ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 22 มีนาคม 2552

 





การเมือง สังคม

 

โฆษก "เพื่อไทย"ระบุไม่มีลงโทษ-ขับ ส.ส.งูเห่า พ้นพรรค ให้สังคมตัดสิน
เว็บไซต์แนวหน้า - นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับกลุ่มส.ส.พรรคเพื่อไทยที่งดออกเสียงให้กับรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยในการลงมติไม่ไว้วางใจนั้น ทางพรรคคงไม่มีการลงโทษอะไร ไม่มีการขับออกจากพรรค เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. แต่มาตรการที่พรรคจะใช้นั้น ก็เป็นลักษณะเดียวกับกรณี ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี ที่ตัวอยู่พรรคเพื่อไทย แต่ใจอยู่พรรคภูมิใจไทย คือเราจะให้สังคมประชาชนเป็นคนตัดสินกับส.ส.คนนั้นๆในการเลือกตั้ง ว่าประชาชนจะรับได้หรือไม่กับส.ส.ที่มีพฤติกรรมโหวตสวนมติพรรค ซึ่งพรรคจะชี้ประเด็นนี้ให้สังคมเห็น

เพื่อนสนิทยัน"ประวิตร"ไม่เคยคิดเป็นนายกฯ
เว็บไซต์คมชัดลึก - 21 มี.ค. พล.อ.นพดล อินทปัญญา เลขานุการรมว.กลาโหม และเพื่อนสนิทพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร จะไปเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่า ยืนยันว่า พล.อ.ประวิตรไม่เคยมีแนวคิดที่จะเล่นการเมือง ตั้งพรรคการเมือง หรือเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใด หรือแม้แต่สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ซึ่งการที่พล.อ.ประวิตร มาเป็นรมว.กลาโหมเพื่อช่วยดูแลกองทัพและแก้ปัญหาของชาติบ้านเมือง เมื่อถามว่า เพราะเหตุใดจึงมีคนมองว่า พล.อ.ประวิตร จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป พล.อ.นพดล กล่าวว่า มีคนคิดอย่างนี้มานานแล้วว่าท่านถูกวางตัวไว้ แต่ในใจของพล.อ.ประวิตร ไม่เคยมีเรื่องพวกนี้ ไม่เคยคิดอยากเป็นอะไร และไม่เคยคิดที่จะเล่นการเมือง ไม่มีความสนใจที่จะเล่นการเมืองด้วยซ้ำ ขอยืนยันแน่นอน และที่ผ่านมามีชื่อพล.อ.ประวิตร จะเป็นรมว.กลาโหมมาหลายครั้งแต่พล.อ. ประวิตร ไม่สนใจ

"ถาวร" ไม่หวั่นเสื้อแดงชุมนุมขอเพียงทำตาม กม. ระบุกองทัพไม่มีวาระซ่อนเร้นของงบเพิ่มเรื่องแผนตากสิน
เว็บไซต์แนวหน้า - ที่รัฐสภา นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ระบุว่าคนเสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่ยืดเยื้อและจะเคลื่อนไหวในลักษณะดาวกระจายโดยไม่สนใจการจำกัดพื้นที่ให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ไม่เป็นไร แต่รัฐบาลต้องดูแลให้เกิดความเรียบร้อยและไม่ให้มีความรุนแรง ส่วนเหตุการณ์จะบานปลายหรือไม่ต้องประเมินดูเป็นพื้นที่ไป แต่อยากให้ทำตามกฎหมาย

"ไม่ใช่ว่าต้องการล้มรัฐบาลแต่ไม่คำนึงถึงการแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ต้องการเพียงแต่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯกลับมามีอำนาจอีกครั้ง และไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับโทษจากการกระทำของตัวเองเท่านั้น ซึ่งถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาระบอบทักษิณก็จะกลับมาด้วย อย่างไรก็ตามหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก็ยืนยันที่จะลงพื้นที่พบปะประชาชนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีต่อไป"นายถาวรกล่าว

ส่วนกรณีที่นายจตุพร ระบุว่าฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องแผนตากสิน เพราะต้องการของบประมาณเพิ่มนั้น นายถาวร กล่าวว่า ตามปกติกองทัพก็ต้องดูและในเรื่องของความมั่นคงอยู่แล้วและสามารถที่จะเบิกจ่ายงบประมาณใช้จ่ายตามปกติได้อยู่แล้ว ตนจึงไม่เชื่อว่าทางกองทัพจะของบประมาณเพิ่มหรือมีวาระซ่อนเร้น และอยากถามกลับว่านายจตุพรต้องการให้บ้านเมืองล่มสลายหรืออย่างไร จึงไม่ต้องการให้เกิดความสงบในบ้านเมือง และส่วนตัวก็เห็นว่าแผนตากสินที่มีการพูดถึงเป็นการง่ายต่อการเรียกขานเพื่อใช้ในการทำงานเท่านั้น

โหร "วารินทร์" เชื่อ "มาร์ค" ทำงานถึงต้นปีหน้า
เว็บไซต์คมชัดลึก - 21 มี.ค. นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดังของ จ.เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงสถานการณ์ทางการเมืองว่า เท่าที่ดูในนิมิตน่าห่วงตอนปลายเดือนมี.ค.นี้ว่า อาจมีเรื่องราวอะไร โดยเฉพาะวันที่ 27-28 มี.ค. เหมือนจะมีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดจากความไม่เข้าใจของคนแต่จะถึงขั้นนองเลือดหรือไม่นั้นต้องรอดู แต่คงไม่ใหญ่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา แต่ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ เชื่อว่านายอภิสิทธ์จะประคับประคองรัฐบาลไปได้จนถึงต้นปีหน้าเพราะนายอภิสิทธิ์ขึ้นมาเป็นนายกฯเพราะ ฐานบุญของตัวเอง ไม่ได้พึ่งฐานบุญคนอื่น ในนิมิตของตนยังเห็นว่า นายอภิสิทธิ์ยังเป็นนายกฯต่อไปก่อน

"รัฐบาลจะอยู่อีกชั่วระยะหนึ่ง แต่คงไม่ครบเทอม เมื่อถึงเวลาที่ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอาจมีการคืนอำนาจให้กับประชาชน ทั้งนี้ในช่วงระยะหลังรู้สึกว่ามีปัญหาหลายอย่างที่กระทบกระทั่งด้านความมั่นคงต่างๆ เหมือนกับว่า ถูกจาบจ้วงสถาบัน และมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งเป็นสี ความจริงเราน่ายึดถือในสามสีที่หมายถึงธงไตรรงค์อันเป็นหนึ่งเดียวของโลก เราควรยึดถือตรงนี้รวมจิตใจเพื่อประคองชาติบ้านเมือง โดยที่ไม่แบ่งฝ่าย ซึ่งจะเป็นทางออกของชาติบ้านเมืองเราในขณะนี้ โดยเฉพาะกลุ่มพลังเงียบที่ไม่เข้าข้างฝ่ายใด อยากให้ออกมาแสดงจุดยืน และยืนหยัดในความถูกต้องและความชอบธรรม ไม่ละเมิดเบียดเบียนผู้อื่น"โหรชื่อดัง กล่าว

