นายสวัสดิ์ เพ็ชรแก้ว แกนนำชาวบ้านตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา นัดพิจารณาคดีบริษัท เซฟสกิน เมดดิคอล แอนด์ ไซเอนทิฟิก(ประเทศไทย) จำกัด ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านกว่าบาท จากแกนนำชาวบ้านตำบลปริก 15 คน ที่ประท้วงปิดถนนจนบริษัท เซฟสกินฯ ได้รับความเสียหาย โดยฝ่ายชาวบ้านทั้ง 15 คน เดินทางมาศาลพร้อมทนาย ขณะที่บริษัท เซฟสกินฯ ได้ส่งทนายความเป็นตัวแทนเข้ารายงานตัวต่อศาลจังหวัดนาทวี

โดยผู้พิพากษาศาลจังหวัดนาทวี ได้ถามทั้งสองฝ่ายว่า พร้อมที่จะไกล่เกลี่ยค่าเสียหายหรือไม่ ซึ่งทั้งสองฝ่ายแถลงตอบว่า พร้อมที่จะไกลเกลี่ย จากนั้นศาลจึงได้กำหนดวันที่ให้ทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายกันในวันที่ 1 มิถุนายน 2552

นายสวัสดิ์ เพ็ชรแก้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในจำเลย กล่าวว่า การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายดังกล่าวเป็นจำนวนเงินที่มากพอสมควร ซึ่งตอนที่ได้ รับหมายศาลก็รู้สึกว่า ทางโรงงานนอกจากจะรังแกสิ่งแวดล้อมแล้วยังรังแกชาวบ้านที่ต่อสู้เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองด้วย แต่กลับต้องมาถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอีก

"บอกตรงๆ ว่ากลัว แต่ที่ชาวบ้านกลัวในเรื่องข้อกฎหมายมากกว่า เพราะไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายเลย แต่ก็ใจชื้นขึ้นมานิดบ้าง เพราะนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ช่วยเหลือในเรื่องการจัดหาทนายความมาให้เพื่อมาต่อสู้คดี แต่ความช่วยเหลือจากภาครัฐ เรายังไม่เคยได้รับเลย" นาย สวัสดิ์กล่าว

นายสวัสดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านประกาศอยู่เสมอว่า ยินดีที่จะให้โรงงานประกอบกิจการต่อไป ชาวบ้านต้องการให้อยู่ในพื้นที่ แต่ต้องรักษาสิ่งแวดล้อมให้ชาวบ้านด้วย และยังยืนยันว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง ชาวบ้านต่อสู้ด้วยใจที่บริสุทธิ์

แหล่งข่าวในบริษัท เซฟสกินฯ กล่าวว่า ทางบริษัทไม่สามารถกำหนดความคิดของชาวบ้านได้ แต่หลายเรื่องตอนนี้ทางบริษัทได้เปลี่ยนคำพูดเป็นการกระทำหมดแล้ว เช่น การเปิดให้ชาวเข้าไปดูภายในโรงงาน การนำชาวบ้านไปดูงานเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ถ้าชาวบ้านยังคิดอย่างนั้นอยู่ก็ต้องเคารพ ส่วนเรื่องคดี ทางโรงงานได้มอบหมายดำเนินการไปแล้ว