Skip to main content
sharethis

การเมือง
 
พงษ์เทพค้านนิรโทษกรรม 111+109
เว็บไซต์คมชัดลึก - (11พ.ค.) ที่สนามกอล์ฟอัลไพน์ นายพงศ์เทพ เทพกาญนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวให้สัมภาษณ์ก่อนลงแข่งขันกอล์ฟรายการ” สังสรรค์สามัคคี 111 + 37 = เพื่อไทย” ว่า การจัดงานวันนี้เป็นการแข่งขันกีฬาระหว่างคนที่เคยร่วมทำงานกัน ไม่มีอะไรพิเศษ การแข่งขันกอล์ฟในวันนี้คงไม่การหารือเรื่องการเมือง เพราะการแก้ไขปัญหาของประเทศคงจะพูดกันที่อื่น และคงไม่คุยกันที่นี่
 
ผู้ สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์และปฏิรูปการเมือง โดยตอนนี้บางฝ่ายเสนอให้นิรโทษกรรมและแก้รัฐธรรมนูญ ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากพันธมิตรฯ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ตนพูดหลายครั้งแล้วว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้เกิดปัญหา และจำเป็นต้องแก้ไขเพื่อให้อำนาจอธิปไตยกลับไปสู่ประชาชน รัฐบาลต้องวางหมากให้มีเหตุผล หากจะนิรโทษกรรมเพื่อให้อดีตนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 และ 109 นั้นไม่มีประโยชน์ เพราะคนที่รับผลกระทบนั้นเป็นส่วนน้อย แต่การนิรโทษกรรมควรกระทำให้คนส่วนมากในสังคมเกิดความสงบสุข
 
เมื่อ ถามว่า นิรโทษกรรมให้คนส่วนมาก หมายความว่าอย่างไร นายพงศ์เทพกล่าวว่า ที่ผ่านมาคนในสังคมมีความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างและเกิดการชุมนุมรวมตัว กัน และคนส่วนมากก็โดยกล่าวหาว่ากระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย และโดนตั้งข้อหาในคดีอาญาจำนวนมาก ฉะนั้นสังคมควรกลับมาเริ่มต้นกันใหม่เพราะประเทศเกิดการติดขัด เมื่อถามต่อว่าแสดงว่าการนิรโทษกรรมนั้นจะโยงไปยังคดีของคนเสื้อเหลืองและคน เสื้อแดง นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ต้องไปดูว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไรกันบ้าง เพื่อให้ทุกฝ่ายกลับมาเล่นกันใหม่โดยไม่มีคดีติดตัว หากจะนิรโทษกรรมให้อดีตนักการเมืองนั้นตนไม่เห็นด้วย
 
ส่วน การนิรโทษกรรมจะเกี่ยวกับคดีอาญาด้วยหรือไม่นั้น นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ตามปกติแล้วการนิรโทษกรรมนั้นจะกระทำในคดีอาญาอยู่แล้ว โดยเห็นได้จากกรณี 14 ตุลา 16, พฤษภา ทมิฬ ก็มีการนิรโทษกรรมกัน เมื่อถามว่า การนิรโทษกรรมจะรวมคดีที่ดินรัชดาภิเษกของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯด้วยหรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า สังคมไทยคงดูได้ว่ากระบวนการยุติธรรมหลังการยึดอำนาจแตกต่างกับกระบวนการ ยุติธรรมในช่วงปกติอย่างไร และควรจัดการเช่นใด สังคมยอมให้มันเกิดขึ้นหรือไม่ หรือต้องรื้อคดีขึ้นมาทำใหม่ เรื่องนี้ตนไม่ได้คุยกับอดีตนายกฯ เพราะตนกำลังยุ่งกับการเตรียมชี้แจงคดีหวยบนดิน
 
ผู้ สื่อข่าวต่อไปว่าหากคดีอาญาได้รับการนิรโทษกรรม แต่คดีทางการเมืองยังคงอยู่นั้น จะรับได้หรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า ต้องดูว่าจะนิรโทษกรรมให้ใครบ้างและดูความเหมาะสม แต่มันต้องเป็นไปโดยเสมอภาค ส่วนกรณีที่พันธมิตรฯกังวลว่าจะนิรโทษกรรมคดีอาญานั้น การนิรโทษกรรมตามปกติมันคือการนิรโทษกรรมในคดีอาญาอยู่แล้ว เพราะคดีที่หนักหนาและเกิดผลร้ายกับประเทศ เช่น ปิดสนามบินและยึดทำเนียบฯ แต่คดีที่ดินรัชดาภิเษกมีโทษจำคุกเพียงสองปี
 
เมื่อ ถามว่าหลายฝ่ายวิจารณ์ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯซื้อเวลาโดยอ้างเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ นายพงศ์เทพกล่าวว่า ผู้สื่อข่าวใกล้ชิดนายกฯกว่าตนและน่าจะรู้ดีกว่าตน
 
ด้าน นายสุรชัย เบ้าจรรยา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการจัดการแข่งขันกล่าวว่าเป็นครั้งแรกที่มีการแข่งขันโดยรวม ศิษย์เก่าคืออดีตนักการเมืองจากพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน รวมทั้งส.ส.พรรคเพื่อไทยมาเล่นกอล์ฟ เพราะเป็นฝ่ายค้านแล้วมีเวลาว่างเยอะ ตนเสนอเรื่องนี้กับนายสมชายให้จัดการแข่งขันโดยนายสมชายเห็นด้วยและแจ้งให้พ .ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯทราบแล้ว
 
นาย สุรชัย กล่าวอีกว่า การรวมตัวกันช่วงก่อนปิดสภานั้นจะทำได้ง่ายกว่าในช่วงปิดสมัยประชุม ทั้งนี้อดีตนักการเมืองและส.ส.ที่ย้ายไปพรรคอื่นๆนั้นอยากมาร่วมงานนี้ ตนจึงบอกไปว่าอย่าเพิ่งมาเลย เมื่อถามว่าการจัดงานนี้เพื่อต้องการดึงส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ให้ย้ายพรรคใช่ หรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า การรวมตัวกันครั้งนี้ ส.ส.และผู้สมัครส.ส.รุ่นใหม่จะได้อุ่นใจ เพราะมีการเชิญอดีตนักการเมืองชั้นผู้ใหญ่มาให้กำลังใจ
 
 
เตรียมผุดดีสเตชั่น 18 พ.ค. ปูดจ่อออกหมายจับเสื้อแดง 100 คน
มติชน - นาย อดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย แกนนำคนเสื้อแดงและประธานกรรมการสถานีโทรทัศน์ ดี สเตชั่น ซึ่งถูกคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) สั่งปิดสถานีเตรียมเปิดตัวสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่แทน ดี สเตชั่น ในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ โดยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ว่าเพื่อเป็นตัวเลือกให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารนอกเหนือจากข้อมูลที่ได้ รับจากรัฐบาลเท่านั้น ซึ่งอาจจะใช้ชื่อว่า "นิวส์ ดีสเตชั่น" หรือ "ดี สเตชั่น 2" โดยยังคงรูปแบบรายการและเนื้อหาตามแบบเดิมทั้งหมด ซึ่งการเปิดสถานีครั้งนี้ จะใช้ช่องทางเดียวกับเอเอสทีวีทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการผลิต หรือการส่งสัญญาณจากดาวเทียมต่างประเทศ
 
ผู้ สื่อข่าวถามว่า จะส่งข้อมูลการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองหรือไม่ นายอดิศรกล่าวว่า ถ้าคณะกรรมการต้องการข้อมูลอะไรก็ขอมาได้ ทางดี สเตชั่นพร้อมสนับสนุน ตนเห็นว่าคำว่าสมานฉันท์จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากรัฐบาลยังไล่จับแกนนำคนเสื้อ แดงอยู่ทุกวัน ซึ่งล่าสุดทราบว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้รัฐบาลจะออกหมายจับแกนนำคนเสื้อ แดงกว่า 100 คน
 
ด้าน นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการ เมือง กล่าวถึงการประชุมคณะกรรม การตรวจสอบข้อเท็จจริงฯนัดแรกในวันที่ 12 พฤษภาคมว่าคงจะได้ข้อสรุปเรื่องจำนวนคณะอนุกรรมการในวันดังกล่าว
 
นาย สงวนกล่าวว่า เบื้องต้นกรอบการพิจารณาแบ่งเป็น 2 ประเด็นใหญ่คือ 1.พิจารณาเป็นกรณีๆ ไป อาทิ กรณีสามเหลี่ยมดินแดง กระทรวงมหาดไทย หรือที่พัทยา 2.พิจารณากรอบการใช้อำนาจของหน่วยงานรัฐ รวมไปถึงผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย ดังนั้น หน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้จึงไม่ใช่แค่เพียงตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เท่านั้น แต่เป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ของประเทศอีกด้วย
 
 
เศรษฐกิจ
 
ผู้ค้าพัฒน์พงศ์ร้อง สภาทนายช่วยฟ้อง ชุดฉก.จับกุมรุนแรง
เว็บไซต์มติชน - กลุ่มผู้ค้าย่านถนนพัฒน์พงษ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร (กทม.) กว่า 100 คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ขอความช่วยเหลือด้านคดีที่แจ้งความไว้ที่ สน.บางรัก กรณีถูกชุดเฉพาะกิจปราบปรามละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เข้าจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า โดยใช้ความรุนแรงและมีอาวุธปืน ทำให้ได้รับความเสียหายและมีผู้บาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดเมื่อคืน วันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งนายเดชอุดม และนายเจษฎา อนุจารีย์ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ และคณะกรรมการสภา เข้ารับหนังสือและพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มผู้ค้า
 
นาย เดชอุดมให้สัมภาษณ์ภายหลังรับหนังสือว่า กลุ่มผู้ค้าระบุว่า มีกลุ่มคนสวมเสื้อสีดำจำนวนมาก ไม่แสดงบัตรว่าเป็นเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามเฉพาะกิจ กระทรวงพานิชย์ เข้าจับกุมและยึดสินค้าโดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา และกระทำด้วยความรุนแรง ซึ่งตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์แล้ว เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจต้องเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่ต้องได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถ้าเป็นผู้ไม่ได้รับการแต่งตั้งเข้าร่วมจับกุม ถือเป็นการกระทำกลุ่มกองโจร
 
"การ ตรวจค้นตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ต้องมีผู้แทนเจ้าทุกข์มาชี้ยืนยันให้จับกุม ไม่ใช่มากวาดยกเอาไปทั้งแผง หากเป็นเจ้าหน้าที่ก็ถือว่าทำละเมิดกฎหมาย ต้องรับผิดชอบ โดยในคดีอาญา ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้แล้ว จึงได้แนะนำให้ผู้ค้าทยอยกันมาให้ข้อมูลกับสภาทนายความ เพื่อประโยชน์ในการให้การกับพนักงานสอบสวน ซึ่งจะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนการเรียกร้องความเสียหายได้แนะนำให้ไปยื่นเรื่องต่อกระทรวงพาณิชย์ ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น แต่หากดำเนินการแล้วไม่มีความคืบหน้า ให้มาที่สภาทนาย ความ เพื่อยื่นฟ้องผู้เกี่ยวข้องต่อศาลปกครองต่อไป" นายเดชอุดมกล่าว
 
ทั้งนี้ สภาทนายความยังออกแถลงการณ์เรื่องการบังคับใช้กฎหมายให้ชอบด้วยหลักนิติธรรม ตามข้อเท็จจริง และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื้อหาระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่การบังคับใช้กฎหมายต้องเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ใช่ลุแก่อำนาจอย่างที่ปฏิบัติอยู่ เนื่องจากการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นความผิดส่วนตัว ไม่ใช่คดีร้ายแรง แม้จะมีโทษจำคุกและค่าปรับค่อนข้างสูง แต่เป็นเรื่องที่สามารถยอมความและเลิกคดีต่อกันได้ การบังคับใช้กฎหมายลิขสิทธิ์จะต้องดำเนินกฎหมายตามขั้นตอนของหลักนิติธรรม ที่ถูกต้อง ซึ่งทางออกที่ดีคือ การสร้างสภาพบังคับกฎหมายภาษีสรรพสามิตของสินค้าลิขสิทธิ์ที่จะทำให้ควบคุม การจำหน่ายได้ดี มีประสิทธิภาพและจะไม่มีการละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์อย่างที่เป็นอยู่ใน ปัจจุบัน
 
"สภา ทนายความอยากเห็นความปรองดองและความเข้าใจในการบังคับใช้กฎหมายอย่างที่เป็น แบบสังคมที่เจริญแล้ว และการละเมิดสิทธิของประชาชนไม่ว่าหน่วยงานรัฐหรือกลุ่มพลังใดๆ ที่ทำสิ่งที่เกินเลยกฎหมายกำหนดก็จะต้องมีมาตรการดำเนินการให้ถึงที่สุด อย่างต่อเนื่อง" แถลงการณ์ระบุ
 
ด้าน พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผกก. สน.บางรัก กล่าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มผู้ค้า 13 รายและ คนขับรถตู้ ที่ชุดเฉพาะกิจกระทรวงพาณิชย์ว่าจ้างให้มาขนถ่ายสินค้า ที่เข้าแจ้งความซึ่งกันและกัน ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และทราบว่า พ.ต.ท.ชลิก สุขวรรณ์ พนักงานสอบสวน จะทำหนังสือถึงอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้ส่งตัวชุดเฉพาะกิจที่เข้าจับกุมมาให้ปากคำ โดยจะส่งหนังสือภายในวันที่ 12 พฤษภาคม
 
 
กรณ์ดึงมาเลย์ร่วมตั้งกองทุน
โพสต์ทูเดย์ - นา ยกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเร่งสรุปรายละเอียดการจัดตั้งกองทุนสาธารณูปโภค ในภูมิภาคอาเซียนร่วมกับประเทศมาเลเซีย เพื่อเสนอโครงสร้างการจัด ตั้งกองทุนและจำนวนเงินลงขัน ให้ประเทศสมาชิกพิจารณาในการประชุมเดือนต.ค.นี้
 
นายกรณ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยเป็นแกนนำในการหารือเรื่องการตั้งกองทุนดังกล่าว และประเทศสมาชิกก็เห็นชอบในหลักการเบื้องต้นแล้ว
 
ทั้งนี้ การจัดตั้งกองทุนดังกล่าว จะเป็นการรวบรวมเงินออมของประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อมาซื้อพันธบัตรของประเทศสมาชิก ทดแทนการซื้อพันธบัตรจากต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงเศรษฐกิจในอาเซียน และจะเป็นการช่วยยกระดับการพัฒนาสาธารณูปโภคในประเทศอาเซียน
 
นอกจาก นี้ ยังมีแนวทางจัดการตั้งกองทุนสาธารณูปโภคในประเทศ หรือกองทุนอินฟราสตรักเจอร์ของไทย ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังมีแนวคิดหลายแนวทาง ได้แก่ การแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ หรือซีเคียวริไทเซชัน โดยการนำรายได้ของรัฐวิสาหกิจมาใช้เป็นตัวรองรับการออกพันธบัตร เช่น รายได้จากค่าตั๋วรถไฟฟ้า และการนำสินทรัพย์ของหน่วยงานราชการ เช่น ที่ราชพัสดุที่มีอยู่ทั่วประเทศไทย มาเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันตัวรายได้ในการรองรับการออกพันธบัตร
 
“ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะมีวงเงินในการจัดตั้งกองทุนจำนวนเท่าไร และรัฐบาลจะจัดตั้งได้เมื่อไร” รมว.คลัง กล่าว
 
นายกรณ์ กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้รัฐบาลจะสามารถออก พ.ร.ก.ขอกู้เงินวงเงิน 4 แสนล้านบาท เพื่อมาใช้ในโครงการแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 วงเงินการลงทุนทั้งสิ้นกว่า 1.56 ล้านล้านบาท ภายในปี 2552-2555 ซึ่งขณะที่รัฐบาลก็กำลังศึกษาแนวทางการดึงเอกชนมาร่วมลงทุน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนอกเหนือจากการลงทุนของรัฐบาล
 
สำหรับโครงการการลงทุนตามแผน 1.56 ล้านล้านบาท รัฐบาลจะต้องทำให้ เกิดความโปร่งใส โดยจะมีการนำรายละเอียดของแต่ละโครงการ และรายงานความคืบหน้าการเปิดประมูล ราคาโครงการ และอื่นๆ เปิดเผยบนเว็บไซต์ ซึ่งประชาชนทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ ก็จะเป็นการช่วยตรวจสอบการทุจริตไม่ให้เกิดขึ้นได้
 
นา ยกรณ์ ยังกล่าวถึงการที่นักลงทุนต่างประเทศเลือกลงทุนในประเทศไทย เพื่อสร้างศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกย่านบางนา-ตราด ว่า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในอนาคตของเศรษฐกิจไทย และการเลือกจังหวะของการลงทุน ขณะนี้ถือว่ามีนัยสำคัญต่อประเทศไทย
 
 
คุณภาพชีวิต
 
ออกแบบสร้างอุโมงค์ลอด ถ.ราชดำเนิน 2 จุด เร่งเปิดใช้ทันเฉลิมฉลอง 85 พรรษา
เดลินิวส์ - นาย ชาตินัย เนาวภูต ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สนย. อยู่ระหว่างการร่างทีโออาร์จ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาและออกแบบโครงการ ก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินข้ามถนนราชดำเนินกลาง ที่ กทม.ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดำเนินการ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างอุโมงค์คนเดินลอดใต้ถนนราชดำเนินบริเวณหน้าโรงแรม รัตนโกสินทร์ และหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา กว้าง 14 เมตร ยาว 80 เมตร ลึก 5 เมตร มีพื้นที่ขายของภายในอุโมงค์ โดยมีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นเจ้าของโครงการ งบประมาณศึกษาอุโมงค์ละ 5 ล้านบาท
 
นาย ชาตินัย กล่าวว่า สำหรับโครงการก่อสร้างอุโมงค์คนเดินลอดใต้ถนนราชดำเนินดังกล่าวนี้ เพื่อรองรับการจราจรในถนนราชดำเนินกลาง เนื่องจากคาดการณ์ว่าในอนาคตจะมีปริมาณการจราจรที่หนาแน่นมากขึ้นกว่า ปัจจุบัน ทำให้ประชาชนคนเดินข้ามถนนจะมีความลำบากและมีอันตรายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สนย.เห็นว่าอุโมงค์ดังกล่าวควรออกแบบให้มีร้านค้าอยู่ภายในอุโมงค์ด้วย เพื่อดึงดูดให้ประชาชนใช้บริการอุโมงค์และเพื่อความปลอดภัยด้วย อีกทั้ง สนย.มีแนวทางที่จะให้บริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาแนวเส้นทางให้มีความสัมพันธ์ กับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสนามกีฬาแห่งชาติ-พรานนก รวมทั้งศึกษาระบบสาธารณูปโภคด้านอื่น ๆ เสนอต่อ สนย.ด้วย โดยคาดว่าภายในเดือน ก.ค.นี้ น่าจะได้ที่ปรึกษา ใช้เวลาศึกษาและออกแบบประมาณ 3-4 เดือน ส่วนระยะเวลาในการก่อสร้างอุโมงค์ละ 18 เดือน ทั้งนี้ กทม.จะเร่งดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จเพื่อให้ทันเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาส ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา
 
สำหรับ โครงการดังกล่าวเป็น 1 ในโครงการ ที่รัฐบาลสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบในการดำเนินโครงการฌองเอลิเซ่ โดยมอบหมายให้ กทม. รับผิดชอบทั้งสิ้น 9 โครงการ รวมงบประมาณ 3,200 ล้านบาท แต่เนื่องจาก สศช. งดให้งบประมาณแก่ กทม. สำนักผังเมือง (สผม.) จึงได้ศึกษาความเหมาะสม และได้ตัดลด เหลือเพียง 2 โครงการเท่านั้น คือโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินข้ามถนนราชดำเนินกลาง และโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงอาคารริมถนนราชดำเนินจำนวน 3 คูหาอยู่
 
 
สาธารณสุขขอ 80 ล้านทำยาต้านหวัดมรณะ
เว็บไซต์คมชัดลึก - สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีรายงานพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อรายใหม่ในประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่องล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการประชุมศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามผลการดำเนินงานควบคุมป้องกันเกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 สู่ประเทศไทย
 
นายมานิตกล่าวว่า กระทรวงได้ทำหนังสือถึงกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเผยแพร่คำแนะนำการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 แก่โรงเรียนและสถานศึกษาทุกแห่ง และเตรียมจัดประชุมผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษาในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจและจะสนับสนุนหน้ากากอนามัยไว้เป็นตัวอย่างในห้องปฐมพยาบาลจำนวน 1 แสนชิ้น ในระดับอุดมศึกษาจะเน้นประชาสัมพันธ์ หากนักศึกษามีอาการไข้ หรืออาการคล้ายไข้หวัด ให้ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และไปพบแพทย์หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มในคนหมู่มาก เช่น กิจกรรมรับน้อง เป็นต้น
 
รมช.สาธารณสุข กล่าวด้วยว่าองค์การเภสัชกรรมแจ้งของบประมาณในส่วนของการผลิตในการจัดซื้อ วัตถุดิบผลิตยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ หรือ จีพีโอ เอ ฟลู โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 พฤษภาคมนี้ตนเตรียมเสนอขออนุมัติงบประมาณกลางจำนวน 80 ล้านบาท สำหรับนำไปซื้อวัตถุดิบผลิตยาดังกล่าวจำนวน 2 ล้านเม็ด ราคาเม็ดละ 40 บาท เพื่อนำมาผลิตยาสำรองเก็บไว้ เตรียมพร้อมสำหรับนำมาใช้หากเกิดการระบาดในประเทศ
 
ส่วนที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยกน้ำหนักประเภทเยาวชนชิงแชมป์โลก ที่ จ.เชียงใหม่ระหว่างวันที่ 19-24 พฤษภาคมนี้ นายมานิตกล่าวว่า ได้รับแจ้งจากสมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทยว่า ในช่วงวันดังกล่าวจะมีนักกีฬาและทีมผู้ฝึกซ้อมจากทั่วโลก รวมถึงประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 รวมประมาณ 1,000 คน ในส่วนของกระทรวงได้เตรียมแผนเฝ้าระวัง โดยนักกีฬาทุกคนก่อนเข้าประเทศจะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิจากเครื่องเทอร์ โมสแกนเนอร์ หากพบใครมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ จะตรวจอย่างละเอียดและติดตามเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด และไม่อนุญาตให้ลงแข่งขัน โดยเฉพาะนักกีฬาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาด 5 ประเทศ ได้แก่ เม็กซิโก แคนาดา อเมริกา สเปน และอังกฤษจะมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
 
ขณะที่สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั่วโลก นายมานิตกล่าวว่า องค์การอนามัยโลกหรือ ฮู รายงานเมื่อเช้าวันที่ 11 พฤษภาคม (ตามเวลาประเทศไทย) พบผู้ป่วยใน 29 ประเทศ จำนวน 4,379 คน เสียชีวิต 49 คน ส่วนประเทศไทยมีผู้ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังอยู่ระหว่างการสอบสวน หรือกำลังดำเนินการตรวจทางห้องปฏิบัติการวันนี้ (11 พ.ค.) จำนวน 9 คน
 
ด้าน รศ.นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ในฐานะหัวหน้าทีมวิชาการ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นับเป็นความโชคดีที่ประเทศไทยมีประสบการณ์ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไข้ หวัดนกทำให้มีการเตรียมพร้อมที่ดี แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดอยู่จะมาเร็ว ขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งไปทางโรงพยาบาลอำเภอ โรงพยาบาลจังหวัดทั่วประเทศ ให้เตรียมตั้งรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นทุกเวลา และฝึกอบรมบุคลากรเพื่อเตรียมความพร้อมในทุกขณะ
 
"แม้ เราจะเตรียมพร้อมอย่างไร แต่เชื่อว่าจะต้องมีการแพร่ระบาดแน่นอน ไม่รอดแน่ แต่จะมากหรือน้อยไม่มีใครทราบ เพราะแม้แต่ยุโรป สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีระบบสาธารณสุขที่ดีกว่าเรา ยังแพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน สิ่งที่ทุกคนต้องทำคือ ดูแลตัวเอง ระมัดระวังอย่าอยู่ในที่ชุมชน และต้องดูแลสุขอนามัยให้สะอาด หากต้องเดินทางไปต่างประเทศ และกลับมาจากต่างประเทศก็ต้องรายงานให้ทราบ อย่าเก็บไว้ เพราะจะนำไปสู่การแพร่เชื้อในที่สุด" รศ.นพ.ทวีกล่าว
 
ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขจีน แถลงว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 รายแรกในจีน เป็นชายวัย 30 ปี ที่อาศัยอยู่ในมณฑลเสฉวน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ โดยชายที่ได้รับการเปิดเผยเพียงว่าแซ่ "เป่า" นี้ เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยมิสซูรี ในสหรัฐ เพิ่งเดินทางกลับบ้านด้วยการนั่งเครื่องบินของสายการบินนอร์ทเวสต์ เที่ยวบินที่ เอ็นดับเบิลยู 029 เดินทางออกจากเมืองเซนต์หลุยส์ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จากนั้นได้แวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะเดินทางถึงกรุงปักกิ่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จากนั้นนายเป่าได้นั่งเครื่องบินของสายการบินเสฉวนเดินทางต่อไปยังเมืองเฉิง ตู
 
ขณะที่ไต้หวันประกาศว่า ผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อ 2 รายแรกของไต้หวัน ได้แก่ มารดาวัย 31 เชื้อ 2 รายแรกของไต้หวัน ได้แก่ มารดาวัย 31 ปี กับบุตรสาววัย 21 เดือน ซึ่งล้มป่วยเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม หลังกลับจากสหรัฐ ไม่ได้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 แต่อย่างใด โดยทั้งคู่ติดเชื้อไวรัสเอเอช 1 ซึ่งมีอันตรายน้อยกว่า
 
ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐ (ซีดีซี) แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (ตามเวลาท้องถิ่น) ว่ายอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ในสหรัฐอยู่ที่ 2,532 คน เสียชีวิต 3 คน เท่ากับว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นล่าสุดอีกถึงเกือบ 278 คน ทำให้พบผู้ติดเชื้อจากโรคนี้ใน 44 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐของแล้ว โดยสหรัฐแซงหน้าเม็กซิโกขึ้นเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด แม้เม็กซิโกจะมียอดผู้เสียชีวิตสูงกว่ามากคือ 48 คน ส่วนสหรัฐอยู่ที่ 3 คน
 
ส่วนแคนาดาพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 5 คน โดย 3 คน พบในมณฑลอัลเบอร์ตาทางตะวันตกอีก 2 คน พบที่มณฑลซัสแคตเชวัน ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในแดนเมเปิลพุ่งเป็น 286 คน และมีเพียงพื้นที่ทางเหนือ และมณฑลนิวฟันด์แลนด์ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือเท่านั้นที่ยังไม่พบผู้ติด เชื้อนี้ ทางด้านฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศทั้งหมดเพิ่มเป็น 15 คน
 
 

หนุ่มสกลนครนั่งกินเหล้าโดนบั้งไฟชนคอขาดกระเด็น
สยามรัฐ – วานนี้ (11 พ.ค.) พ.ต.ท.ภาณุพล เรพล สารวัตร หัวหน้า สภ.ดงมะไฟ   รับแจ้งจากชาวบ้านดงขวาง ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร ว่ามีคนถูกบั้งไฟพุ่งชนเสียชีวิต จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ภ.จว.สกลนคร   เจ้าหน้าที่ตำรวจและเมตาธรรมมูลนิธิ ออกตรวจสอบ   เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบกลุ่มชาวบ้านจำนวนมาก เหตุเกิดที่ริมสระน้ำกลางทุ่งนา และกำลังมีการจัดงานบุญบั้งไฟประจำปี ซึ่งชาวบ้านร่วมกันจัดขึ้น จากการตรวจสอบพบว่าห่างจากบริเวณฐานจุดบั้งไฟ ประมาณ 50 เมตร พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย นอนในท่าหงายอยู่ใต้ต้นพุทรา หันศีรษะมาทางด้านฐานจุดบั้งไฟ สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงยีนขายาว โดยสภาพศพเป็นที่สยดสยอง เนื่องจากไม่มีส่วนของศีรษะ บริเวณลำคอมีรอยการพุ่งชนอย่างแรง และมีเขม่าดินปืนสีดำทั่วบริเวณ    โดยยังพบว่าศีรษะตกลงไปในน้ำ
 
ที่บริเวณใกล้กัน ยังพบชิ้นส่วนบั้งไฟยาวประมาณ 3 เมตร จมอยู่ริมสระน้ำ   จากการตรวจสอบพบส่วนหัวบั้งไฟเป็นท่อพลาสติกพีวีซี มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างประมาณ 3-4 นิ้ว ยาวประมาณ 50 เซนติเมตร มีร่องรอยการระเบิด เจ้าหน้าที่เมตตาธรรมมูลนิธิ จึงได้ลงน้ำเพื่อหาชิ้นส่วนของศีรษะ ใช้เวลานานกว่า 30 นาที จนพบเศษชิ้นส่วนศีรษะ เช่น กระโหลก กล้าม ฟัน และชิ้นส่วนหนังศีรษะที่มีเส้นผมติดอยู่ โดยชิ้นส่วนจมอยู่ใกล้กับจุดที่บั้งไฟตกลงไปอยู่ในสระ จึงนำขึ้นมาเป็นหลักฐาน    ส่วนผู้เสียชีวิต ทราบชื่อภายหลังว่า นายปรีดา วงนาตาล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.4 ต.บึงทวาย อ.เต่างอย จ.สกลนคร
 
จากการสอบถามชาวบ้านดงขวาง ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ในวันนี้มีการจัดงานบุญบั้งไฟประจำปีของชาวบ้านดงขวาง   มีประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยกระจายนั่งอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วบริเวณ   ก่อนเกิดเหตุคณะกรรมการแข่งขันบั้งไฟ ได้ปล่อยบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าไปแล้ว 2 ลูก โดยไม่มีปัญหา และเมื่อจุดลูกที่ 3 บั้งไฟลูกดังกล่าวได้พุ่งออกไปจากฐาน ออกไปด้านขวาในแนวราบโดยไม่พุ่งขึ้นท้องฟ้า และส่ายไปมาจนพุ่งใส่กลุ่มวัยรุ่นประมาณ 6-8 คน ที่นั่งดื่มสุราอยู่ริมสระน้ำ ห่างออกไปจากจุดปล่อยบั้งไฟราว 50 เมตร ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นเขตแนวกั้นหวงห้ามประชาชนเข้าไปนั่งอย่างชัดเจนเพื่อป้องกันอันตราย   โดยมีธง สี แดง สีน้ำเงินและสีเหลือง กั้นไว้อย่างชัดเจน แต่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวไม่เชื่อฟังจากการเตือนของผู้จัดงาน โดยไม่คิดว่าจะเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น หลังบั้งไฟลูกดังกล่าวพุ่งเข้าไปชน   ทำให้คนในวงเหล้าแตกกระเจิง
 
ส่วนนายปรีดา วงนาตาล ผู้ตายนั่งอยู่และหันด้านข้างออกมาทางจุดปล่อยและหันหลังให้สระน้ำพอดี ทำให้หลบไม่ทันเนื่องจากวิถีการพุ่งชนของบั้งไฟ มีความเร็วประมาณ 3-4 วินาที จากจุดปล่อยพุ่งเข้าหาผู้ตาย จนร่างนายปรีดา พุ่งตกลงไปในสระน้ำ   ส่วนร่างกายท่อนบนตกลงไปซึ่งขาทั้ง 2 ข้างอยู่ที่ริมสระ เมื่อบั้งไฟตกลงสนิท เพื่อนๆที่อยู่ด้วยกันจึงวิ่งกลับมาดึงนายปรีดาขึ้นมาจากน้ำ แต่เมื่อดึงนายปรีดาขึ้นมา ถึงกับตะลึงเมื่อไม่พบส่วนหัวของนายปรีดา จึงรีบมาบอกเจ้าหน้าที่และกรรมการจัดงาน    จากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกข้อมูลจากผู้จัดงานและผู้เห็นเหตุการณ์โดยละเอียด จากนั้นนำศพส่งตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสกลนคร
 
ด้านนายพงษ์ทิพย์ บาลวงศ์ษา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟ   เดินทางมาที่เกิดเหตุ และกล่าวว่าการจัดงานครั้งนี้   เป็นการจัดขึ้นโดยชาวบ้านในหมู่บ้านร่วมใจกัน   ซึ่งหลังทราบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการถูกบั้งไฟพุ่งชนในบริเวณจัดงานตนได้รีบมาดูที่เกิดเหตุทันที เมื่อมาถึงก็ได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากผู้ใหญ่บ้าน โดยได้รับคำตอบว่า จุดเกิดเหตุที่บั้งไฟตก เป็นพื้นที่ห้ามเข้าโดยมีธงสีแสดงเขตอันตรายไว้ชัดเจน และขณะจุดบั้งไฟก็ได้มีการประกาศเตือนประชาชนที่มาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง แต่กลุ่มวัยรุ่นที่ก็ยังฝ่าฝืนไปนั่งบริเวณริมสระน้ำ เพื่อชมการจุดบั้งไฟอย่างใกล้ชิด โดยยไม่เชื่อฟังจากการเตือน
 
นายก อบต.ดงมะไฟ กล่าวว่า สำหรับ นายปรีดา วงนาตาล ผู้ตาย   เป็นราษฎรบ้านตากแดด หมู่บ้านที่ติดกันกับหมู่บ้านดงขวาง ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางมาเที่ยวงานบุญบั้งไฟกับเพื่อนอีก 5 คน และได้ชักชวนกันมานั่งดื่มสุราในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากอยู่กลางทุ่งนาและติดสระน้ำ จะได้มองเห็นบั้งไฟพุ่งขึ้นได้ชัดเจน แต่กลับเกิดเหตุการณ์สยดสยองขึ้น ในขณะที่นั่งดื่มสุราโดยไม่ทันระวังตัวเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อย่างละเอียด   เบื้องต้นทาง อบต.ดงมะไฟ ได้ให้การสนับสนุนน้ำดื่ม และน้ำแข็งเพื่อใช้ในการจัดงานศพก่อน ส่วนการมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้ตายนั้น จะนำเรื่องเข้าหารือกับชาวบ้านดงขวาง เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป ส่วนจะได้มากน้อยอย่างใดตนก็จะร่วมสมทบให้อีกจำนวนหนึ่ง

 

 
 
ต่างประเทศ
 
ศาลซาอุตัดสินแปลก ให้สามีตบหน้าภรรยา หากใช้จ่ายฟุ่มเฟือย กลุ่มสตรีรุมต้าน
แนวหน้า - ผู้ พิพากษารายหนึ่งในซาอุดีอาระเบีย เห็นชอบให้สามีตบหน้าภรรยาได้ ถ้ามีพฤติกรรมใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ก่อให้เกิดเสียงประท้วงจากกลุ่มเคลื่อนไหวสตรีในซาอุดีอาระเบีย
 
หนังสือพิมพ์ อาหรับ นิวส์ ในซาอุดีอาระเบีย รายงานอ้างถ้อยแถลงของนายฮาหมัด อัล ราซิน ผู้พิพากษาชาวซาอุดีอาระเบียซึ่งไปกล่าวในงามสัมมนาเรื่องความรุนแรงภายใน ครอบครัว โดยนายอัล ราซิน เห็นว่า สามีสามารถตบหน้าภรรยาได้ เพื่อเป็นการลงโทษที่ภรรยามีพฤติกรรมใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และที่ผ่านมา หลายคนมักเข้าใจว่า เหตุรุนแรงภายในครอบครัวมีต้นตอมาจากผู้ชายเพียงฝ่ายเดียว ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ผู้ชายและผู้หญิงควรมีส่วนรับผิดชอบร่วมกัน เนื่องจากบางครั้ง ผู้หญิงก็มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและมักใช้ถ้อยคำรุนแรงด่าว่าสามี จนเรื่องบานปลายกลายเป็นเหตุรุนแรงขึ้นมา
 
แต่ ถึงกระนั้น คำกล่าวของนาย อัล ราซิน ส่งผลให้ผู้หญิงที่เข้าร่วมงานสัมมนาต่างลุกขึ้นประท้วงในทันที พวกเธอตกใจและคิดไม่ถึงว่า คำพูดที่ให้สามีตบหน้าภรรยาได้จะออกมาจากปากของคนที่เป็นถึงผู้พิพากษา นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีในซาอุดีอาระเบียให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซี เอ็นเอ็น ย้ำว่า ไม่แปลกใจที่ผู้พิพากษาหรือนักการศาสนาสนับสนุนให้สามีตบหน้าภรรยาได้ เพราะผู้ชายในซาอุดีอาระเบียถูกปลูกฝังให้มองผู้หญิงเป็นเพศที่ด้อยกว่ามาโดยตลอด พวก เขาจึงรู้สึกว่า ไม่ผิดอะไรถ้าจะตบหน้าภรรยาตัวเองเป็นการสั่งสอน ทั้งนี้ สตรีซาอุดิอาระเบียยังคงถูกจำกัดสิทธิ์ต่างๆ ไม่ให้เท่าเทียมกับผู้ชาย
 
 
ปากีสถานถล่มตาลีบันหนีตายกว่า 3 แสน
เดลินิวส์ - กองทัพปากีสถาน ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีทั้งทางบกและทางอากาศต่อ นักรบตาลีบันในการสู้รบอย่างดุเดือดเมื่อวันจันทร์ ซึ่งทำให้ประชาชนชาวปากีสถานมาก กว่า 360,000 คน อพยพออกจากพื้นที่สู้รบในเขตหุบเขาสวอท ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกองทัพรัฐบาลยังยิงปืนใหญ่โจมตีสถานที่ซ่อนตัวของตาลีบันในหุบเขาดัง กล่าว ซึ่งเชื่อว่ามีนักรบตาลีบันประมาณ 4,000 คนกำลังสู้รบเพื่อควบคุม
 
ขณะ ที่ นายเรห์มาน มาลิค รัฐมนตรีมหาดไทยปากีสถาน กล่าวว่า จากการปฏิบัติการทางทหารของรัฐบาล ทำให้นักรบกลุ่มหัวรุนแรงเสียชีวิตไปกว่า 700 คน แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการ และเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับความสูญเสียที่เกิดกับพลเรือน ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวระบุว่า เกิดเหตุระเบิดพลีชีพรถยนต์ที่บริเวณจุดตรวจใกล้เมืองดาร์รา อาดัม เคล ทางตอนใต้ของเมืองเปชาวาร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 10 คน ซึ่งส่งสัญญาณที่ก่อให้เกิดความวิตกกังวลว่า ความรุนแรงอาจขยายวงกว้างออกจากพื้นที่สู้รบขึ้นไปทางเหนือของประเทศ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net