"เอกพจน์"แย้ม ส.ส.ชทพ.ไม่พอใจโหวตไว้วางใจ "กษิต"แนะนายกฯปรับออก เพื่อลดความขัดแย้งเว็บไซต์แนวหน้า - นายเอกพจน์ ปานแย้ม อดีตรองโฆษกพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีที่ได้รับคะแนนโหวตน้อยที่สุดว่า ตนอยากให้สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลแสดงท่าทีที่ชัดเจนในการแสดงออกถึงความไม่ต้องการให้นายกษิตเป็นรมว.ต่างประเทศต่อไป ควรเสนอแนะทั้งเหตุและผลความเหมาะสมต่างๆให้พรรคแกนนำรัฐบาลหรือนายกฯได้รับทราบถึงท่าทีของสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลต่าง ๆที่แม้ว่าจะรู้สึกขัดใจตัวเอง แต่ก็ต้องยกมือไว้วางใจตามมติพรรคร่วมรัฐบาล ความเป็นนายกษิตไม่สามารถลบล้างได้ว่าเขาไม่มีความเหมาะสม ที่จะดำรงตำแหน่งแล้ว พรรครัฐบาลควรมีคนที่เหมาะสมและภาพลักษณ์ดีกว่านี้ เพื่อให้มาเป็นรมว.ต่างประเทศไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นนายกษิต จะเป็นใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่นายกษิต ซึ่งการออกมาเรียกร้องให้สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลแสดงท่าทีออกมานั้น ตนไม่ได้หมายความว่าจะให้มีปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล แต่อย่างน้อยควรได้นำเสนอข้อเสนอแนะออกไปบ้าง ไม่ใช่แค่ก้มหน้าก้มตาลงมติ แต่ต้องขัดใจตัวเอง

"เท่าที่ผมได้รับทราบสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลหลายคนหลายพรรค จำต้องฝืนใจแม้แต่สมาชิกในพรรคชาติไทยพัฒนาเองหลายคนก็ไม่เห็นด้วย แต่ต้องฝืนความรู้สึก ซึ่งผมก็เชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อย และถ้าเป็นผมก็จะบอกให้ชัดเจนโดยจะทำการรวบรวมรายชื่อเพื่อนส.ส.และนำไปแจ้งให้พรรคแกนนำรัฐบาลหรือนายกฯได้รับรู้ หากยังดื้อดึงต่อไป สังคมจะยังความขัดแย้งขอเถอะขอให้ทุกคนทำเพื่อสังคมไทย และความสมานาฉันท์ของคนในชาติ ไม่เช่นนั้นความขัดแย้งภายในสังคมยังจะมีแต่ความแตกแยกของคนกลุ่มนั้น กลุ่มนี้ อยู่ตลอดเวลา"นายเอกพจน์ กล่าว

ก.ก.ชุมชนท้อขอเงินเดือนผู้ว่าฯกทม. โอดทำงานหนักแถมควักเนื้อ
เว็บไซต์สยามรัฐ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค.52  เวลา 14.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ได้เป็นประธานเปิดการเสวนา "การพัฒนาชุมชนกรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน" จัดโดยสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน FM.99.5 MHz  โดยมีตัวแทนชุมชนจาก 50 เขต กว่า 500 คนร่วมการเสวนา    อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกทม. (ไทย-ญี่ปุ่น)

 นายปานชัย แก้วอัมพรดี ประธานชุมชนระดับเขตคลองเตย (ตัวแทนเครือข่ายแกนนำชุมชน) เสนอว่า การจะทำให้ชุมชนกทม.เข้มแข็งได้ คณะกรรมการชุมชนมีความสำคัญ แต่ที่เห็นคือ คณะกรรมการชุมชนและผู้นำชุมชนขาดการเหลียวแลจากภาครัฐ  กทม.ให้ความดูแลน้อยเกินไป   ซึ่งมีภาพสะท้อน บางชุมชน ถ้าผู้นำไม่ทำงาน ก็จะทำให้การพัฒนาได้ช้า

ทั้งนี้ ตัวแทนชุมชนส่วนใหญ่ต่างให้ความเห็นถึงเรื่องเงินช่วยเหลือกิจกรรมของกทม. ที่ให้คณะกรรมการชุมชน 5,000 บาท เป็นจำนวนที่น้อยเกินไป อยากให้ปรับเพิ่มมากกว่านี้ เพราะเป็นอุปสรรคทำให้แต่ละชุมชนพัฒนาอย่างยั่งยืนไม่ได้ ทำได้แต่โครงการเฉพาะหน้าสั้นๆ  รวมทั้งอยากให้พิจารณาให้เงินเดือนให้คณะกรรมการชุมชน เนื่องด้วยเป็นผู้ที่อุทิศตนทำงานให้กทม. ขณะที่ลำพังเงิน 5,000 บาท ใช้ในกิจกรรมชุมชนก็แทบไม่พอ การประชุมได้เบี้ยร้อยกว่าบาท ทำให้ผู้นำชุมชนเกิดความท้อแท้ ทำงานได้ไม่เต็มที่

เรื่องนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์  บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ได้กล่าวย้ำว่า การที่ชุมชนจะเข้มแข็งยั่งยืนได้ ประธานชุมชนต้องเป็นกำลังหลักประสานทำงานร่วมกับภาครัฐ กทม.  ซึ่งต้องฝากผู้นำชุมชนช่วยดูแลสอดส่อง  ส่วนเรื่องเงินเดือนนั้นได้คำนวณแล้ว  หากจะต้องจ่ายเงินเดือนให้เท่ากับกำนัน 2,500 บาท  สำหรับประธานชุมชน อีกทั้งกรรมการชุมชน เท่ากับในงบประมาณแต่ละปีจะต้องจัดสรรเงินปีละกว่า 300 ล้านบาท รวมทั้งยังมีงบฯในส่วนเงิน 5,000 บาทอีกที่ให้อยู่แล้ว ทำให้ไม่สามารถทำได้ เพราะต้องใช้งบประมาณมาก  แต่สิ่งที่ทำได้เลยคือ เรื่อง สวัสดิการรักษาพยาบาล โดยจะออกบัตรรักษาฟรีให้กับประธานชุมชนและกรรมการชุมชนที่ยังอยู่ในตำแหน่ง สามารถเข้าใช้บริการรักษาฟรีได้ทั้ง 9 โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม แม้ที่ประชุมจะมีความพอใจ แต่ก็อยากให้ผู้บริหารกทม.พิจารณาเรื่องค่าตอบแทน โดยอยากให้ผู้บริหารเจียดเงินมาบางส่วนจะได้หรือไม่

คุณหญิงกษมา เชื่อสอบเข้า ม1.ไร้ปัญหาไม่มีที่เรียน
เว็บไซต์เดลินิวส์
- 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เดินทางพร้อมคณะ ตรวจการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2552 ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ท่ามกลางบรรยากาศที่มีเหล่าผู้ปกครองมาคอยเป็นกำลังใจบุตรหลานที่เข้าสอบ และบางรายยังนำดอกไม้มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงเรียน

ขณะที่คุณหญิงกษมา เปิดเผยว่า ภาพรวมของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนชายที่มีการแข่งขันสูงที่สุดโรงเรียนหนึ่งของประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยการสอบของเด็กที่อยู่ในพื้นที่มีอัตราการแข่งขันประมาณ 1 ต่อ 1.15 และนอกพื้นที่ อัตราการแข่งขัน 1 ต่อ 12 โดย

ส่วนข้อสอบเป็นข้อสอบในเนื้อหาสาระที่เด็กได้เรียนมา คือ วิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสังคมศึกษา และจะมีการประกาศผลในวันที่ 24 มีนาคมนี้ โดยคุณหญิงกษมา ระบุว่า การประกาศผลเพื่อความโปร่งใส โรงเรียนจะแสดงให้เห็นว่าเด็กที่ได้รับการคัดเลือกจะมีคะแนนไล่ลำดับกันมาอย่างไร ขณะเดียวกันทางสำนักงานการศึกษาเขตพื้นที่ ก็ได้ประกาศจุดประสานงาน 11 จุด เพื่อให้ผู้ปกครองได้ทราบล่วงหน้า และสามารถดูได้ในวันนี้เลย ถ้าเด็กไม่สามารถเข้าได้ก็จะมีที่รองรับ ซึ่งปีนี้ในภาพรวมยังมีที่เหลืออีกมาก โดยเฉพาะใน กทม.1 ไม่น่ามีปัญหา มีโรงเรียนที่มีคุณภาพดีพร้อมจะรองรับเด็ก ๆ อีกหลายแห่ง

ส.ท.ทหารบกเตรียมเข้ามอบตัวคดี 2 ศพตลาดคลองเตย
เว็บไซต์สยามรัฐ
- พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาศร รอง ผบก.น.5 เผยว่า นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่กำลังติดต่อเจรจา เพื่อขอให้ ส.ท.อินทร แสนภิบาล หัวหน้า รปภ.บริษัท ลิเกิ้ลฯ มอบตัวอยู่ ส่วนด้านการรักษาความปลอดภัยตลาดครองเตยนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังดำเนินการวางกำลังเหมือนเดิม

โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ค้นพบถุงพลาสติกใส่หนังสติ๊กและลูกแก้วจำนวนมากซุกไว้ที่แผงขายของในตลาดก่อนทำการยึดมา เนื่องจากเกรงว่าจะนำมาใช้ยิงทำร้ายกัน  ส่วนการตั้งศพประกอบพิธีสวดศพนาย สุขสันต์ ศรีหาเลิศ และนายก นก สุขแก้ว การ์ดตลาดคลองเตยที่เสียชีวิต นั้นกลุ่มแม่ค้าพ่อค้าจะตั้ง ศพไว้ 7 วัน จากวันที่รับศพมา หลังจากนั้นทราบว่าจะนำศพทั้งคู่ไปเผาที่วัดคลองเตยใน





เศรษฐกิจ

 

สุวรรณภูมิเพิ่มรถเข็น รับบินไทยในประเทศ
เว็บไซต์เดลินิวส์
- 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) จัดรถเข็นกระเป๋าสัมภาระมาให้บริการแก่ผู้โดยสารเพิ่มเติมอีก 1,500 คัน แบ่งเป็นรถเข็นกระเป๋าขนาดกลาง 1,300 คัน ให้บริการผู้โดยสารขาออกที่ชั้น 4 และรถเข็นกระเป๋าสัมภาระขนาดเล็ก 200 คัน ให้บริการในพื้นที่ผู้โดยสารภายในประเทศที่ชั้น 2 โดยได้เพิ่มจำนวนไปตั้งแต่เมื่อวานนี้(20 มี.ค.) เพื่อเตรียมพร้อมรองรับเที่ยวบินที่จะย้ายมาจากท่าอากาศยานดอนเมือง

นอกจากนี้ นายเสรีรัตน์ ยังระบุว่า ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ ทสภ.จะนำรถเข็นกระเป๋าสัมภาระอีก 1,300 คัน มาให้บริการเพิ่มเติมอีก โดยแบ่งเป็นรถเข็นกระเป๋าขนาดกลาง 1,000 คัน และรถเข็นกระเป๋าขนาดเล็ก 300 คัน สำหรับจำนวนรถเข็นที่เพิ่มเติมดังกล่าว รวมทั้งสิ้น 2,800 คัน ซึ่งทสภ.นำมาจากสนามบินดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่ โดยเป็นผู้บริหารจัดการทั้งการจ้างพนักงานดูแลให้บริการ และการจัดเก็บ

ยธ.ตั้งดีเอสไอ-ปปง.-ปปท.ตรวจสอบ กบข.
เว็บไซต์คมชัดลึก - 21มี.ค. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 23 มี.ค. จะเสนอนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานเข้าตรวจสอบการลงทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) โดยจะเป็นการสนธิกำลังของป.ป.ท. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อใช้อำนาจตามกฎหมาย 3 ฉบับ ของป.ป.ท. ดีเอสไอ และป.ป.ง. เข้าตรวจสอบกระแสการเงินและวิเคราะห์ว่าผลประโยชน์ทับซ้อนหรือการเอื้อประโยชน์กับกลุ่มบุคคลใดหรือไม่ นอกจากนี้จะมีการทาบทามบุคคลภายนอกจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) สำนักงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วิทยาลัยตลาดทุน กระทรวงการคลัง สำนักงานอัยการสูงสุด และนักวิชาการอิสระ ให้ร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจสอบกบข.ด้วย

นายธาริต กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่คณะกรรมการกบข.มีมติให้ผู้แทนป.ป.ท.เข้าร่วมการตรวจสอบการลงทุนของกบข.นั้น ตนยินดีให้ความร่วมมือในการส่งผู้แทนเข้าร่วมกับคณะกรรมการชุดดังกล่าว แม้จะเป็นการตรวจสอบภายในกันเอง แต่การตรวจสอบจากภายนอกจากหน่วยบังคับกฎหมายยังต้องทำต่อไป โดยในส่วนของกระทรวงยุติธรรมจะเสนอให้ตั้งศูนย์ประสานงานการตรวจสอบ เพื่อเปิดให้สมาชิกกบข.จำนวน 1.17 ล้านคน เข้าร้องเรียนและให้ข้อมูล เนื่องจากสมาชิก กบข.อยู่ในภาวะขาดหน่วยงานเข้ามาดูแล ทั้งที่เป็นข้าราชการที่ได้รับความเดือดร้อน

แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า การเสนอให้รมว.ยุติธรรมลงนามแต่งตั้ง ป.ป.ท. ดีเอสไอ และป.ป.ง. เข้าร่วมการตรวจสอบการลงทุนของ กบข. เป็นการแก้เกมกลับของป.ป.ท. ภายหลัง กบข.พยายามให้มีการตรวจสอบภายใน และตั้งข้อสังเกตถึงอำนาจสอบสวนของป.ป.ท. โดยจะเสนอให้กฤษฎีกาตีความซึ่งร่วมเป็นบอร์ดกบข.ตีความประเด็นอำนาจสอบสวน

พาณิชย์นำบุกยุโรปแก้อุปสรรคการค้า
เว็บไซต์เดลินิวส์ - นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษก กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าฮับยุโรป เปิดเผยว่า ต้นเดือน พ.ค. นี้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว. พาณิชย์มีกำหนดเดินทางเยือนสหภาพยุโรป คือ เบลเยียม อิตาลี และสหราชอาณาจักร เพื่อนำนักธุรกิจที่เป็นสมาชิกสภาธุรกิจไทย-ยุโรปไปหารือกับผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อทำความรู้จักและให้นักธุรกิจไทยได้รับการยอมรับหากต้องเข้าไปติดต่อกับหน่วยราชการของสหภาพยุโรป เรื่องการแก้ปัญหาอุปสรรคทางการค้า เพราะหาก รอให้ภาครัฐดำเนินการอย่างเดียว อาจไม่ทันการณ์ เนื่องจากภาครัฐมีระเบียบปฏิบัติมาก เช่น การดำเนินการมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญปี 2550

ทั้งนี้ สภานักธุรกิจไทย-ยุโรปได้กำหนดระเบียบให้เรียกเก็บเงินจากสมาชิกเพื่อใช้ใน   กิจกรรมของสภา และกระทรวงพาณิชย์กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะหาเงินสนับสนุนจากรัฐไปสมทบเพื่อให้การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ มีความสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้จะจัดตั้งไทยแลนด์ พาร์ทเนอร์ชิพเพิ่มจากเดิมที่มีอยู่แล้วในหลายประเทศของยุโรป เช่น เบลเยียม อิตาลี ฝรั่งเศส ซึ่งไทยแลนด์พาร์ทเนอร์ชิพ คือ คนไทยที่พำนักอยู่ในประเทศต่าง ๆ ของยุโรปที่ได้รับการอบรมให้เป็นนักล็อบบี้ยิสต์แต่การทำงานจะได้รับผลตอบ แทนการดำเนินงานจากภาคเอกชนเป็นรายกรณี

"รัฐมนตรีพาณิชย์ที่จะเดินทางไปยุโรป เป็นเหมือนหัวหอกที่จะนำนักธุรกิจไทยไปให้ผู้บริหารที่ประเทศนั้นรู้จักและต้อนรับ ซึ่งหลังจาก นี้ เอกชนต้องมีบทบาทมากขึ้นในการปกป้องตัวเองจากอุปสรรคทางการค้าต่าง ๆ เพื่อให้ทันเวลาและสามารถแข่งขันได้ เพราะภาครัฐเองแม้จะ   ทำงานเต็มที่แต่ก็ติดเงื่อนไขต่าง ๆ มาก เช่น มาตรา 190"





ต่างประเทศ

 

โออีซีดีคาด ศก.โลกหดตัวเลวสุดรอบ 60 ปี
เว็บไซต์เดลินิวส์
- โออีซีดีคาดเศรษฐกิจโลกหดตัวในปีนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี การเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียและจีนช่วยอะไรไม่ได้ ส่วนสภาผู้แทนฯสหรัฐรับรองกฎหมายรีดภาษีร้อยละ 90 จากเงินโบนัสของผู้บริหารเอไอจี

นายแองเจล กูร์เรีย เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือโออีซีดี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเมื่อวันศุกร์ (20 มี.ค.) ว่า เศรษฐกิจโลกจะหดตัวลงในปีนี้ เพราะแม้ว่าเศรษฐกิจอินเดียและจีนยังคงเติบโตแต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยการเติบโตที่ติดลบในประเทศพัฒนา ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกโดยรวมจะหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี โดยถ้อยแถลงของเขามีขึ้น หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ แถลงว่า ไอเอ็มเอฟเชื่อว่า เศรษฐกิจโลกอาจหดตัวในปีนี้

นายโดมินิค สเตราส์ คาห์น กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ กล่าวในแทนซาเนียเมื่อต้นเดือนนี้ว่า ไอเอ็มเอฟ คาดว่า การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะชะลอตัวลงมาต่ำกว่าศูนย์ในปีนี้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของคนส่วนใหญ่

นายกูร์เรียกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตอยู่ระหว่างประมาณร้อยละ 6-7 ในปีนี้ ซึ่งใกล้เคียงกับการประเมินของธนาคารโลกที่ปรับลดประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ ลงมาเหลือร้อยละ 6.5-7.5

ด้านสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายเก็บภาษีร้อยละ 90 จากเงินโบนัสของผู้บริหารบริษัทเอไอจี รวมทั้งบริษัทอื่น ๆ ที่ขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อพยุงธุรกิจ หลังกระแสข่าวบริษัทเอไอจีแจกโบนัสก้อนโตสร้างความไม่พอใจในหมู่ชาวอเมริกัน โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งมีพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากลงมติอย่างท่วมท้นด้วยคะแนน 328 ต่อ 93 เสียง รับรองร่างกฎหมายเก็บภาษีร้อยละ 90 กับพนักงานบริษัทเอไอจี โดยจะมีผลบังคับใช้กับพนักงานที่ได้รับค่าตอบแทนรายปีเกินกว่า 250,000 ดอลลาร์ (9 ล้านบาท) สำหรับบริษัทที่ขอรับเงินช่วยเหลือพยุงธุรกิจจากภาครัฐมากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า เขาขอแสดงความรับผิดชอบทั้งหมด และเขาไม่ทราบข้อมูลการแจกเงินโบนัสของพนักงานมาก่อน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับชาวอเมริกันที่ทราบข่าวการใช้เงินช่วยเหลือของภาครัฐ ซึ่งมาจากภาษีประชาชนไปแจกโบนัสก้อนโตให้พนักงานเอไอจี และเมินข้อเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท