Skip to main content
sharethis


เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา กลุ่มเสื้อแดงจังหวัดขอนแก่นได้ชุมนุมเป็นวันที่ห้าติดต่อกัน โดยสถานการณ์ยังคงสงบเรียบร้อยดี โดยในตอนเช้าของวันนี้ประมาณ 9.00 น. มีกลุ่มเสื้อเหลืองประมาณ 50 คน นำโดยคณาจารย์จากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้ามายื่นหนังสือกับผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ซึ่งใกล้เคียงกับที่ชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง แต่เหตุการณ์ก็ผ่านไปด้วยดีไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น


ช่วงเย็นของวันเดียวกันบนเวทีคนเสื้อแดงขอนแก่นได้มี ส.ส. และอดีต ส.ส.เข้ามาร่วมปราศรัย ประกอบไปด้วยนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส. พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง อดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชน นายจักริน พัตรดำรงจิตร ส.ส. เขต 1 ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย นายเรืองเดช สุวรรณฝาย ส.ส.เขต 2 ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย


เวลาประมาณ 20.30 น. สุนัย ขึ้นปราศรัยวิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์พูดถึงอำนาจต่างตอบแทนของพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งติดหนี้บุญคุณสี่ฝ่ายดังนี้ 1.ทหาร ประชาธิปัตย์ตอบแทนโดยการให้ตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมแก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 2.กลุ่มเนวิน 3.กลุ่มพันธมิตรฯ 4.กลุ่มนายทุนซีพี การติดหนี้ผลประโยชน์จากหลายกลุ่มดังกล่าวนี้ทำให้พรรคประชาธิปัตย์บริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ เช่นการออกเช็คช่วยชาติ สุนัย ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมรัฐบาลให้เช็คแก่ประชาชนเพื่อให้ประชาชนไปซื้อของห้างสรรพสินค้า เซเว่น ใช่หรือไม่เนื่องจาก กลุ่มทุนซีพีถือหุ้นใหญ่ร้านเซเว่น ทำไมรัฐบาลไม่ให้เงินสด? เป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจ ส่วนการตอบแทนพันธมิตรฯ พรรคประชาธิปัตย์เลือกให้ตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศแก่นายกษิต ภิรมย์ ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่มีประสิทธิภาพ ต่อประเด็นเรื่องผลประโยชน์ต่างตอบแทนนี้ นายสุนัยยังพูดต่อว่ากลุ่มผู้มีบุญคุณทั้งสี่กลุ่มอยู่ภายใต้... (ผู้ชุมนุมร้องตะโกน เปรม เมื่อสุนัยยื่นไมค์) สุดท้ายนายสุนัยสรุปว่าการต่อสู้ปัจจุบันนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายอำมาตยาธิปไตย และเสียงประชาชนเปรียบเสมือนเสียงสวรรค์


เวลา 21.30 น. นายสุทิน คลังแสง อดีตกรรมการบริหารและ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ซึ่งถูกศาลยุบไปแล้ว ขึ้นปราศรัย โดยปราศรัยเป็นภาษาอีสาน นายสุทิน เปรียบเทียบการเมืองทุกวันนี้เป็นวงไฮโลโดยใช้รีโมตเป็นกลโกง เปรียบเทียบนายอภิสิทธิ์ เป็นคนสั่นไฮโล พล.อ.เปรมเป็นคนควบคุมรีโมต และคนที่เสียจากการเล่นไฮโลในครั้งนี้คือประชาชน และเปรียบเทียบพัฒนาการประชาธิปไตยเป็นรถโดยสาร โดยในสมัย พล.อ.เปรม เป็นนายก เปรียบคนขับรถโดยสารที่ไม่ฟังเสียงคนโดยสารซึ่งก็คือประชาชน และประชาชนไม่มีสิทธิ์นั่งรถโดยสารได้มากที่สุดเพียงนั่งท้ายรถและนั่งบนหลังคา แต่ในสมัยพ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกประชาชนได้นั่งโดยสารในรถสูดดมแอร์เย็นฉ่ำ นั่งในรถได้เพียงห้าปี ประชาชนโดนถีบลงรถซึ่งหมายถึงการรัฐประหาร 19 กันยา นายสุทิน แสดงความเชื่อมั่นว่าประชาชนจะลุกฮือขึ้นมาเนื่องจากประชาชนได้สัมผัสสิ่งที่ดีกว่าจะไม่มีวันถอยหลังกลับไปยากลำบากเหมือนเดิมอย่างแน่นอนเพราะกงล้อประวัติศาสตร์จะก้าวไปข้างหน้าเสมอ


สุดท้ายนายสุทิน ตั้งข้อสังเกต ถึงกรณีการจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ ว่าเว็บไซด์หมิ่นสถาบันเกิดขึ้นในยุครัฐบาลเผด็จการมากที่สุด แต่รัฐบาลประชาธิปไตยไม่ปรากฏการณ์ว่ามีเว็บจาบจ้วงเลย นายสุทินยังพูดต่อว่าการล้มล้างสถาบันกษัตริย์จะเกิดขึ้นในสังคมที่มีผู้นำเป็นเผด็จการเท่านั้น ไม่มีทางเกิดในสังคมประชาธิปไตย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net