เมื่อเวลา 23.00 น. วันนี้ (13 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงการณ์จากศูนย์สื่อสารสถานการณ์ฉุกเฉิน สำนักนายกรัฐมนตรี ผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า หลังจากที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินหน้าแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่เขตปริมณฑลอย่างหนักตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ช่วงเช้าที่เจ้าหน้าที่ทหารเปิดเส้นทางบริเวณดินแดง หลังจากนั้นผู้ชุมนุมก่อเหตุจลาจลต่าง ๆ อาทิ การนำรถแก๊สมาขวางถนน การปะทะกับประชาชนในชุมชนต่าง ๆ แต่ขณะนี้เหตุการณ์ส่วนใหญ่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือแต่บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล

รัฐบาลขอย้ำว่า รู้สึกพอใจกับมาตรการทั้งหมดข้างต้น ที่ได้ใช้ความละมุนละม่อม ดูแลให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด ทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด แม้จะมีบางกลุ่มพยายามปลุกปั่น สร้างกระแสข่าวโคมลอยว่ามีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน แต่เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาประชาชนแล้ว รัฐบาลทำทุกอย่างอย่างโปร่งใส โดยสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้จากหน่วยสาธารณสุขและสื่อมวลชนต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับชุมชนนางเลิ้ง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ผมขอยืนยันว่า เมื่อทราบข่าวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปควบคุมสถานการณ์โดยเร็วที่สุด ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แต่รัฐบาลก็ไม่ประมาท เนื่องจากเชื่อว่าในคืนนี้ยังมีบุคคลบางกลุ่มต้องการสร้างความวุ่นวายให้กับพี่น้องประชาชน จึงได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจพร้อมหน่วยเคลื่อนที่เร็วให้ตรวจตราตามจุดต่าง ๆ อย่างเข้มงวด นอกจากนี้ ยังขอรบกวนประชาชนเป็นหูเป็นตาให้กับบ้านเมือง พร้อมแจ้งเบาะแสหากมีเหตุผิดปกติ

ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุม ผมขอให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลฟังเสียงท่าน และจะตอบสนองในวาระต่อไป แต่ขอให้ท่านเดินทางกลับบ้านเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการความสงบเรียบร้อย ซึ่งทางรัฐบาลพร้อมอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีบุคคลหนึ่งที่อยู่ต่างประเทศ คอยปลุกปั่นกระแสผ่านสื่อต่างชาติโดยการบิดเบือนข้อเท็จจริงต่าง ๆ จึงขอให้พี่น้องประชาชนช่วยเป็นกระบอกเสียงความจริง เพื่อให้ชาวโลกมั่นใจว่า ประเทศไทยสามารถใช้มาตรการฉุกเฉินโดยไม่ขัดต่อหลักประชาธิปไตยได้

สุดท้าย ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกท่านอย่างจริงใจ ที่ทุ่มเททำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อย โดยไม่มุ่งเน้นเพียงเป้าหมาย แต่คำนึงถึงศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียม ผมขอกราบเรียนว่านอกเหนือจากคำขอบคุณที่ท่านจะได้รับ คือความภาคภูมิใจที่ได้เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ไม่ได้ทำเพื่อรัฐบาล แต่เป็นการทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง และผมขอขอบคุณประชาชนทุกท่าน ที่วันนี้ทำให้ผมได้เห็นถึงความกล้า ความมีน้ำใจ ที่ทำเพื่อลูกหลานและประเทศชาติ จึงหวังว่าการปฏิบัติภารกิจในขั้นต่อไป จะได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน และทุกอย่างจะสำเร็จลุล่วงได้ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์นี้ ดังที่รัฐบาลได้ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้น ผมมั่นใจว่าความสำเร็จกำลังรอเราอยู่