สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ ลงนามโดยนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ระบุ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือแกนนำและผู้บงการ นปช. ตัวจริง โยงการประกาศล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย คือการล้มการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อ้างแกนนำเสื้อแดงประกาศล้างประเทศ หมายถึงการล้มล้างทุกสถาบันอันเป็นหลักปกครองบ้านเมืองของราชอาณาจักรไทย
ในแถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยได้พิจารณาสถานการณ์แล้วเห็นว่า มีแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรงถึงขั้นสงครามกลางเมือง จึงมีมติเรียกร้องให้รัฐบาล กองทัพ และตำรวจ รับผิดชอบและปฏิบัติหน้าที่ เพื่อนำความสงบสุขกลับคืนประเทศชาติ กวาดล้างอริราชศัตรูตามกฎหมาย และหยุดยั้งการกระทำผิดกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกอย่างเด็ดขาด
ท้ายแถลงการณ์ยังเรียกร้องให้ประชาชนเตรียมความพร้อมในระดับสูง
"ขอให้พี่น้องประชาชน จงเตรียมความพร้อมในระดับสูง ในการป้องกันตนเองและในการเข้าร่วมการเคลื่อนไหวกับพลังรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทุกเมื่อ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป" แถลงการณ์ระบุ
..............................................
แถลงการณ์สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 2/2552
เรื่อง ให้รับผิดชอบในการรักษารัฐธรรมนูญและกฎหมาย
ด้วยปรากฏเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือแกนนำและผู้บงการ นปช. ตัวจริง ซึ่งแกนนำได้ประกาศต่อสาธารณะว่าจะทำศึกแตกหักกับรัฐบาล จะล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย ซึ่งหมายถึงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และประกาศล้างประเทศ ซึ่งหมายถึงการล้มล้างทุกสถาบันอันเป็นหลักปกครองบ้านเมืองของราชอาณาจักรไทย
ทั้งได้ทำการปลุกระดมยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนกระทำผิดกฎหมายหลายประการ เช่น ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ทำร้ายประชาชน ปิดกั้นการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรี และบุกรุกปิดล้อมศาลากลางจังหวัดบางจังหวัด รวมทั้งการข่มขู่คุกคามข้าราชการและประชาชน อันเป็นปฏิบัติการที่ละเมิดต่อรัฐธรรมนูญและไม่ใช่การชุมนุมในระบอบประชาธิปไตยอีกต่อไป ประจักษ์ชัดถึงการดำเนินการเพื่อล้มล้างการปกครองแผ่นดิน
การเช่นนี้ ได้แสดงให้ประชาชน ทั่วประเทศเห็นแล้วว่า การกระทำของทักษิณกับพวก เป็นภัยร้ายแรงต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัติย์ เป็นประมุข หาใช่เป็นเพียงการต่อสู้ทางการเมืองที่ต้องอาศัยการเมืองแก้ไขเท่านั้น
แต่ปรากฏว่าทั้งรัฐบาล กองทัพ และตำรวจ ได้เพิกเฉยละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ พิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ และดูแลความปลอดภัยในร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน
สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยได้พิจารณาสถานการณ์แล้วเห็นว่า มีแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรงถึงขั้นสงครามกลางเมือง ดังที่แกนนำคนเสื้อแดงได้ประกาศไว้ อันเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงของประเทศชาติและส่งผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาติ
ดังนั้นสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยจึงมีมติเรียกร้องให้รัฐบาล กองทัพ และตำรวจ รับผิดชอบและปฏิบัติหน้าที่ตามที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อนำความสงบสุขกลับคืนประเทศชาติ กวาดล้างอริราชศัตรูตามกฎหมาย และหยุดยั้งการกระทำผิดกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกอย่างเด็ดขาดในทันที
มิเช่นนั้นแล้ว การกระทำของทักษิณและพวก จักนำไปสู่การล้มล้างระบอบการปกครองในเวลานี้ จนถึงขั้นล้มล้างสถาบันหลักสำคัญอีกหลายสถาบันในประเทศ ซึ่งไม่แตกต่างไปจาก แดงคอมมิวนิสต์ ที่ประกาศล้างระบอบการปกครองในอดีต ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ล้มล้างระบอบยุติธรรมและศาล อันตรงกับคำประกาศของ แกนนำ นปช. บนเวทีว่า " จะล้างประเทศใหม่"
อนึ่ง หากรัฐบาล กองทัพ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังเพิกเฉยต่อภัยความมั่นคง ที่ถึงขั้นล้มล้างระบอบการปกครองเช่นนี้ สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย จำต้องร้องต่อศาลปกครอง และ แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ตามมาตรา 157 ของ ป.กฎหมายอาญา ที่ละเว้นการปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต่อไป
สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยเรียกร้องให้บรรดาสมาชิกทั่วประเทศและทั่วโลกในฝั่งโพ้นทะเล โปรดสามัคคีกัน ร่วมกับพลังมวลมหาประชาชน ที่รักชาติ ศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ ในการพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ขอให้พี่น้องประชาชน จงเตรียมความพร้อมในระดับสูง ในการป้องกันตนเองและในการเข้าร่วมการเคลื่อนไหวกับพลังรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทุกเมื่อ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป.
ประกาศ ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2552
(นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์)
เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย