Skip to main content
sharethis


จากรณีที่วานนี้ (13 ก.พ.52) เกิดเหตุก๊าซรั่วที่ บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ส่งผลให้คนงานรับเหมาก่อสร้างจำนวนมากที่สูดก๊าซเข้าไปเกิดอาการหน้ามืดเป็นลม เจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยโรงงานนำส่งโรงพยาบาลระยอง 5 คน และโรงพยาบาลมาบตาพุด 25 คน กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงมาตรการและกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีอันตราย มีการบังคับใช้กฎหมายในการรับรู้ข่าวสารของชุมชน เนื่องจากเกิดอุบัตริภัยลักษณะนี้หลายครั้งแล้วแต่ไม่มีการเตรียมการไปสู่การป้องกัน


 


นายพลาย ภิรมย์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า "หลายครั้งแล้วที่มีสารเคมีหรือก๊าซอันตรายรั่วไหลจากโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง และหลายครั้งที่อุบัติภัยจากสารพิษเหล่านี้ส่งผลต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามเรายังไม่ได้เรียนรู้จากอุบัติภัยเหล่านี้เพื่อนำไปสู่การป้องกัน"


 "หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องควรต้องปรับปรุงมาตรการและกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีอันตรายทั้งหลาย ตั้งแต่การใช้ การเคลื่อนย้าย จนถึงการกำจัดทำลาย นอกจากนี้ยังมีความจำเป็นอย่างมากที่ควรต้องมีการบังคับใช้กฎหมายในการรับรู้ข่าวสารของชุมชน ที่กำหนดให้โรงงานต่างๆ เปิดเผยข้อมูลชนิดและปริมาณการใช้สารเคมีรวมถึงการปล่อยมลพิษ ซึ่งกฏหมายนี้ยังจะสามารถทำให้การพิสูจน์ที่มาของสารพิษหรือต้นเหตุอุบัติภัยสามารถทำได้ง่ายขึ้นและโปร่งใส"    


"อุบัติภัยที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในจังหวัดระยองบ่งชี้ถึงความไม่ปลอดภัยของชีวิตประชาชน และจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตหากอุตสาหกรรมยังคงไม่มีมาตรการป้องกัน ยังคงใช้และผลิตสารเคมีอันตราย กรีนพีซสนับสนุนและผลักดันให้อุตสาหกรรมควรมุ่งประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่สะอาด และใช้สารเคมีที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม" ผู้ประสานงานฯ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net