Skip to main content
sharethis


กรณีที่การ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือม็อบเสื้อแดงรุมทำร้ายทหารรับบาดเจ็บ เพราะคิดว่าเข้ามาแฝงตัวเพื่อก่อกวนการชุมนุมเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วันที่ 25 กุมภาพันธ์นั้น



พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ข้อเท็จจริงคือระหว่างที่ ส.อ.อำนวย ทองรินทร์ และพลทหารวัชระ แสงสีแก้ว สังกัดกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ปฏิบัติภารกิจตามแผนดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่รอบกองทัพภาคที่ 1 อยู่บริเวณหัวมุมกำแพงด้านนอก หลังป้อมยามตำรวจ แยกสวนมิสกวัน เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้บุคคลที่ 3 เข้ามาก่อความวุ่นวายในสถานที่ราชการ โดยทั้ง 2 นายยืนติดตามสถานการณ์ตามปกติ และไม่ได้ยืนเป็นครั้งแรก



"กลุ่มเสื้อแดงเข้ามาถาม ทหารก็บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ดูแลการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ ปรากฏว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาล็อคตัวทหารทั้งสองทันที แต่ล็อคเพียงนายสิบได้คนเดียว ส่วนพลทหารสลัดตัวและวิ่งเข้าไปภายในหน่วยที่ตั้ง โดย ส.อ.อำนวยถูกกลุ่มคนเสื้อแดงทำร้าย ศีรษะแตก ใบหน้ามีรอยฟอกซ้ำบวม ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า" โฆษกกองทัพบกกล่าว


 



แต่งนอกเครื่องแบบเลี่ยงเผชิญหน้า


พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า จากนั้นพลทหารแจ้งให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ โดย พ.อ.สุชาติ พรหมใหม่ ผบ.มทบ.11 ในฐานะผู้บังคับบัญชาไปติดตามกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง โดยบอกว่า ส.อ.อำนวยเป็นทหารในสังกัดและอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ได้สร้างความวุ่นวายอะไร ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) บอกว่าให้ดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม และให้ทหารที่ปฏิบัติภารกิจระมัดระวังไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยแบบนี้อีก ทั้งนี้ พ.อ.สุชาติ แจ้งความไว้ที่ สน.ดุสิตไว้แล้ว ยืนยันว่ากองทัพไม่ได้ส่งกำลังทหารเข้าไปแฝงในกลุ่มผู้ชุมนุมตามที่กลุ่มเสื้อแดงกล่าวอ้าง



พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ที่ต้องแต่งกายนอกเครื่องแบบเพราะไม่อยากแต่งชุดทหารออกมายืนปฏิบัติภารกิจด้านนอกเพราะจะเป็นการเผชิญหน้ากัน โดย ส.อ.อำนวยแต่งกายเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนต์ สวมเสื้อแจ๊คเก็ต ส่วนพลทหารวัชระสวมเสื้อคอปกสีฟ้า และกางเกงยีนส์ พร้อมอุปกรณ์วิทยุไอคอม เพียงตัวเดียว



"เขาไม่ได้แต่งกายเสื้อแดง ไม่ได้ไปสร้างความวุ่นวายหรือปลอมปนกับผู้ชุมนุมแต่อย่างใดไม่มีอาวุธมีเพียงวิทยุไอคอมตัวเอง แต่กลุ่มเสื้อแดงยึดไปและยังไม่ได้คืน" พ.อ.สรรเสริญกล่าว



พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด ทหารไม่ได้สวมเสื้อแดงแฝงตัวเข้าไปป่วนการชุมนุม แต่เป็นกำลังพลที่ลงไปดูแลพื้นที่การชุมนุม


 



ตร.ดูวงจรปิดตามล่าคนรุมทหาร


เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พร้อม พ.อ.สุชาติ พรหมใหม่ ผบ.มทบ.11 เข้าเยี่ยมอาการของ ส.อ.อำนวย ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า



พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.อ.อำนวยกับพลทหารวัชระแฝงตัวเข้ามาหาข่าวกับกลุ่ม นปช.โดยยืนอยู่หลังป้อมตำรวจ แยกสวนมิสกวัน หลังจากนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 8-9 คน เข้ามาขอตรวจค้น พลทหารวัชระจึงวิ่งหนี แต่ส.อ.อำนวยวิ่งไม่ทันจึงถูกรุมทำร้าย ได้รับบาดเจ็บ ศีรษะขวาแตก หางตาซ้ายบวมช้ำ ปากแตก ร่างกายเป็นแผลถลอก ก่อนถูกจับใส่กุญแจมือแล้วพาไปที่เต๊นท์ของผู้ชุมนุม เมื่อทางผู้บังคับบัญชาทราบข่าว จึงเดินทางไปเจรจาขอรับตัวกลับแล้วพาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ขณะที่พลทหารวัชระเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ดุสิต เมื่อเช้าวันเดียวกันนี้


 


"จะนำภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงมาตรวจสอบ น่าจะเห็นได้ชัดเพราะที่เกิดเหตุมีแสงสว่างพอสมควร จะให้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมด พร้อมกับเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแลบริเวณแยกมิสกวันให้มากขึ้น" รอง ผบช.น.กล่าว และว่า ตนกังวลมากเรื่องการพูดจาจาบจ้วง หมิ่นเบื้องสูง ที่ได้ยินมาก็มีการพูดมาบ้างแล้ว ขอเตือนเอาไว้ก่อน เนื่องจากทุกคำพูดมีการบันทึกเทปไว้ทั้งหมด ว่าใครพูดอะไรออกไปบ้าง


 



รองโฆษกรบ.ปัดส่งทหารป่วน


นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นปช. จับ ส.อ.อำนวยโดยอ้างว่ารัฐบาลส่งไปแทรกซึมการชุมนุมว่า ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง จากการตรวจสอบจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯด้านความมั่นคงและทางกองทัพ ทราบว่านายทหารคนดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณทำเนียบ เข้าใจว่าเป็นไปสังเกตการณ์เอง เมื่อถูกตรวจค้นก็พบบัตรประจำตัวข้าราชการทหารที่พกไว้ จึงกลายเป็นประเด็นที่ถูกนำมาเชื่อมโยง



นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำผู้จัดรายการความจริงวันนี้ กล่าวว่า ที่ นปช.จับกุมส.อ.อำนวย ซึ่งเป็นทหารที่ถูกส่งมาดูแลความปลอดภัยบริเวณทำเนียบเมื่อ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ออกมายอมรับเรื่องถือว่าจบ แต่ที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกฯ ออกมาปฏิเสธว่ารัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และว่าทหารไปสังเกตการณ์ส่วนตัวนั้น ขัดแย้งกับที่ พล.ท.คณิต ออกมายอมรับ สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลขาดความน่าเชื่อถือ


 


 


ทหารแจ้งความเอาผิดเสื้อแดง


ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ดุสิต เข้ารายงานเหตุคดีพิเศษเกี่ยวข้องกับความมั่นคงกับ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ว่า เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา  ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ โฉมงาม พงส.(สบ 1) สน.ดุสิต รับแจ้ง เหตุร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น เหตุเกิดบริเวณแยกมิกสกวัน แขวงและเขตดุสิต กทม. มีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 3 ราย ประกอบด้วย ส.อ.อำนวย ทองรินทร์ พลฯ วัชระ แสนสีแก้ว นายกิตติศักดิ์ จีนขจร และกลุ่มชายไทยไม่ทราบชื่อและนามสกุล   


 


รายงานระบุว่า ตามวันเวลาที่เกิดเหตุดังกล่าว พลฯ วัชระ แสนสีแก้ว และ ส.อ.อำนวย ทองรินทร์ นายทหารฯประจำกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 ซึ่งได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาคอยสังเกตการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงบริเวณรอบกองทัพภาคที่ 1 โดยยืนอยู่ข้างป้อมตำรวจแยกมิกสกวัน ได้มีกลุ่มชายไทยประมาณ 8-10 คน เข้ามาซักถามและขอดูบัตรประชาชน เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 2 นายแจ้งว่าไม่มีจึงได้ถูกรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานตาม ปจว.ข้อ 1 เวลา 01.00 น.ลงวันที่ 26 ก.พ.         


 


ขณะเดียวกัน ได้มีนายกิตติศักดิ์ จีนขจร ทำหน้าที่การ์ดของกลุ่มชุมนุมคนเสื้อแดงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ว่าขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยที่จุดตรวจค้นคนเข้าออกบริเวณที่ชุมนุม ด้านถนนพิษณุโลกตัดกับถนนราชดำเนินนอก สังเกตเห็นชายไทย 2 คนใส่เสื้อยืดสีขาว และเสื้อยืดสีฟ้า ยืนอยู่บริเวณใกล้กับจุดตรวจ นายกิตติศักดิ์กับพวกจึงเข้าไปสอบถามแต่ชายไทยทั้ง 2 คนดังกล่าวไม่ตอบและวิ่งหนี นายกิตติศักดิ์จึงเข้าขวางแต่ถูกชายไทยดังกล่าววิ่งชนจนล้มไปกระแทกรั้วของกองทัพภาคที่ 1 ทำให้นายกิตติศักดิ์ได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้ายมีอาการบวมเล็กน้อย จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานตาม ปจว.13 เวลา 23.00 น.วันที่ 25 ก.พ.         


 


ต่อมาได้มีชายไทยไม่ทราบชื่อจำนวน 2 คน ซึ่งอ้างว่าเป็นการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงได้นำตัวชายไทยไม่ทราบชื่อพร้อมด้วยหนังสติ๊กไม่มียางยืดสำหรับใช้ยิงจำนวน 1 อัน ลูกแก้วจำนวน 16 ลูก มาพบพนักงานสอบสวน โดยแจ้งว่าพบชายไทยคนดังกล่าวเข้าไปร่วมชุมนุมในกลุ่มคนเสื้อแดง และได้ทำการตรวจค้นตัวพบสิ่งของดังกล่าว เข้าใจว่าชายไทยคนดังกล่าวจะเป็นฝ่ายตรงข้ามที่จะมาก่อกวน ขณะพนักงานสอบสวนสอบถามรายละเอียดเบื้องต้น ปรากฏว่าชายไทยจำนวน 2 คนที่อ้างว่าเป็นการ์ดของกลุ่มคนเสื้อแดงได้พาตัวชายไทยที่พกหนังสติ๊กเดินทางออกจาก สน.ดุสิตไป พนักงานสอบสวนจึงลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ปจว.2 เวลา 01.30 น. ลงวันที่ 26 ก.พ. ทั้งนี้ ทั้ง 3 เหตุมี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ดุสิต พ.ต.ท.สมิต นันท์นฤมิตร พงส.(สบ 3) รรท. รอง ผกก.(สส.) สน.ดุสิต ร่วมทำการสอบสวน         


 


ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.อ.อำนวย ทองรินทร์ ทหารสังเกตการณ์ชุมนุม สังกัดกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลดุสิต โดยสภาพร่างกายที่บอบช้ำและบาดแผลที่ใบหน้า ยืนยันถูกกลุ่มการ์ด จำนวนกว่า 10 คน ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รุมทำร้าย ขณะสังเกตการณ์อยู่ที่ป้อมจราจรย่านแยกสวนมิสกวัน เมื่อคืนเวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งอยู่นอกพื้นที่การชุมนุมและตนไม่ได้สร้างความวุ่นวายตามที่ กลุ่ม นปช. กล่าวหา เพียงแต่ยืนสังเกตการณ์อยู่ด้านนอกและถูกรุมทำร้าย ทั้งนี้จะเอาผิดกับผู้ที่ทำร้ายร่างกายตนจนถึงที่สุด เพราะจำใบหน้าได้ทั้งหมด


 



"ปชป.เย้ย"เสื้อแดง"ท่อน้ำเลี้ยงรั่ว


นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่ามีผู้ร่วมชุมนุมคนเสื้อแดงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ คิดว่ามีสาเหตุมาจาก 3 ประเด็นคือ 1.คนส่วนใหญ่ที่รักประชาธิปไตย ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ที่ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมอาเซียนซัมมิท 2.ท่อน้ำเลี้ยงมีปัญหา เกิดสภาวะเงินค้างท่อ หรือท่อรั่วไม่ไปถึงเป้าหมาย และ 3.ความเคลื่อนไหวของม็อบเสื้อแดงที่เลียนแบบม็อบเสื้อเหลืองแตกต่างกัน เพราะม็อบเสื้อเหลืองเป็นม็อบที่มาด้วยใจ แต่ม็อบเสื้อแดงเป็นม็อบที่มาด้วยจ้าง คาดว่าใน 1-2 วันนี้ ถ้าเจ้าของม็อบที่แท้จริงไม่พลิกเกม ไม่แก้สถานการณ์ หรือไม่ปรับปรุงข้อบกพร่อง เชื่อว่าจำนวนคนจะน้อยลงกว่านี้



ด้านนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมของ นปช.ขอยืนยันว่า ไม่ได้มีท่อน้ำเลี้ยงหรือเงินสนับสนุนจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือจากใครที่ไหน แต่เป็นเงินที่บริจาคมาโดยพี่น้องประชาชน โดย 2 วันที่ผ่านมานั้น มียอดบริจาครวม 704,491.75 บาท ขณะที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยวันละ 300,000 บาท ยอดที่บริจาคและยอดค่าใช้จ่ายต่อวันขนาดนี้ ทำให้การชุมนุมเกิดขึ้นได้



สหภาพฯกฟน.จี้ถอนทหาร


นายเพียร ยงหนู ประธานสหภาพแรงงานการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า ตนและกลุ่มสหภาพฯประมาณ 50 คน จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อคัดค้านการนำกำลังทหาร 21 กองร้อย ออกปฏิบัติการควบคุมการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง เพราะการชุมนุมอย่างสงบเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เป็นการแสดงออกตามวิถีประชาธิปไตย จึงต้องการทราบว่า พล.อ.ประวิตรมีวัตถุประสงค์ใด หรือต้องการข่มขู่คุกคามการแสดงออก อย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธของประชาชน ที่ทหารออกมาจึงไม่มีเหตุผลสมควร กรุณาอย่านำกองทัพออกมาเป็นเครื่องมือของกลุ่มบุคคล หรือกลุ่มมวลชนใดๆ



"ที่ทหารออกมาทำให้ต่างชาติมองว่าไทยมี 2 มาตรฐานเพราะก่อนหน้านี้ที่กลุ่มพันธมิตร ปิดล้อมทำเนียบและสนามบิน แต่ทหารกลับเพิกเฉย ไม่ดำเนินการใดๆ นอกจากนั้น ยังแต่งตั้งแกนนำพันธมิตรมาเป็นรัฐมนตรี ที่สหภาพฯ กฟน.ออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด แต่พวกเราอยู่ข้างประชาชน หากทหารใช้ความรุนแรงกับประชาชน กลุ่มมวลชนสหภาพฯจะออกมาเคลื่อนไหว และหากไม่มีถอนทหารออกมา เราจะตัดไฟกระทรวงกลาโหม ทหารต้องเป็นรั้วของชาติไม่ใช่เข้าข้างพันธมิตร" นายเพียรกล่าว


 



เสื้อแดงพัทยาป่วนรมว.กห.อาเซียน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนเขาทัพพระยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีกลุ่มเสื้อแดงกว่า 200 คน เดินขบวนไปที่โรงแรม รอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา สถานที่จัดประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน โดยผ่านด่านสกัดของตำรวจไปได้ทั้ง 3 จุด จนถึงด่านสุดท้ายก่อนเข้าสู่โรงแรม ทางกลุ่มเสื้อแดงต่อรองว่า ขอเดินเข้าไปแค่หน้าโรงแรมเพื่อประกาศเจตนารมณ์และให้ช่างภาพสื่อมวลชนทำข่าวเท่านั้น จะสลายการชุมนุมทันที เจ้าหน้าที่จึงอนุญาต



ทั้งนี้ แกนนำผู้ชุมนุมได้ประกาศข้อเรียกร้องขับไล่รัฐบาล พร้อมให้ถอนกำลังทหารออกจากทำเนียบ เพราะทหารไม่ควรยุ่งเกี่ยวเรื่องการเมือง นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่ากากระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลาออก ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมใช้เวลาเพียง 5 นาที ก่อนสลายตัว


 



"กษิต"บอกไม่รู้เหตุม็อบให้ออก


นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงเรียกร้องให้ลาออกว่า ไม่ทราบว่าเรียกร้องให้ลาออกด้วยเหตุผลอะไร 2 เดือนที่ผ่านมา ก็ทำงานกันเต็มที่ ถ้าจะไม่ชอบหน้ากันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง



"คิดว่าประชาชน 65 ล้านคน ตระหนักดีว่ารัฐบาลนี้ทำอะไรบ้าง และกำลังจะทำอะไรต่อไป แน่นอนว่าอาจมีคนไม่กี่พันคนประท้วงซึ่งก็ทำได้ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย จะประท้วงทุกวันก็ได้ ถ้ามีเนื้อหาสาระก็รับฟัง แต่ถ้าเป็นเรื่องไร้สาระก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คิดว่าประชาชนทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร รัฐบาลนี้จะทำงานต่อไป การหลีกเลี่ยงหรือหนีไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้" นายกษิตกล่าว


 



เสื้อแดงยกระดับสู้เป็นไล่รัฐบาล


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ว่า ข้อเรียกร้องทั้ง 4 ข้อ ไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตัวของคนเสื้อแดง แต่ต้องการให้บ้านเมืองมีหลักนิติรัฐ เมื่อเป็นอย่างนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงจึงต้องยกระดับการชุมนุม จากยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลเป็นดำเนินมาตรการเพื่อขับไล่รัฐบาลชุดนี้อย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมาตามระบอบประชาธิปไตย



นายณัฐวุฒิกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มเสื้อแดงยืนยันว่า จะไม่บุกเข้าไปที่ทำเนียบ หรือไปชุมนุมที่ จ.เพชรบุรี ช่วงการประชุมอาเซียนซัมมิท ทำเนียบเสียหายมาแล้วจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร และการประชุมอาเซียนที่ต้องเลื่อนก็เป็นเพราะการชุมนุมของพันธมิตร แต่คนเสื้อแดงจะไม่ทำเช่นนั้น


 



ม็อบบุกป.ป.ช.-กก.ย้ายที่ประชุม


ส่วนบรรยากาศการชุมชุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่ายว่า มีผู้ชุมนุมบางตา เนื่องจากอากาศร้อนมาก โดยเวลา 15.30 น. แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอาทิ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายวิภูแถลง พัฒนาภูมิไทย และนายชินวัฒน์ หาบุญพาด สลับหน้ากันบนเวทีปราศรัยโจมตีที่มาและการทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จากนั้นยุติการปราศรัยชั่วคราว พร้อมพาผู้ชุมนุมประมาณ 1 พันคนเดินไปที่หน้าสำนักงาน ป.ป.ช.ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทำเนียบด้านถนนพิษณุโลก เพื่อยื่นหนังสือให้กรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน ยุติการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมนำเทปสีแดงไปติดเป็นรูปกากบาทที่ป้ายสำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อสื่อว่าเป็นองค์กรที่โมฆะด้วย อย่างไรก็ตาม กรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งมีประชุมชุดใหญ่ในวันเดียวกันไหวตัวทันได้ย้ายสถานที่ไปประชุมที่อาคารธนภูมิแทน ตั้งแต่เวลา 12.00 น.



วันเดียวกัน นายวรัญชัย โชคชนะ และแกนนำกลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 ราว 30 คน เดินทางไปที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนำพวงหรีดและป้ายข้อความโจมตี กกต.ไปวางไว้ที่หน้าสำนักงาน กกต.ก่อนจุดไฟเผารวมทั้งปาไข่ใส่หุ่นนายอภิสิทธิ์ด้วย



ก่อนหน้านั้น นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.เดินทางไปยื่นหนังสือขออภัยในความไม่สะดวกจากการชุมนุมของ นปช. ต่อหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตพาณิชยการ โรงเรียนราชวินิตมัธยม โรงเรียนวัดเบญจมบพิตรฯ เป็นต้น





 


 


ที่มา: เว็บไซต์มติชนและเว็บไซต์แนวหน้า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net