เครือข่ายสมัชชาคนจนจัดงานวันหยุดเขื่อนโลก

 

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ศาลาภูมิปัญญาไทบ้าน ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เครือข่ายสมัชชาคนจน (สคจ.) ได้จัดงานวันหยุดเขื่อนโลกขึ้น เพื่อประกาศเจตนารมณ์ในการหยุดให้มีการสร้างเขื่อนและเรียกร้องให้มีการรับผิดชอบคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน

 

ในช่วงเช้าของงานเป็นการเปิดเวทีเสวนา เรื่อง เขื่อนปากมูลหายนะแห่งลุ่มน้ำมูล โดยได้เชิญตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนต่างๆ อาทิ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนปากมูล เขื่อนสิรินธร เขื่อนห้วยละห้า เขื่อนบ้านกลุ่ม ฯลฯ มาเล่าถึงผลกระทบที่ได้รับ และปัญหาที่ชาวบ้านกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน

 

เวลา 14.00 . เครือข่ายสมัชชาคนจนได้เดินทางไปยังเขื่อนปากมูล เพื่อประกาศกล่าวคำประกาศวันหยุดเขื่อนโลก และประกาศข้อเรียกร้องจำนวน 7 ข้อ แต่ไม่สามารถเข้าไปด้านในเขื่อนได้ จึงย้ายไปกล่าวคำประกาศเขื่อนโลกที่บันไดปลาโจน บริเวณด้านข้างเขื่อนปากมูลแทน โดยใจความคำประกาศวันหยุดเขื่อนโลก คือ การให้หยุดสร้างเขื่อนไม่ว่าจะเป็นเขื่อนที่ยังไม่ได้สร้าง หรือเขื่อนที่ได้ยุติการสร้างไปแล้ว และสิ่งสำคัญสูงสุดก็คือ การปกป้องแม่น้ำ แผ่นดิน และผืนป่า ที่เปรียบเสมือนมรดกของบรรพบุรุษที่สืบทอดมายังพวกเรา และต้องสืบทอดต่อไปยังลูกหลานของเราในอนาคต ไม่ให้ถูกทำลายจากการสร้างเขื่อน และการต่อสู้เพื่อยืนหยัดสิทธิความเป็นมนุษย์และวิถีชีวิตของประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนควบคู่กันกับการต่อสู้เพื่อให้เกิดประชาธิปไตยที่แท้จริง

 

จากนั้นตัวแทนสมัชชาคนจนได้กล่าวข้อเรียกร้องจำนวน 7 ข้อ ได้แก่

 

1) ยุติการสร้างเขื่อนที่อยู่ในแผนของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนแก่งเสือเต้น เขื่อนโป่งขุนเพชร เขื่อนรับร่อ เขื่อนท่าแซะ เขื่อนคลองกลาย เขื่อนแม่ขาน และเขื่อนลำโดมใหญ่ รวมทั้งเขื่อนที่ไม่อยู่ในข้อเรียกร้องของสมัชชาคนจน เช่น เขื่อนในลุ่มน้ำโขง ทุกเขื่อน เขื่อนในลุ่มน้ำสาละวิน เขื่อนแม่วงก์ เขื่อนห้วยสะโหมง เขื่อนในลุ่มน้ำปราจีนบุรี

 

2) รัฐบาลต้องรับผิดชอบและจ่ายค่าชดเชยและค่าเสียโอกาสกับเขื่อนที่กำลังก่อสร้าง และที่สร้างไปแล้วอย่างเป็นธรรมที่สุด

 

3) ต้องเปิดเขื่อนปากมูนอย่างถาวร เพื่อให้ระบบนิเวศกับมาเหมือนเดิม เพื่อให้ระบบนิเวศของแม่น้ำมูนกลับมาเหมือนดั่งเดิม และยุติการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อน ซึ่งได้เพียงน้อยนิด โดยการเอาไฟฟ้าจากแหล่งอื่น ที่มีกำลังสำรองอยู่มากกว่า 50 เปอร์เซนต์มาใช้แทน

 

4) มีการดำเนินการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่เสียหายจากเขื่อนที่สร้างไปแล้ว แม้ว่าการดำเนินการนี้จะนำไปสู่การทุบเขื่อนทิ้งก็ตาม

 

5) สิทธิในแผ่นดินของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อน ได้รับการคุ้มครองด้วยการจัดให้มีแผ่นดิน ที่ซึ่งพวกเขาสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจและวัฒนธรรมให้เหมือนเดิมได้  

 

6) ให้ยุติการสร้างเขื่อนที่มีผลกระทบต่อชุมชน และแหล่งป่าไม้ธรรมชาติ เช่น ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ รวมทั้งแหล่งมรดกโลกและพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญ และ

 

7) ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและประเทศเพื่อนบ้านยกเลิกการสร้างเขื่อนในแม่น้ำสายหลักระหว่างประเทศ เช่น แม่น้ำโขง และแม่น้ำสาละวิน รวมถึงโครงการผันน้ำข้ามประเทศด้วย โดยเด็ดขาด

 

โดยในงานวันนี้ทางเครือข่ายสมัชชาคนจนเชื่อมั่นว่า พลังของเราจะหยุดเขื่อนที่มีแต่นำหายนะมาสู่เรา พี่น้องของเรา และสังคมของเราได้มากขึ้น ในอดีตเราสามารถหยุดเขื่อนน้ำโจน เขื่อนแก่งกรุง เขื่อนสายบุรี และเขื่อนเหวนรก เขื่อนคลองกลาย และเขื่อนรับร่อ ได้แล้ว และในวันหยุดเขื่อนโลก  วันนี้ เราขอประกาศว่าจะหยุดเขื่อนต่อไปให้ได้มากขึ้น-เพื่อปกป้องแม่น้ำและชีวิต ขอคารวะดวงวิญญาณของคุณวนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ และคุณนันทโชติ ชัยรัตน์ รวมทั้งพ่อแม่พี่น้องที่ได้ลาลับโลกนี้ไปจากการต่อสู้เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมจากการสร้างเขื่อน จากนั้นผู้ร่วมงานได้ร้องเพลงสมัชชาคนจน และแยกย้ายกลับภูมิลำเนา

 

ข่าวเกี่ยวข้อง:
14 มี.ค.วันหยุดเขื่อนโลก สมัชชาคนจน ประกาศเจตนารมณ์หยุดการสร้างเขื่อน

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท