เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 26 ก.พ. 2552 นายวีระ มุสิกพงศ์ ได้อ่านแถลงการณ์ต่อหน้าผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปช.) ยกระดับการต่อสู้เป็นการขับไล่เผด็จการซ่อนรูป

ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า รัฐบาลปัจจุบันภายใต้การนำของรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เกิดขึ้นโดยการแทรกแซงจากทหาร ตุลาการ โดยวิถีทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จึงกล่าวได้ว่ารัฐบาลชุดนี้ขาดความชอบธรรม

ทั้งนี้ รัฐบาลนี้ปฏิเสธความต้องการของประชาชนที่รักประชาธิปไตย 4 ประการ คือ 1.ดำเนินคดีกับผู้ยึดสนามบิน 2.ปลดนายกษิต ภิรมย์ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 3.รับร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการประชาชน หรือยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 กลับไปใช้รัฐธรรมนูญฉบับ 2540 และ 4.เมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่แล้วให้ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนทันที

ดังนั้น นปช. จึงต้องยึดทำเนียบอีกครั้ง เป็นการต่อสู้ตามหนทางสันติวิธี แต่รัฐบาลก็ปฏิเสธความปรารถนาดีดังกล่าว

นปช. จึงมีความชอบธรรมที่จะยกระดับการต่อสู้ไปสู่การขับไล่รัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปอย่างถึงที่สุด นปช. ขอประกาศว่า การต่อสู้ต่อไปนี้จะใช้ยุทธศาสตร์ยุทธวิธีทั้งในและนอกสภา ทั้งในและต่างประเทศ และทั้งในเมืองและชนบท จนกว่าจะได้ชัยชนะ

และขอให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยไม่ว่าจะใส่เสื้อสีใด ให้ออกมาขับไล่เผด็จการซ่อนรูปอย่างถึงที่สุด

จากนั้น นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ได้ขึ้นมาชี้แจงมาตรการของคนเสื้อแดงว่า จะไม่มีการเจรจา ไม่มีการประนีประนอม ไม่มีการสมยอม ไม่มีการเกี้ยเซี้ย มีแต่การขับไล่เท่านั้น

มาตรการข้อที่ 1 ขอสงวนสิทธิในการแสดงออกอย่างเปิดเผยเพื่อขับไล่บุคคลในรัฐบาลชุดนี้ในทุกกรณีทุกพื้นที่โดยสงบ ปราศจากอาวุธ ตามวิถีทางประชาธิปไตย เจอที่ไหนไล่ที่นั่น ไม่มีเจรจา ไม่มีการประนีประนอม มีแต่ขับไล่เท่านั้น

มาตรการที่ 2 นับจากนี้ไป คนเสื้อแดง จะทำงานจัดตั้งขยายเครือข่าย ขยายแนวร่วมของคนเสื้อแดง โดยใช้เวลา 1 เดือนจากนี้ กลับไปภูมิลำเนา ไปขยายเครือข่าย จัดเวทีใหญ่ระดมกำลังเข้ากรุงเทพฯ ขับไล่รัฐบาล ไม่เลิกรา ถ้าไม่ชนะไม่กลับ