีการสรุปเบื้องต้นในแง่วงเงินที่จะให้ความช่วยเหลือกลุ่มประเทศสมาชิกตามมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่พหุภาคีเรียบร้อยแล้ว โดยในวงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์ จะมาจากกลุ่มประเทศสมาชิก 20% อีก 80% จะมาจากประเทศ +3 คือ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งในส่วนของไทยนั้น จะใส่เงินเข้าไปในส่วนนี้จำนวน 4 พันล้านดอลลาร์ โดยจะมาจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตามในแง่กลไกการบริหารเงินนั้นจะมีการหารือในรายละเอียดในที่ประชุมครั้งนี้

 

"ข้อตกลงนี้ จะไม่มีการเซ็นสัญญาในการประชุมครั้งนี้ แต่ถือเป็นเพียงความร่วมมือเบื้องต้นที่แสดงถึงความตั้งใจในความร่วมมือระหว่างกันเท่านั้น" ดร.สมชัย กล่าวและว่า ปัจจุบันมีเงินเป็นกองทุนสำหรับความช่วยเหลือระหว่างประเทศสมาชิกอยู่ประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์

 

รัฐเร่งเปิดผลิตปิโตรเลียมหารายได้1.2แสนล้าน

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานมีนโยบายเร่งเปิดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งในและต่างประเทศต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเพิ่มการผลิตปิโตรเลียมให้ได้ 2.5 แสนบาร์เรลต่อวัน ภายในปี 2554 จากปัจจุบัน 2.3 แสนบาร์เรลต่อวัน เพื่อลดการนำเข้า และสร้างรายได้เข้ารัฐ รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศอีกด้วย ซึ่งปี 2552 คาดว่าจะมีการลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของผู้สัมปทานในประเทศทั้งหมด มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.3 แสนล้านบาท คาดจะจัดเก็บรายได้เข้ารัฐจากค่าภาคหลวงปีนี้ประมาณ 1.25 แสนล้านบาทใกล้เคียงกับปี 2551

 

ปัจจุบันมีแหล่งปิโตรเลียมถึง 78 แหล่ง แบ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติ 50 แหล่ง แหล่งน้ำมันดิบ 28 แหล่ง และมีการผลิตในแหล่งก๊าซฯ 21 แหล่ง และแหล่งน้ำมันดิบ 28 แหล่ง ปริมาณปิโตรเลียมที่ผลิตจากแหล่งในประเทศ ตั้งแต่ปี 2524 -2551 จำนวน 1.3 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต, ก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) 370 ล้านบาร์เรล น้ำมันดิบ 460 ล้านบาร์เรล มูลค่า 2.3 ล้านล้านบาท จำนวน 27 แหล่ง

 

ในด้านการจัดเก็บรายได้จากการผลิตปิโตรเลียมปี 2551 ของผู้ประกอบการทั้งในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย มูลค่า 1.25 แสนล้านบาท แบ่งเป็นค่าภาคหลวงปิโตรเลียม 4.9 หมื่นล้านบาท เงินผลประโยชน์พิเศษที่เก็บจากผู้รับสัมปทานที่มีกำไรถึงเกณฑ์ 4,743 ล้านบาท ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมที่กรมสรรพากร จัดเก็บ 6.57 หมื่นล้านบาท และรายได้จากผู้ประกอบการในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-พม่า มูลค่า 5,650 ล้านบาท เมื่อเทียบกับการจัดเก็บรายได้ในปี 2550 ที่อยู่ 1.09 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.56 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 14.28% ของรายได้ปิโตรเลียม ซึ่งรายได้จากการผลิตปิโตรเลียมดังกล่าว ทำให้กรมเชื้อเพลิง เป็นหน่วยงานที่ส่งรายได้เข้ารัฐเป็นอันดับ 4 ของประเทศ รองจาก กรมสรรพากร กรมศุลกากร และ กรมสรรพสามิต

 

ทั้งนี้จากปัจจุบันราคาน้ำมันดิบลดลง จึงมีแนวโน้มว่ารายได้จากการผลิตปิโตรเลียมอาจจะลดลง ดังนั้นกระทรวงพลังงานจึงมีนโยบายสนับสนุนให้มีการผลิตปิโตรเลียมจากแหล่งต่างๆ ต่อเนื่อง และเร่งผลิตปิโตรเลียมจากแหล่งใหม่ๆ โดยเฉพาะในอ่าวไทย เช่น แหล่งสงขลา และ บัวบาน ของบริษัทนิวคอสตอล (ประเทศไทย) จำกัด แหล่งยูงทอง เกรทเทอร์ ตราด และ ชบา ของบริษัทในกลุ่มเชฟรอน เพื่อรักษาระดับจัดเก็บรายได้เข้ารัฐให้ใกล้เคียงปีก่อน

 

 

คุณภาพชีวิต

 

ไทยเตรียมยกปัญหาโรฮิงญาหารืออาเซียน

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - "อภิสิทธิ์" เผยเตรียมหยิบยกปัญหาโรฮิงญาเข้าที่ประชุมอาเซียน โต้ซีเอ็นเอ็นไม่ได้ยอมรับมีเจ้าหน้าที่ของไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง ผลักดันเรือของชาวโรฮิงญาออกทะเล ขณะที่ชาวโรฮิงญา เกือบ 100 คน ประท้วงหน้าสถานทูตไทยในมาเลเซีย ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย "บัวแก้ว" ชี้ตั้งศูนย์อพยพโรฮิงญาในไทย ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา

 

กมธ.ป.ป.ช.ขยายผลตรวจสอบ เล็งเหมืองแร่กระดาษทั่วปท.

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - หลังจากคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎรเดินหน้าตรวจสอบเหมืองแร่แมงกานีส ในหมู่บ้านโคกผักหวาน ต.ผาขาว จ.เลย และพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายของบริษัทเอกชน โดยไม่มีการทำเหมืองแร่จริง แต่นำแร่เถื่อนจากแหล่งอื่นที่ไม่ได้ขุดจากในพื้นที่ประทานบัตรมาเข้าสวม โดยเรียกว่าเป็นการ "สวมเสื้อ" และมีการดำเนินการเป็นกระบวนการระหว่างผู้ประกอบการ ข้าราชการ นักการเมือง

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่า ยังมีเหมืองแร่เหล็ก เหมืองแร่ทองคำ ในอีกหลายจังหวัดที่ดำเนินการในลักษณะเดียวกันนี้ หรือที่เรียกว่า "เหมืองแร่กระดาษ" ในอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ

 

สอดคล้องกับข้อมูลที่นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร ยอมรับว่าเขาได้ข้อมูลลักษณะนี้เข้ามาอีก และเป็นเหมืองแร่ที่ใช้วิธี "สวมเสื้อ" เช่นเดียวกับเหมืองแร่แมงกานีสที่ กมธ.ป.ป.ช.ตรวจสอบ บริษัท ธวัชชัย ไมนิ่ง จำกัด ที่ไปเช่าช่วงจากบริษัทอื่นมาดำเนินการ

 

ทั้งนี้ นายวิลาศ ระบุว่า เขาเตรียมจะขยายผลการตรวจสอบเหมืองแร่ต่างๆ ที่ทำผิดกฎหมายในทั่วประเทศ โดยจะประชุมหารือกับ กมธ.ป.ป.ช.ก่อน เนื่องจากมีผู้หวังดีส่งข้อมูลเข้ามาให้จำนวนมาก อย่างต่อเนื่อง

 

"ผมจะหารือในที่ประชุมคณะกรรมาธิการ และคุยกับทางกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ เพื่อขอข้อมูลว่ามีจังหวัดใดบ้างทำธุรกิจสวมเหมืองอื่น จะได้เอาข้อมูลออกมาดูทีละจังหวัด และจากนั้นก็จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบอย่างที่ดำเนินการกับเหมืองธวัชชัย ไมนิ่ง เพราะธุรกิจเหมืองแร่ผิดกฎหมายมีเครือข่ายเยอะมาก และเราจะทำอย่างจริงจัง คาดว่าจะทำให้ขบวนการเหมืองแร่กระดาษ ไม่กล้าดำเนินการผิดกฎหมายอย่างนี้อีก"

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด กมธ.ป.ป.ช.ได้เริ่มตรวจสอบข้อมูลการสวมเหมืองแร่เหล็กรายใหญ่ ใน จ.เลย ที่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาจากนักการเมืองระดับชาติผู้หนึ่ง ว่าบริษัทแห่งนี้เป็นของนักการเมืองท้องถิ่น ที่มีเส้นสายของนักการเมืองระดับชาติ ไปเช่าช่วงประทานบัตร เพื่อสวมเหมืองร้างของบริษัทปูนซีเมนต์ โดยปีหนึ่งๆ ได้นำแร่เถื่อนมาสวมมูลค่ากว่าพันล้านบาท และผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการสวมเสื้อเหมืองแร่เหล็กแห่งนี้ มีข้าราชการระดับสูงในจังหวัดเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ช่วยเหลือบริษัทธวัชชัย ไม่นิ่ง จำกัด ของนายธวัชชัย บุบผชาติ ด้วย

 

ด้านแหล่งข่าวจากข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้หนึ่ง เปิดเผยว่า การทำเหมืองแร่ใน จ.เลย บางบริษัทมีการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ในพื้นที่ภูเขาทั้งลูก โดยมีผู้อยู่เบื้องหลังเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ใช้อิทธิพลข่มขู่ไม่ให้ชาวบ้าน และเอ็นจีโอในพื้นที่ร้องเรียน โดยพยายามหาใบครอบครองแร่เป็นกรณีพิเศษ มีการซื้อขายใบขนแร่กันตันละพันกว่าบาท โดยผู้ประกอบการเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ วิ่งเต้นทั้งระดับข้าราชการในพื้นที่ นักการเมืองระดับชาติ และยังแอบอ้างว่าวิ่งเต้นผ่านผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงอุตสาหกรรมด้วย

 

ขณะที่มีรายงานข่าวว่า นายพินิจ จารุสมบัติ อดีต รมว.อุตสาหกรรม ซึ่งเคยถูกกระบวนการนี้วิ่งเต้นเช่นกัน ได้สนับสนุนให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่

 

"จุรินทร์" เรียกถกเรียนฟรี 16 ก.พ.สรุปแนวปฏิบัติจัดซื้อตำรา-ชุดนร.

เว็บไซต์สยามรัฐ - วันที่ 13 ก.พ.52 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อเนื่องถึงความเหมาะสมหรือไม่ ที่จะอนุญาตให้โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดซื้อหนังสือเรียนหลักสูตรเก่า พ.ศ.2544 รวมมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท แจกฟรีแก่เด็กนักเรียนทั่วประเทศตั้งแต่ชั้นอนุบาล-ม.6 ตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพของรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่าหนังสือเรียนหลักสูตรเก่า พ.ศ.2544 ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มีเนื้อหาที่ผลิตจากต้นฉบับที่เขียนไว้เมื่อ 6 ปีที่แล้วว่าเรื่องเป็นรายละเอียดจึงอยากให้สอบถามทาง สพฐ.จะดีกว่า

 

ส่วนกรณีที่นางอุทุมพร จามรมาน ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.)ระบุว่าเคยตรวจพบว่าหนังสือเรียนหลายเล่มเนื้อหาไม่ค่อยถูกต้อง ไม่สมบูรณ์และไม่ทันสมัยนั้น ตอนนี้ สพฐ.กำลังตรวจสอบเนื้อหาหนังสือเรียนว่าเนื้อหาสอดคล้องกับหลักสูตร 2553 หรือไม่และเมื่อผลตรวจสอบออกมาเช่นไรก็จะทราบว่าหนังสือของสำนักพิมพ์ไหน เล่มไหนสอดคล้องกับหลักสูตรของ ศธ.หรือไม่

 

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 16 ก.พ.52 ตนได้นัดประชุมผู้บริหาร 5 องค์กรหลักแล้ว ซึ่งจะได้ข้อสรุปในแนวปฏิบัติโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพทั้งหมดรวมทั้งเรื่องของการเปิดโอกาสให้นักเรียนสละสิทธิ์ หรือไม่ใช้สิทธิ์ในโครงการเรียนดังกล่าวด้วยว่าจะมีแนวปฏิบัติเช่นไร ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปทั้งหมดแล้วก็จะทราบว่าจะต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติมบ้าง ทั้งนี้สำหรับการจัดซื้อหนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียนและชุดนักเรียนนั้นมีแนวทางอยู่แล้วว่าจะมีสองส่วนคือให้โรงเรียนจัดซื้อและให้ผู้ปกครองซื้อเอง ซึ่งในส่วนที่ให้ผู้ปกครองซื้อนั้น จะแยกเป็นว่าจะให้เป็นคูปองหรือให้เงินสด โดยการที่โรงเรียนหรือผู้ปกครองจะซื้อนั้นมีสิทธิเลือกว่าจะซื้อจากใครก็ได้ เช่น ชุดนักเรียนโรงเรียนจะไม่จัดซื้อฉะนั้นจะให้นักเรียนหรือผู้ปกครองซื้อเองโดยจะไม่บังคับหรือจำกัด

 


 

ต่างประเทศ

 

ช็อค! เครื่องบินสหรัฐโหม่งโลกตกใส่บ้านคน ดับหมู่เหมาลำ 49

มติชนออนไลน์ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ว่า เกิดเหตุเครื่องบินสายการบินคอนติเนนตัล เที่ยวบินจากเมืองเนวัค รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประสบอุบัติเหตุตกใส่บ้านคนในย่านบัฟฟาโล ชานกรุงนิวยอร์ก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ทำให้ผู้โดยสาร 44 ราย และลูกเรืออีก 4 รายเสียชีวิตเรียบ รวมทั้งเหยื่ออีกรายที่อยู่ในบ้าน

 

รายงานระบุว่า เครื่องบินได้ตกลงเมื่อเวลา 22.20 ตามเวลาท้องถิ่น (หรือประมาณ 10.20 น. 13 ก.พ. เวลาประเทศไทย) ชนบ้านหลังหนึ่ง และระเบิดจนกลายเป็นลูกเพลิง ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้อพยพผู้คนรอบพื้นที่จุดเกิดเหตุราว 12 รายออกจากพื้นที่ ขณะที่ทางการกำลังเร่งรุดที่จะร่วมมือกับทางการเพื่อรับมือกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้รน และติดต่อกับญาติผู้เสียชีวิต และให้ความช่วยเหลือแก่พวกเขาแล้ว

 

ด้านสำนักงานการบินพลเรือนแห่งรัฐ (เอฟเอเอ) แจ้งว่า ได้ส่งหน่วยกำลังเตรียมพร้อมที่จะระดมทีมไปยังเขตบัฟฟาโลเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

เวิลด์แบงก์เตือนศก.ทรุดฆ่าเด็ก 4 แสน

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - วอชิงตัน - นายโรเบิร์ต เซลลิค ประธานธนาคารโลก ระบุว่า วิกฤติเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลให้อัตราการเสียชีวิตของทารกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 400,000 คนต่อปี นับตั้งแต่นี้ไปจนถึงปี 2558 เนื่องมาจากความยากจนที่กำลังขยายตัว พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจชะลอตัวอาจส่งผลให้ประชาชนกว่า 53 ล้านคน ตกอยู่ในความยากจน โดยขณะนี้ มีประเทศ 40 แห่งที่อ่อนแอต่อผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ เพราะเผชิญกับความยากจนอยู่ก่อนแล้ว

 

ยูเอ็นอึ้งผู้หญิงเป็นนักค้าทาสยุคใหม่มากกว่าผู้ชาย

เว็บไซต์คมชัดลึก - สหประชาชาติ - รายงานผลการสำรวจทั่วโลก ที่นำออกเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ก.พ.) ของสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมหรือ ยูเอ็นโอดีซี เปิดเผยว่า ประเทศส่วนใหญ่ในโลกได้รายงานเรื่องบางรูปแบบของการค้าทาสยุคใหม่เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการค้าบริการทางเพศและการบังคับใช้แรงงาน พร้อมระบุว่าสตรีมีบทบาทสำคัญจนน่าแปลกใจในการบริหารธุรกิจค้าทาส

 

ในขณะที่สตรีและเด็กเป็นผู้ทุกข์ทรมานที่สุดจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ส่วนใหญ่ของนักค้าทาสเกือบหนึ่งในสามของ 155 ชาติที่ยูเอ็นทำการสำรวจเป็นสตรี และมีนักค้าทาสที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในยุโรปตะวันออกกับเอเชีย เป็นสตรีมากกว่าร้อยละ 60 ขณะเดียวกัน ร้อยละ 20 ของเหยื่อทั่วโลกเป็นเด็ก ส่วนใหญ่อยู่ในแถบลุ่มแม่น้ำโขงของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในหลายส่วนของแอฟริกา

 

แอนโตนิโอ มาเรีย คอสต้า ผู้อำนวยการสำนักงานซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนาของออสเตรียกล่าวว่า ผู้หญิงก่ออาชญากรรมกับผู้หญิงเอง และมีหลายรายที่เหยื่อกลายมาเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง โดยเลื่อนขึ้นมาเป็นผู้คุมและได้เงินจากธุรกิจเหมือนกับการเสพยาเสพติด

 

รายงานฉบับนี้ใช้ข้อมูลหลักจากการตัดสินความผิดของพวกค้ามนุษย์ที่มีรายงานไปถึงยูเอ็นช่วงเดือนกันยายน 2550-กรกฎาคม 2551 ซึ่ง 4 ใน 5 เป็นคดีค้าบริการทางเพศ ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นการบังคับใช้แรงงาน การเปิดเผยรายงานฉบับนี้มีขึ้นในช่วงเดียวกับที่มีการประกาศแต่งตั้ง มีรา ซอร์วิโน นักแสดงหญิงเจ้าของรางวัลออสการ์ ให้เป็นทูตสันถวไมตรีของสหประชาชาติเพื่อช่วยยูเอ็นโอดีซีรับมือกับปัญหาการค้ามนุษย์ยุคใหม่

 

สเปนใจกว้าง ยอมให้"หญิงแปลงชาย"สมัครเป็นทหาร
มติออนไลน์ - "เดอะ เทเลกราฟ" รายงานเมื่อวันที่ 13 ก.พ.กองทัพสเปนได้ยอมรับให้หญิงแปลงเพศชายสมัครเข้าเป็นทหาร จากการชนะคดีของนายไอตอร์ จี อาร์ หญิงสเปนซึ่งผ่าตัดแปลงเพศเป็นผู้ชาย หลังถูกปฎิเสธไม่ให้เข้าร่วมกองทัพด้วยเหตุผลเพราะเขาไม่มีองคชาติ

 

รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ ไอตอร์ เกิดมาเป็นผู้หญิง แต่เธอได้ผ่าตัดและรับการบำบัดเสริมโฮร์โมนเพศชายมาเป็นเวลาหลายปี กำลังอยู่ระหว่างการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศหญิงเป็นชาย ในช่วงที่เขาได้ขอกองทัพเข้าร่วมเป็นทหาร โดยเขาถูกประกาศว่าไม่เหมาะสมที่จะเข้ากองทัพเพราะขาดเครื่องแสดงเพศชาย แม้ว่าเขาได้รับการยอมรับเป็นผู้ชายทางกฎหมายก็ตาม โดยเขาพยายามสมัครเป็นทหาร 2 ครั้ง คือ เมื่อเดือนก.พ.2007 และช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

 

ทางด้านนายขาร์เม่ ชาคอน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสเปน ได้ประกาศสัญญาจะแก้ไขกฎหมายอนุญาติให้หญิงแปลงเพศเป็นชายเข้าร่วมกองทัพด้วย

 

โลกร้อนทำเพนกวินหาอาหารยากขึ้น

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - ชิคาโก - นักวิจัยมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เผยว่า นกเพนกวินบริเวณนอกชายฝั่งอาร์เจนตินากำลังอยู่ในความหิวโหย เนื่องจากกระแสน้ำในมหาสมุทรเปลี่ยนแปลงไป ทำให้นกเหล่านี้ต้องว่ายน้ำหาอาหารไกลกว่าที่เคยในทศวรรษก่อนถึง 40 กิโลเมตร โดยสาเหตุที่ทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนแปลง คือ การจับปลามากเกินไป มลพิษทางทะเล และ อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท