"เสื้อแดง" เคลื่อนสู่ราชดำเนิน ล่าสุดถึงทำเนียบแล้ว


ผู้ชุมนุม นปช. ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะร่วมการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล เมื่อ 26 มี.ค.

(ที่มา: AP/Daylife.com)

 

ผู้ชุมนุม นปช. ระหว่างเคลื่อนผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย (ที่มา: Reuters/Daylife.com)

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่รวมตัวกันที่สนามหลวงวันนี้ 26 มี.ค. โดยมีกำหนดเคลื่อนขบวนไปตาม ถ.ราชดำเนิน มุ่งสู่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อกดดันรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และจะมีการเชื่อมต่อสัญญาณวิดีโอลิ้งค์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโฟนอินเข้ามาระหว่างการชุมนุมนั้น

 

 

คาดม็อบ 4 หมื่น - ยื้อไม่เกิน 29 มี.ค.

เมื่อ 25 มี.ค. นายพงษ์ศักดิ์ ศิริวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักสถานที่และรักษาความปลอดภัย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะใช้แผนรับมือกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะชุมนุมวันที่ 26 มีนาคมเหมือนครั้งก่อน มีการสนธิกำลังระหว่างทหารและตำรวจประจำการดูแลความปลอดภัยในทำเนียบ จำนวน 27 กองร้อย เริ่มทยอยประจำการตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 25 มีนาคม จะไม่ยอมให้ผู้ชุมนุมบุกเข้ามาภายในทำเนียบเด็ดขาด หากปีนรั้วเข้ามาต้องถูกจับกุมทันที

 

"จากประเมินสถานการณ์ร่วมกับฝ่ายความมั่นคง คาดว่าจะมีผู้ร่วมชุมนุมมากกว่าทุกครั้ง คือประมาณเกือบ 40,000 คน แต่การชุมนุม   ไม่น่าจะยืดเยื้อ ไม่เกินวันที่ 29 มีนาคมน่าจะสลายตัวไป เนื่องจากมีการจัดงานกาชาดในวันที่ 30 มีนาคม ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรง เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงยืนยันว่าจะชุมนุมด้วยความสงบ ไม่บุกเข้ามาภายในทำเนียบ แต่ต้องขึ้นอยู่กับเหตุการณ์เฉพาะหน้าด้วย เช่น การเผชิญหน้า การยั่วยุ หรือการผลักดันกัน ถ้าควบคุมได้ก็ไม่มีปัญหา" นายพงษ์ศักดิ์กล่าว

 

"ถาวร เสนเนียม" ประเมินชุมนุม 2 หมื่นมุ่งยั่วรุนแรง

ขณะที่นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเมื่อ 25 มี.ค. ว่า จะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 20,000 คน แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 15,000 คน ต่างจังหวัด 7,000-8,000 คน จากการประเมิน ผู้ชุมนุมอาจต้องการให้เกิดความรุนแรง แต่ถ้ารัฐบาลไม่เข้าไปติดกับ เชื่อว่าไม่มีปัญหา และเชื่อมั่นว่าหากรัฐบาลทำงานครบ 1 ปี จะสามารถทำความเข้าใจกับมวลชนของกลุ่มคนเสื้อแดงได้ดีขึ้น

 

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.วรพงษ์ได้สั่งให้มีการตั้งจุดพิเศษ เพื่อป้องกันปราบปรามและด่านจราจรที่เข้มข้นขึ้นทั้งชั้นใน ชั้นกลาง ชั้นนอก ทั้งนี้ การข่าวยังไม่พบมือที่สาม ส่วนการตรวจสอบคำพูดการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตำรวจมีศูนย์เฝ้าฟังมีการบันทึกทุกคำพูดว่าเข้าข้อกฎหมายหรือไม่ โดยมี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน และ พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าฝ่ายกฎหมายสอบสวน พิจารณาว่าถ้าเข้าข่ายผิดกฎหมายให้ดำเนินคดี ซึ่งรวมถึงกรณีวิทยุชุมชนพาดพิงถึงบุคคลอื่นด้วย และมอบนโยบายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ตรวจค้นอาวุธในที่ชุมนุม

 

ทัพภาค 1 จัด 21 กองร้อย โฆษกกลาโหมประเมินรุนแรงมีมือที่ 3

พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวเมื่อ 25 มี.ค. ว่า จัดกำลังทหาร 21 กองร้อยดูแลความเรียบร้อย กองทัพจะดูแลสถานที่สำคัญทางราชการ รวมทั้งภายในทำเนียบรัฐบาล ไม่ปะทะม็อบหรือประชาชน จะไม่พกอาวุธ และมีรถดับเพลิง เครื่องฉีดน้ำตามสถานที่ราชการเท่านั้น

 

พ.อ.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "ไฮไลต์ประเด็นร้อน" ทางคลื่นวิทยุ 102.0 เมกะเฮิร์ตซ์ ถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงวันที่ 26 มีนาคมนี้ว่า คาดว่าการชุมนุมคงไม่สงบ และมีความรุนแรง และจะมีการปฏิบัติการจากผู้ไม่หวังดีเป็นมือที่ 3 แฝงอยู่ ตรงนี้ก็เป็นห่วง หากมีเหตุอย่างนั้นประสบการณ์ที่ผ่านมา คนที่บาดเจ็บล้มตาย คือ ประชาชน แกนนำเอาตัวรอดและรับประโยชน์ไป มีเพียงประชาชนที่รับเคราะห์กรรม อยากฝากว่าถ้ามีเหตุการณ์ส่อความรุนแรงให้ถอยออกมา

 

ผบ.ทบ.ให้ "ทักษิณ" นึกถึงชาติ

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวเมื่อ 25 มี.ค. ว่า เชื่อว่าสถานการณ์ไม่รุนแรง ขณะนี้งานด้านการข่าวทหารยังไม่พบว่าจะมีการก่อเหตุวุ่นวายรุนแรงขึ้น ส่วนตัวหวังให้การเมืองนิ่ง ถ้าไม่นิ่งจะเสียโอกาสแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ เห็นว่าความขัดแย้งควรหมดไปจากประเทศ เราไม่ได้บอกว่าฝ่ายไหนดี ฝ่ายไหนไม่ดี แต่มองว่าความขัดแย้งไม่น่าจะเป็นวาระของชาติ แต่ความสามัคคีและเศรษฐกิจควรเป็นวาระสำคัญของประเทศมากกว่า ทุกฝ่ายจะต้องมองเป้าหมายที่สูงกว่า คือชาติที่เป็นสถาบันสูงสุด โดยต้องไม่เอาความขัดแย้งมาพูดกัน ถ้าพูดกันก็จะไม่จบ

เมื่อถามว่า จะฝากถึง พ.ต.ท.ทักษิณในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ให้หยุดโฟนอินหรือไม่ ผบ.ทบ.กล่าวว่า "จะให้ผมพูดอะไร เดี๋ยวพูดไปจะเป็นประเด็น แต่ถ้าท่านนึกถึงชาติให้มากกว่านี้ก็คงจะดี"

 

นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. นำกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 50 คน บุกมาที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนิน เมื่อวันที่ 25 มีนาคม เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กรณีกองทัพส่งกำลังทหารจำนวนมากเกินกว่าเหตุเข้าควบคุมการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 26 มีนาคม

 

ครม.เดินสายงดภารกิจทำเนียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 26 มีนาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ปฏิบัติภารกิจนอกทำเนียบรัฐบาลเกือบหมด เพื่อหลีกเลี่ยงการฝ่าวงล้อมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาปิดล้อมทำเนียบ โดยนายกฯ มีภารกิจข้างนอกตลอดทั้งวัน

 

ขณะที่ผู้บริหารส่วนราชการภายในทำเนียบทั้ง 6 หน่วยงานได้แจ้งให้ข้าราชการมาทำงานตามปกติ ซึ่งจากการสอบถามข้าราชการส่วนใหญ่จะเข้ามาเซ็นชื่อและอยู่ทำงาน แต่จะรอดูสถานการณ์ในการชุมนุมเป็นรายชั่วโมง และบรรดาร้านค้าภายในทำเนียบต่างยืนยันว่าจะมาขายของตามปกติ

 

ทหาร-ตำรวจขนเสบียงพรึบทำเนียบ

วันที่ 25 มี.ค. เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจนครบาล และทหารจากกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กองพลปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ทยอยเข้ามาประจำการรักษาความปลอดภัยในทำเนียบรัฐบาล เตรียมอุปกรณ์ส่วนตัว และเสบียง อาทิ โล่ เปลสนาม เต็นท์ พัดลม อาหารกึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม อย่างพร้อมเพรียง และตั้งกองบัญชาการที่ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตึกสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตึกสันติไมตรี และมีการเตรียมรถขังผู้ต้องหา รถดับเพลิง รถไฟฟ้าส่องสว่างหลายคัน มาจอดรอบบริเวณภายในทำเนียบ

 

ในช่วงเย็นกำลังตำรวจและทหารระดมกำลังเพิ่มมากขึ้น พร้อมขนแนวรั้วลวดหนาม ขณะที่ข้าราชการได้เก็บข้อมูลเอกสารสำคัญใส่แฮนดี้ไดรฟ์ บางคนถอดฮาร์ดดิสก์เครื่องคอมพิวเตอร์ออกมาเก็บไว้ต่างหาก และให้เจ้าหน้าที่นำรถเข้าออกทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 26 มีนาคม ได้ที่เพียงแห่งเดียวคือ ประตูสะพานอรทัยเท่านั้น และอนุญาตให้ข้าราชการหญิงใส่กางเกงเข้ามาทำงานได้ เพื่อความคล่องตัว

 

จรัล-เหวง บุกมหาดไทย ค้าน มท.สั่งผู้ว่าสกัดม็อบ

วันที่ 25 มี.ค. เวลา 11.00 น. ที่บริเวณด้านหน้ากระทรวงมหาดไทย มีกลุ่มคนเสื้อแดง 50 คน นำโดย นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. มาชุมนุมปราศรัยโจมตี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดสกัดกั้นประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ให้มาชุมนุมที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 26 มีนาคม หลัง 1 ชั่วโมง ได้แยกย้ายกันกลับ ซึ่งนายจรัลกล่าวยืนยันว่าจะชุมนุม 3 วัน พ.ต.ท.ทักษิณจะวิดีโอลิงก์ ในวันที่ 27 มีนาคม ช่วงเวลาประมาณ 20.00-21.00 น.

 

เตือนองคมนตรีเลิกละเมิดรัฐธรรมนูญ

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าที่ผ่านมาประชาชนจำนวนมาก ก็ไม่สบายใจกับพฤติกรรมขององคมนตรีบางคนที่ฝักใฝ่การเมือง และทำตัวละเมิดรัฐธรรมนูญมาโดยตลอดหากองคมนตรีต้องการสบายใจก็ควรกลับไปทำหน้าที่เฉพาะเป็นที่ปรึกษาพระมหากษัตริย์ หากยังฝักใฝ่การเมืองก็ควรลาออก

 

นายกรัฐมนตรีมั่นใจรัฐบาลควบคุมสถานการณ์การชุมนุมได้

ส่วนสถานการณ์ล่าสุด วันนี้ (26 มี.ค.) เวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงในวันนี้ ว่า ได้รับรายงานความเคลื่อนไหวเป็นระยะๆ ช่วงนี้เข้าใจว่ากำลังรวมตัวกันอยู่ที่สนามหลวง

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางโฆษกกระทรวงกลาโหมออกมาบอกว่าทางการข่าวของทหารได้รับการยืนยันว่าจะมีการสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดความรุนแรง รัฐบาลจะรับมืออย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้ย้ำกับรองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ซึ่งรองนายกฯ ก็ได้กำชับกับเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาทำงานทุกท่านว่าต้องมีความอดทนอดกลั้นเป็นพิเศษ เพราะจะมีลักษณะของการยั่วยุอยู่ คิดว่าทั้งหมดรัฐบาลพยายามจะดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อย และอยากจะย้ำอีกครั้งว่าต้องการที่จะให้บ้านเมืองเราเดินไปข้างหน้าให้ได้

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันตัดสินใจ เราอย่าเพิ่งไปสมมติ แต่ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นรัฐบาลพร้อมที่จะรับมือและตัดสินใจอย่างเหมาะสม จะไม่ไปทำอะไรรุนแรง แต่จะทำหน้าที่ในการรักษากฎหมายตามวิธีการแนวปฏิบัติที่เป็นที่ยอมรับได้ รัฐบาลดูแลควบคุมสถานการณ์ได้ การชุมนุมใหญ่ลักษณะนี้ในปีนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการชุมนุมครั้งนี้ทางพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯลงมาสั่งการด้วยตัวเองคิดว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่ฟังเสียงคิดว่าขณะนี้มีการระดมการเข้มข้นเป็นพิเศษจึงได้ย้ำเจ้าหน้าที่ให้เตรียมพร้อมและอดทนอดกลั้นเป็นพิเศษด้วย

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะดูแลการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอย่างไรที่จะไม่ให้มีการยั่วยุปลุกระดม นายกรัฐมนตรีกล่าวหลักมีอยู่ว่าทุกคนต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง และรัฐบาลจะต้องรักษากฎหมาย ส่วนที่ถามว่าจะมีการตัดสัญญาณหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวคิดว่าเราอย่าไปพูดอะไรล่วงหน้า เพราะไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร ขณะนี้มั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้โดยไม่ต้องประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรุ่งนี้นายกรัฐมนตรีจะเข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าดูตามกำหนดการ เข้าใจว่ามีไปตอบกระทู้วุฒิสภา วันนี้เดิมไม่มีกำหนดการ แต่บังเอิญว่าประธานสภาฯ นัดประชุมสภาฯ จึงต้องยกเลิกงานที่เมืองทองธานี แล้วได้เข้ามาที่ทำเนียบฯ

 

 

ผู้ชุมนุมทยอยร่วม นปช. ที่สนามหลวง

ส่วนความคืบหน้าของการชุมนุมวันนี้ 26 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายว่า บรรยากาศการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่สนามหลวงตั้งแต่ช่วงเช้าเริ่มคึกคักเมื่อมีประชาชนกลุ่มเสื้อแดงทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมมากขึ้น โดยบางส่วนเดินทางด้วยรถบัสมาจากต่างจังหวัด อาทิ กลุ่มอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กลุ่มไก่ชน จ.สุรินทร์ เป็นต้น โดยรวมตัวอยู่บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ประมาณเกือบ 1,000 คน

 

ต่อมาเวลา 10.00 น.นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่ายืนยันว่าจะเคลื่อนขบวนไปทำเนียบฯ แน่นอน ก่อนเที่ยงวันนี้ โดยขณะนี้กำลังรอประชาชนให้มาชุมนุมมากขึ้น ซึ่งท้องสนามหลวงซึ่งจัดเวทีปราศรัยใหญ่และมีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมเกือบเต็มสนาม ฝั่งสะพานปิ่นเกล้า ต่างกระจายรับประทานอาหารและใช้บริการนวดฝ่าเท้า เพื่อเตรียมพร้อมในการเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาล ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมามีการจัดพิธีทางพราหมณ์บวงสรวง เพื่อให้การชุมนุมที่จะเคลื่อนขบวนไปด้วยความราบรื่น

 

 

สวมเคลื่อนที่ไม่พอ ต้องอาศัยปลดทุกข์ ม.ธรรมศาสตร์

มีรายงานว่า รถสุขาเคลื่อนที่ของ กทม.ที่นำมาจอดอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ชุมนุม เพราะมีเพียง 5-6 คันเท่านั้น โดยจอดกระจายอยู่ที่บริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม ข้างสนามหลวงฝั่งวัดพระแก้ว และพื้นที่กลางสนามหลวง ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนต้องไปอาศัยห้องสุขาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

โดยบนเวทีปราศรัยผู้ดำเนินรายการได้ประกาศแจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบว่า วันนี้ภายหลังกลุ่มเสื้อแดง จังหวัดนนทบุรี ได้เดินทางไปรับเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แล้วตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะนี้ได้นำเงินดังกล่าวมาบริจาคให้กับพวกเรา

 

 

หากสัญญาณพร้อม เวลา 19.00 น. "ทักษิณ" จะโฟนอินหน้าทำเนียบ

ขณะเดียวกัน แกนนำนปช. ทยอยเดินทางมาขึ้นเวทีปราศรัยที่เวทีท้องสนามหลวง โดยนายวีระ มุสิกพงศ์ ให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่มีการบุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลหรือยึดสถานที่ราชการแต่อย่างใด แต่จะปักหลักชุมนุมยืดเยื้ออยู่สะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาลเท่านั้นจนกว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลาออก

 

"คืนนี้เวลา 19.00 น.หากสัญญาณการถ่ายทอดพร้อมก็จะให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินเข้ามาให้พี่น้องฟัง และเมื่อคืนผมทราบข่าวว่าหลายจังหวัดมีการสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้เดินทางเข้ากรุงเทพ โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่น มีการสั่งให้นำรถไปปิดตามซอยเพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมออกมาได้ อย่างไรก็ตามอยากให้ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร จัดรถสุขา มาอำนวยความสะดวกให้พอกับผู้ชุมนุมซึ่งควรปฏิบัติอย่างเป็นธรรม"

 

 

เคลื่อนขบวนสู่ ถ.ราชดำเนิน มุ่งทำเนียบ

ต่อมาเวลา 12.50 น. ผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนออกมาจากท้องสนามหลวงมุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้ว โดยใช้พื้นที่ทั้งสองฟากของ ถ.ราชดำเนิน ทำให้ตลอดถนนราชดำเนินเต็มไปด้วยผู้ชุมนุมที่สวมเสื้อแดง

 

โดยเวลา 13.30 น. ผู้ชุมนุมเดินขบวนมาถึงสะพานผ่านฟ้า และหยุดขบวนเพื่อจัดแถวใหม่ และให้ช่างภาพบันทึกภาพเอาไว้ อย่างไรก็ตามยังมีผู้ชุมนุมอีกกลุ่มหนึ่งได้ไปปักหลักรอบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์แล้ว

 

จากนั้นเวลา 13.38 น. มอเตอร์ไซด์เสื้อแดงกว่า 100 คัน เดินทางมาถึงเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ฝั่งด้านหน้าสหประชาชาติ แล้วปรบมือ บีบแตรเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ขณะที่การจราจรเริ่มติดขัด โดยมีการปิดถนน และมอเตอร์ไซด์บางส่วนได้ขับมาจอดตรงสะพานมัฆวานรังสรรค์และยึดถนนอู่ทองในเป็นผลสำเร็จ ตั้งแต่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ไปจนถึงสี่แยกมิสกวัน

 

เวลาไล่เลี่ยกันเสื้อแดงบางส่วนได้เดินทางล่วงหน้ามาประชิดทำเนียบรัฐบาล ฝั่งสะพานมัฆวานรังสรรค์แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารภายใน และภายนอกทำเนียบรัฐบาลได้ไปตรึงกำลังทุกพื้นที่ โดยเฉพาะที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ผู้บัญชาการสถานการณ์ยืนคุมด้วยตัวตนเอง เพื่อเตรียมรับมือกับกลุ่มเสื้อแดง

 

ขณะเดียวกันได้มีการประกาศให้เจ้าหน้าที่และข้าราชการประจำทำเนียบรัฐบาลทุกอาคาร เดินทางออกจากทำเนียบฯโดยเร็ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำเนียบต่างพารีบเก็บข้าวของและหอบเอกสารสำคัญติดตัวเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยใช้ประตูฝั่งสะพานอรทัยติดกับถนนนางเลิ้ง

 

 

ใช้รถเครนยกตู้คอนเทนเนอร์ออกเป็นผลสำเร็จ

เวลา 13.50 น. ผู้ชุมนุมได้เดินทางมาถึงบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลฝั่งริมคลองบริเวณเชิงสะพานอรทัย ได้ขับรถขังผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถมาจอดตั้งขวางถนนไว้ให้ออกไปพ้นบริเวณ และขณะนี้กำลังนำรถเครนมาเตรียมเพื่อยกตู้คอนเทนเนอร์ที่เจ้าหน้าที่นำมากีดขวางผู้ชุมนุมไว้ออกไป

 

นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ได้สั่งการว่าเมื่อยกตู้คอนเทนเนอร์แล้ว ให้เอาไปทิ้งไว้ในคลอง พร้อมทั้งสั่งให้ผู้ชุมนุม ถอยออกไปจากบริเวณดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ด้านหลังตู้คอนเทนเนอร์ได้ขยับแถวออกไป เพื่อป้องกันอันตรายเช่นกัน

 

 

แหวกแนวสกัดตำรวจ ล้อมทำเนียบ 4 ด้าน

เวลา 14.30 น. ผู้ชุมนุมได้ใช้รถเครนจำนวนสองคันยกตู้คอนเทรนเนอร์ เพื่อเปิดทางให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมให้เข้ามาในบริเวณด้านหลังทำเนียบรัฐบาล ด้านสะพานอรทัย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่สามารถฝ่าแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปได้ เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ได้นั่งเต็มพื้นที่บริเวณเชิงสะพานอรทัย พร้อมทั้งมีโล่ และกระบองประจำกายพร้อมทุกคน

 

ต่อจากนั้นกลุ่มชุมนุมได้เคลื่อนเข้ามาประชิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งขอเจราจาเพื่อขอผ่านทาง แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุม ได้ใช้วิธีเข้ามาจับมือและแจกผ้าเย็น และแอมโมเนียให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในขณะเดียวกันนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มนปช.ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงเป็นระยะๆ เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดทาง พร้อมทั้งได้ขู่ว่าหากเจ้าหน้าที่ไม่ยอมเปิดทางให้กลุ่มผู้ชุมนุมจะบุกเข้าไป ต่อจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงได้มีพยายามแหวกทางเพื่อให้รถกระจายเสียงเคลื่อนไหวของแกนนำได้ให้ผ่านเข้าไป

 

ตำรวจนั่งถกเรื่อง 19 ก.ย. กับผู้ชุมนุม

ในเวลา 15.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า ได้ล้อมทำเนียบทั้ง 4 ด้านแล้ว โดยหลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถฝ่าแนวป้องกั้นของตำรวจที่ตั้งแถวอยู่บริเวณสะพานอรทัยได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด. ที่ปักหลักอยู่บริเวณถนนริมคลองผดุงกรุงเกษมต้องถอยร่นเปิดทางให้กับกลุ่มชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่บางส่วนได้ไปรวมตัวในบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกส่วนหนึ่ง ได้หลบเข้ามาภายในรั้วทำเนียบรัฐบาลโดยตำรวจที่ล้อมอยู่ด้านนอกเริ่มถอนตัวออกจากบริเวณภายนอกทำเนียบรัฐบาล

 

ด้านผู้ชุมนุมที่มาถึงภายนอกทำเนียบส่วนหนึ่งได้หลบเข้าร่มนั่งพักผ่อนอยู่ตามร่มไม้ บ้างก็นั่งคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความสงบ มีการหยอกล้อ และแบ่งน้ำดื่มให้แก่กัน นอกจากนี้ผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายยังล้อมวงสนทนาเรื่องการรัฐประหาร 19 ก.ย. ด้วย

 

 

ขู่บุกสี่เสาเทเวศร์หากใช้แก๊สน้ำตาปราบปราม รถ TNN ถูกบล็อกสัญญาณ

เมื่อเวลาประมาณ 15.10 น.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ได้ประกาศบนรถขยายเสียงยืนยันว่า จะไม่มีการเข้าบุกยึดทำเนียบรัฐบาล แต่หากตำรวจใช้แก๊สน้ำตากับกลุ่มผู้ชุมนุมก็จะเคลื่อนขบวนไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ

 

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เรื่องนายอภิสิทธิ์เป็นจิ๊กซอว์ตัวเล็กๆ เท่านั้น ภาพใหญ่คืออำมาตยาธิปไตย ถ้ายังมีอำมาตยาธิปไตย นายกรัฐมนตรีก็จะเป็นเพียงนายกฯ ในเรือนเบี้ย นายกฯ ในเรือนทาส

 

ขณะเดียวกันมติชนออนไลน์ รายงานว่า ในช่วงบ่ายรถถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ทีเอ็นเอ็น หรือทรู วิชั่น สถานีข่าว 24 ชั่วโมง ออกอากาศทางเคเบิลทีวี รวม 4 คัน ที่จอดอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล แยกสวนมิสกวัน กองทัพบก และสนามหลวง เพื่อรอรายงานข่าวการชุมนุม ถูกบล็อกสัญญาณทั้งหมด ไม่สามารถออกอากาศได้

 

 

ตำรวจประเมินสถานการณ์ ยันจะใช้ความนุ่นนวล

ส่วนที่ห้องประชุม ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 20 อาคาร 1 พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคง ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วย ฝ่ายอำนวยการด้านการข่าว ฝ่ายแผนงาน ฝ่ายกำลังพล ฝ่ายส่งกำลังบำรุง ฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายประชาสัมพันธ์ โดยมี พล.ต.ท.ณรงค์ ศิริสุนทร ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบช.ประจำ สนง.ผบ.ตร.)

 

พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) และ พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและสอบสวน เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์การชุมนุมผ่านระบบการประชุมทางไกล (VDO CONFERRENT) กับ ศูนย์ปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมฝ่ายอำนวยการ ได้รายงานสถานการณ์การชุมนุม ความพร้อม และการเตรียมการในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล

 

และในส่วนที่ร้องขอ และได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่ กำลังพลร่วมปฏิบัติ เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ปรากฏว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชน โดยได้มีการวางมาตรการต่างๆในการรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้ชุมนุม การจัดเตรียมเส้นทางการจราจรมิให้เกิดความเดือดร้อน แก่ประชาชน มีการกำหนดขั้นตอนในการปฏิบัติตามหลักสากลต่อผู้ชุมนุม โดยการปฏิบัติการจะใช้ความอดทนและความนุ่มนวลละมุนละม่อม เพื่อให้การจัดกิจกรรมการเมืองครั้งนี้ เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย

 

 

เรียบเรียงข่าวบางส่วนเพิ่มเติมจาก: คมชัดลึก มติชน สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท