นักสิทธิ์-นักวิชาการ จี้รัฐยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

วันนี้ (15 เม.ย.) เครือข่ายสันติประชาธรรม อันประกอบด้วย นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ และประชาชนผู้รักสันติ อาทิ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นายศราวุฒิ ประทุมราช ดร.ศรีประภา เพชรมีศรี นายพิทักษ์ เกิดหอม นายอนุชา วินทะไชย ดร.นฤมล ทับจุมพล ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร ออกแถลงการณ์ การใช้หลักนิติธรรมในการปฏิบัติต่อผู้ถูกกล่าวหาและการใช้รัฐสภาในการหาทางออกจากความขัดแย้งทางการเมือง

 

แถลงการณ์ระบุว่า แม้กลุ่มแนวประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ยุติการชุมนุมลงแล้ว แต่ทางเครือข่ายสันติประชาธรรมยังมีข้อห่วงกังวล ต่อการดำเนินการในบางประการ ดังนั้นจึงมีข้อเรียกร้อง อาทิ ขอให้ยกเลิกประกาศการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลโดยทันที และให้ปฏิบัติต่อผู้ถูกควบคุมตัวจะต้องยึดหลักปฏิบัติตามแนวทางสากลและหลักนิติรัฐ

 

อีกทั้ง รัฐบาลต้องชี้แจงถึงเหตุผลในการปฏิบัติต่อประชาชนที่ยุติการชุมนุมบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยมีการถ่ายภาพผู้เข้าชุมนุมและขอตรวจบัตรประชาชนทุกคน ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมอย่างไม่เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

 

นอกจากนี้ รัฐบาลและผู้ชุมนุมซึ่งต่างยืนยันตรงกันตลอดมาว่าต้องการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมประชาธิปไตย กับทั้งมีความเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา ดังนั้น การใช้สภาผู้แทนราษฎรเป็นพื้นที่ในการปรึกษาหารือเพื่อหาทางออกจากปัญหาทางการเมืองร่วมกัน เป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรก

 

ในส่วนนักการเมืองทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านรวมทั้งกลุ่มผู้สนับสนุน มีข้อเรียกร้องให้ยุติการสร้างเงื่อนไขที่จะทำให้กระบวนการทางการเมืองแบบรัฐสภาเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใด และในขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายต้องเปิดโอกาสให้มีการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนที่ต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาในชาติด้วยแนวทางสันติ

 

 

 

 

แถลงการณ์

การใช้หลักนิติธรรมในการปฏิบัติต่อผู้ถูกกล่าวหาและการใช้รัฐสภาในการหาทางออกจากความขัดแย้งทางการเมือง

 

ตามที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ประกาศยุติการชุมนุมเพื่อรักษาสิทธิในชีวิตและร่างกายของผู้ชุมนุม และรัฐบาลได้แสดงว่าใช้ความอดกลั้นในการไม่ใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมที่ถือว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ กับทั้งประกาศจัดรถรับส่งให้แก่ผู้ชุมนุมที่ต้องการกลับบ้านอย่างปลอดภัยนั้น นับเป็นปรากฏการณ์ที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ไม่มีการสูญเสียสิทธิในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไปมากกว่าที่ได้เกิดขึ้นแล้ว และสิ่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต่างปรารถนา

 

อย่างไรก็ตาม เครือข่ายสันติประชาธรรม อันประกอบด้วย นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ และประชาชนผู้รักสันติ ยังมีข้อห่วงกังวล ต่อการดำเนินการในบางประการ ดังนั้น พวกเราที่มีรายชื่อท้ายนี้ ขอเรียกร้องดังต่อไปนี้

 

1. เพื่อเป็นหลักประกันการใช้กฎหมายตามหลักนิติธรรมและนิติรัฐอย่างแท้จริง และโดยที่การชุมนุมสิ้นสุดลงแล้ว ประกอบกับเหตุการณ์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มิได้อยู่ภายใต้สถานการณ์ความไม่สงบที่มีความร้ายแรงตามที่รัฐบาลอ้างถึง จึงขอให้ยกเลิกประกาศการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลโดยทันที

 

2. ในการปฏิบัติต่อผู้ถูกควบคุมตัวจะต้องยึดหลักปฏิบัติตามแนวทางสากลและหลักนิติรัฐนั่นคือบุคคลนั้นมีสิทธิที่จะให้บุคคลอื่นที่ตนไว้วางใจอยู่ด้วยในระหว่างการซักถามของพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น ทนายความ หรือญาติสนิท และต้องมีการควบคุมตัวไว้เท่าที่จำเป็น ไม่แยกขังเดี่ยว และต้องนำตัวไปศาลภายใน 48 ชั่วโมง ได้รับการประกันตัว หากเจ็บป่วยต้องได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์ที่ผู้ต้องหาเลือกเอง ทั้งนี้ต้องตระหนักว่ากระบวนการยุติธรรมที่เลือกปฏิบัติ ย่อมไม่สามารถนำไปสู่ความยุติธรรมและความปรองดองในสังคมได้

 

3. ในการปฏิบัติต่อประชาชนที่ยุติการชุมนุมบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล มีการถ่ายภาพผู้เข้าชุมนุมและขอตรวจบัตรประชาชนทุกคน ถือเป็นการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมอย่างไม่เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งรัฐบาลต้องชี้แจงถึงเหตุผลความชอบธรรมแห่งการกระทำดังกล่าว

 

4. รัฐบาลและผู้ชุมนุมยืนยันตรงกันตลอดมาว่าต้องการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมประชาธิปไตย กับทั้งมีความเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา ดังนั้น การใช้สภาผู้แทนราษฎรเป็นพื้นที่ในการปรึกษาหารือเพื่อหาทางออกจากปัญหาทางการเมืองร่วมกัน เป็นสิ่งที่ต้องกระทำในโอกาสแรก บนพื้นฐานที่ว่าความขัดแย้งทางการเมืองต้องใช้กระบวนการทางการเมือง คือการใช้อำนาจหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติเป็นเวทีของการพิจารณาปัญหา ตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ นั่นคือแนวทางหลักในระบอบประชาธิปไตยที่นานาอารยประเทศยึดถือ

 

5. ให้นักการเมืองทั้งสองฝ่าย (ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านรวมทั้งกลุ่มผู้สนับสนุน) ยุติการสร้างเงื่อนไขไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใดอันจะทำให้กระบวนการทางการเมืองแบบรัฐสภาเป็นไปไม่ได้ ในขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายต้องเปิดโอกาสให้มีการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนที่ต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาในชาติด้วยแนวทางสันติ

 

แถลง ณ วันที่ 15 เมษายน 2552

 

เครือข่ายสันติประชาธรรม และเครือข่ายนักสิทธิมนุษยชน

ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ

นายศราวุฒิ ประทุมราช

ดร.ศรีประภา เพชรมีศรี

นายพิทักษ์ เกิดหอม

นายอนุชา วินทะไชย 

ดร.นฤมล ทับจุมพล

ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท