21 องค์กรโบกธงชาติ รณรงค์"หยุดทำร้ายประเทศไทย" ย่านสีลม นักวิชาการชี้สื่อทำข่าว 2 มาตรฐาน

21องค์กรชู"หยุดทำร้ายประเทศไทย" เดินขบวนสีลม

4 ..52 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน สถาบันทางวิชาการ องค์กรภาคธุรกิจและภาคประชาสังคม จำนวน 21 องค์กร ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ "หยุดทำร้ายประเทศไทย" เพื่อรณรงค์ให้คนไทยทั้งประเทศยุติการใช้ความรุนแรงอันเนื่องมาจากความขัดแย้ง โดยใช้ธงชาติเป็นสัญลักษณ์

นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา จะนำรองประธานวุฒิสภาและสมาชิกวุฒิสภาจำนวนหนึ่ง ร่วมรณรงค์ด้วย โดยงานดังกล่าวเริ่มในเวลา 08.00 . ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นพิธีกรจะกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ก่อนที่จะเชิญตัวแทนกล่าวนำคำปฎิญญาณ ต่อด้วยเชิญศิลปินชั้นนำจากค่ายเพลงต่างๆ นำโดยแอ๊ด คาราบาว และแกนนำของโครงการ นำร้องเพลง "หยุดทำร้ายประเทศไทย" ซึ่งแต่งโดยแอ๊ด คาราบาว

ทั้งนี้ จะมีขบวนเดินรณรงค์ไปตามถนนสีลมจนถึงธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ทั้งนี้ จะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติช่อง 11 ด้วย

นายประดิษฐ์ กล่าวอีกว่า โครงการนี้จะเดินหน้ารณรงค์อย่างต่อเนื่องโดยจะเชิญชวนขอให้สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และประจำรัฐสภา ร่วมกันสวมเสื้อหยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรง

 

กองทัพบกร่วมรณรงค์หยุดทำร้ายประเทศไทย

กองทัพบกนำกำลังพล 2 พันนาย กล่าวปฏิญาณตน ร่วมรณรงค์หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรง และเซ็นชื่อท้ายปฏิญาณส่งไปยังทุกฝ่ายที่กำลังมีความขัดแย้ง

กองบัญชาการกองทัพบก ร่วมจัดกิจกรรม หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรง โดยกำลังพลในสังกัดประมาณ 2,000 คน ร่วมกันถือธงชาติพร้อมกับกล่าวคำปฏิญาณประชาชน ไม่ทำร้ายประเทศไทย ไม่ใช้ความรุนแรง ว่า ขณะนี้ความขัดแย้งทำให้เกิดการแบ่งฝ่าย แบ่งสี อันนำไปสู่ความรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา และก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ภาพลักษณ์ของชาติในทางระหว่างประเทศ และยังซ้ำเติมเศรษฐกิจ ซึ่งมีปัญหาจากเศรษฐกิจโลกอยู่แล้ว ให้ทรุดหนักลงไปอีก รวมถึงสร้างรอยร้าวในสังคม ลึกลงไปจนถึงภูมิภาคต่าง ๆ และลงถึงครอบครัว หากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ สังคมไทยจะแตกเป็นเสี่ยง และอาจเกิดสงครามการเมือง ที่คนไทยเข่นฆ่าคนไทยด้วยกันเอง นำความพ่ายแพ้ สูญเสียมาสู่คนไทยและทุกคนทั้งชาติ

จึงอยากขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรงทั้งกาย และวาจา ความเห็นที่แตกต่างทางการเมืองเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรง ทั้งนี้การชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธ เป็นสิ่งที่กระทำได้ แต่ขอให้เคารพเสรีภาพของผู้อื่น ไม่อ้างเสรีภาพของตนมาละเมิดเสรีภาพของผู้อื่น และไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง และขอเรียกร้องคู่กรณีที่ขัดแย้ง หาทางออกความขัดแย้งนี้โดยสันติวิธี และขอให้ผู้นำทางการเมืองทั้งในอดีตและปัจจุบัน พรรคการเมือง ส.. ..และบุคคลทั้งหลายที่กำลังทำตนเป็นผู้ปลุกปั่นประชาชน ให้เกิดความเกลียดชังซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนและกลุ่ม หยุดการกระทำนอกวิถีประชาธิปไตย ที่จะนำชาติไทยไปสู่หายนะ เรียกร้องให้ยุติการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ และยุติการใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ มาเป็นข้ออ้างเพื่อประโยชน์ทางการเมือง ส่วนตัวหรือกลุ่ม เพราะพระมหากษัตริย์ ทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องทำหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำอย่างเสมอภาค เป็นมาตรฐานเดียวกันกับทุกคน รวมถึงสื่อมวลชนต้องรักษาจรรยาบรรณ ไม่ใช้สื่อนำข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง หรือเสนอข่าวสารที่เป็นประโยชน์ทางการเมืองของตนเองและละเว้นแสดงความเห็นในลักษณะที่สร้างความเกลียดชังในหมู่ประชาชน เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนทางการเงินหรือประโยชน์อื่น ที่จะก่อให้เกิดการปลุกปั่นประชาชนให้เกิดความเกลียดชัง แบ่งฝ่าย ขอให้ยุติสนับสนุนทางการเงิน และขอให้รัฐบาลทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โปร่งใสในวิถีทางรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ไม่เลือกปฏิบัติ มีมาตรฐานเดียวในการรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของนิติธรรม และต้องเปิดโอกาสให้สังคมสามารถตรวจสอบการกระทำทุกอย่างที่ถูกกล่าวหา หรือถูกตั้งข้อสงสัยได้อย่างเต็มที่

และขอให้ทุกคนที่มีความรักชาติ ที่เห็นด้วยกับแนวทางนี้เผยแพร่ปฏิญาณฉบับนี้พร้อมกับร่วมกันลงชื่อเพื่อนำปฏิญาณประชาชนและรายชื่อผู้สนับสนุนส่งไปยังทุกฝ่ายที่กำลังขัดแย้ง นอกจากนี้กำลังพลทั้งหมดยังได้ร่วมกันร้องเพลงต้นตระกูลไทยและรักกันไว้เถิด

ผู้ว่าฯ กทม.นำขรก.กว่า 3,000 คนร่วมแสดงพลังหยุดทำร้ายประเทศไทย

...สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นผู้นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และลูกจ้าง กทม.กว่า 3,000 คน เข้าแถวเคารพธงชาติ และร่วมร้องเพลงชาติ เพลงพ่อแห่งแผ่นดิน และเพลงรักกันไว้เถิด พร้อมกับโบกสะบัดธงชาติไทย เพื่อร่วมแสดงพลังความสามัคคี และแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในหมู่ข้าราชการ เนื่องในวันสมานฉันท์แห่งชาติ "4 พฤษภาคม หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรง" ที่บริเวณลานคนเมือง ภายในศาลาว่าการ กทม. ตามที่สถาบันพระปกเกล้า ร่วมกับเครือข่าย "หยุดทำร้ายประเทศไทย" ซึ่งมีสมาคมนักข่าวและนักหนังสือพิมพ์ รวมถึงองค์กรภาครัฐ และเอกชน ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ให้คนไทยร่วมกันยุติความรุนแรง

โดย ม...สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า คนไทยทุกคนสามารถมีความเห็นที่แตกต่างกันได้ สามารถวิพากษ์วิจารณ์กันได้ แต่ขอให้หยุดทำร้ายซึ่งกันและกัน เนื่องจากไม่ต้องการเห็นประเทศไทยบอบช้ำไปมากกว่านี้ อยากขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหยุดทำร้ายประเทศไทย พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกคนร่วมกันประดับธงชาติไว้ที่หน้าบ้านของตนเอง และช่วยกันบอกต่อ ๆ กัน เพื่อเป็นการแสดงออกให้ทุกฝ่ายหยุดใช้ความรุนแรง แสดงออกถึงความสามัคคี นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงออกถึงความเคารพต่อสถาบันหลักของชาติ ได้แก่ สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อีกด้วย

 

นายกฯ หนุนโครงการ ชี้คนไทยสีเดียวสีธงชาติ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยวานนี้ (3..) ตอนหนึ่งว่า "ผมทราบว่ามีองค์กรเอกชนหลายองค์กรได้ร่วมกันจัดโครงการ"การหยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดความรุนแรง" ขอยืนยันว่าประชาชนไทยมีสีเดียวคือสีธงชาติ ก็ถือเป็นโครงการดีๆ ที่ผมคิดว่าถ้าทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมส่งเสริมค่านิยมเรื่องสันติ และความสงบสุข ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะทำให้บ้านเมืองของเราสามารถเดินไปข้างหน้า ฟันฝ่าวิกฤตต่างๆได้"นายกฯ กล่าว

 

เลขาฯสถาบันพระปกเกล้าร้อง"พลังเงียบ"ต้องแสดงออก

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวเมื่อวันที่ 4 .. ว่า ถึงเวลาแล้วที่คนไทยต้องแสดงพลังหยุดทำร้ายประเทศไทย ประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นพลังเงียบ ต้องแสดงออก พร้อมกับเรียกร้องให้นักการเมืองและพรรคการเมืองใช้เวทีรัฐสภาแก้ไขปัญหา

 

จัดเสวนา เสรีภาพสื่อไทยเติมหรือดับไฟความขัดแย้ง

ขณะที่วันที่ 3 ..สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับองค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชน จัดเสวนาในหัวข้อ " เสรีภาพสื่อมวลชนไทย จะช่วยเติม หรือดับไฟความขัดแย้ง" เนื่องในวันสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนโลก พร้อมกับนำเสนอผลสำรวจการใช้ภาษาที่นำไปสู่ความขัดแย้งของสื่อมวลชนไทย

นางพิรงรอง รามสูตร อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เสรีภาพของสื่อนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการมีเสรีภาพจากค่านิยม และความคิดของนักข่าวเอง นักข่าวจะมีความเป็นมืออาชีพสูง ต้องสามารถสร้างเสรีภาพ ค่านิยมทางความคิดของตนเองได้ ทุกวันนี้นักข่าวพูดความจริงได้แค่ครึ่งเดียว หลายสื่อที่พอนักข่าวเอนเอียงไปในทางเสื้อแดง จะไม่ได้รับการยอมรับ แต่ถ้าไปทางเสื้อเหลืองจะยอมรับได้มากกว่า ซึ่งเป็นสภาพที่ลำบากมากในสังคมไทย แม้แต่นักวิชาการเองก็อึดอัด

"ในสังคมที่มีความขัดแย้งทางความคิดสูง คงไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรคือความถูกต้องทางการเมือง แต่จรรยาบรรณของนักข่าว จะต้องนำเสนอความถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร ซึ่งมองว่าสื่อสามารถช่วยดับไฟ หรือทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งดีขึ้นได้บ้าง แต่ถ้าไม่เป็นกลาง ก็เป็นการเติมเชื้อ ไฟ" นางพิรงรองกล่าว

นางพวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเกิดปัญหา 2 มาตรฐานในการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชน จากกรณีการชุมนุมของเสื้อแดงและเสื้อเหลือง เพราะเสื้อแดงถูกมองว่าเป็นม็อบรับจ้าง จึงไม่ได้รับความสนใจจากสื่อกระแสหลัก นอกจากนี้ในการนำเสนอข่าวของสื่อกระแสหลักยังมีแนวโน้มเกรงใจคนเสื้อเหลืองมากกว่า คนเสื้อแดงจึงหาทางออกด้วยการหันไปเปิดเว็บไซต์ วิทยุชุมชน นำเสนอข่าวสารที่ไม่ปรากฎอยู่ในสื่อกระแสหลัก สร้างสังคมใหม่ที่มีความคิดเห็นเหมือนกันขึ้นมา

"เสื้อเหลืองก็อยู่ในสังคมอีกแบบ ซึ่งทำให้เกิดปรากฎการณ์คนคุยกันได้น้อยลง และคุยยากยิ่งขึ้น นำมาสู่แนวโน้ม 3 ประการคือ การทะเลาะกัน ทำร้ายกัน หรือหลีกเลี่ยงที่จะคุยกันไปเลย เคยมีสื่อบางคนบอกว่า ทุกวันนี้สื่อไม่ได้แค่ทำหน้าที่เป็นคนพากษ์มวย แต่ยังสวมบทบาทเชียร์มวยด้วย โดยเชื่อว่าตัวเองเลือกข้างถูก ทั้งๆที่การทำหน้าที่ของสื่อต้องไม่เลือกข้าง"นางพวงทองกล่าว

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากจะเสนอว่าสื่อมวลชนควรมีการทบทวนบทบาทการนำเสนอข่าวสารและทบทวนภารกิจการกำกับควบคุมดูแลกันเอง เพราะทุกวันนี้มีสื่อเฉพาะทางเกิดขึ้นจำนวนมาก ขณะเดียวกันภาครัฐเองก็ต้องมีการทบทวนการกำกับดูแลสื่อให้เป็นธรรม ทั้งเรื่องของดีสเตชั่น และเอเอสทีวี นอกจากนี้จะมีการเพิ่มพื้นที่ให้ประชาชนได้พูดคุยเรื่องประชาธิปไตยที่แท้จริง

"จะเห็นได้ว่าสื่อสำคัญๆของเรานำเสนอเรื่องบันเทิงมากๆ เพราะสื่อใหญ่ๆหลีกเลี่ยงการนำเสนอเรื่องการเมือง เพราะกลัวถูกมองถูกด่าว่าอยู่ข้างไหน ก็ต้องไปดูให้มีพื่นที่ให้ประชาชนแสดงความเห็นมากขึ้น"นายสาทิตย์กล่าว

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) แถลงในโอกาสวันสิทธิเสรีภาพสื่อโลกว่า พรรคเพื่อไทยมองว่าสื่อเป็นสถาบันทางสังคมที่สำคัญในการทำหน้าที่ส่งข่าวสาร สะท้อนปัญหาและข้อเท็จจริงสู่ประชาชน แต่สื่อต้องเป็นอิสระ เป็นกลาง มีสิทธิเสรีภาพ รัฐบาลต้องไม่ปิดกั้นในทุกกรณี ดังนั้นพรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แสดงความจริงใจโดยการปลดปล่อยสื่อที่เป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เช่น ดีสเตชั่น หรือวิทยุชุมชนที่ตรงข้ามกับรัฐบาล เพื่อให้สามารถออกอากาศและดำเนินการได้ในวันนี้ "ร้อยคำพูดไม่เท่าหนึ่งการกระทำที่จริงใจ ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกมองว่าเป็นนายกฯ 2 มาตรฐานได้" นายพร้อมพงศ์กล่าว

นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีโครงการรณรงค์หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรงว่า สำหรับในวันพุธ 6 .. โครงการนี้ยังจะมีการเดินหน้ารณรงค์อย่างต่อเนื่อง โดยจะเชิญชวนขอให้สื่อมวลชน ประจำทำเนียบรัฐบาล และประจำรัฐสภา ร่วมกันสวมเสื้อหยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรง

สำหรับเครือข่ายหยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรงประกอบด้วย 1. ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) 2. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 3. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 4.สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย 5. สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย 6. สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.) 7. สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย 8. สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย 9. สมาคม อบต. แห่งประเทศไทย 10. สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย

11.เครือข่ายนักวิชาการไม่เอาความรุนแรง 12. คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน 13. สำนักงานสภาพัฒนาการเมือง สถาบันการเรียนรู้และพัฒนาประชาสังคม 14. กลุ่มประชาชนผู้ไม่เอาสงครามกลางเมือง 15. คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 16. สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย 17. ชมรมแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์เพื่อประชาชน 18. เครือข่ายประชาธิปไตยเห็นต่างกันได้แต่อย่าใช้ความรุนแรง 19. สถาบันพระปกเกล้า 20. สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า 21. เครือข่ายผู้หญิงเพื่อความก้าวหน้า และสันติภาพ

เรียบเรียงจาก เว็บไซต์มติชนและเว็บไซต์สำนักข่าวไทย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท