Skip to main content
sharethis

หลากหลายข้อสงสัยถึงความไม่ปกติทางจิต เรื่อยไปจนกระทั่งแนวคิดแบบ ทฤษฎีสมคบคิดว่าอะไรเป็นแรงขับดันให้ จอห์น วิลเลียม เย็ตตอว์ว่ายน้ำข้ามทะเลสาบอินยา เป็นระยะ 1 ไมล์ เข้าไปที่บ้าน นางอองซานซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลเพื่อสันติภาพและผู้นำฝ่ายค้านในพม่า ญาติยืนยันไม่ได้มีความผิดปกติทางจิต หรือมีความคิดทางการเมือง แต่ยอมรับเป็นสมาชิกของโบสถ์ของนักบุญ แลตเทอร์ เดย์ หรือ ศาสนาจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุดท้าย (The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints)

 

นาง เบ็ตตี้ เย็ตตอว์ ภริยาของนายจอห์น วิลเลียม เย็ตตอว์ กล่าวถึงการที่สามีของเธอถูกจับกุมตัวจากการว่ายน้ำเข้าไปที่บ้านนางอองซาน ซูจี ในช่วงเวลาเพียงไม่เกินสองอาทิตย์ก่อนจะหมดระยะเวลาการกักกันของนางอองซานซู จีว่า เป็นเรื่อง น่าหดหู่

 

 

 

ภาพ จากสำนักข่าวทางการของพม่า แสดงรูปของนายจอห์น วิลเลียม เย็ตตอว์ (กลาง) พบกับนายโคลิน เฟิร์สต กงสุลของสถานฑูตสหรัฐที่สถานีตำรวจกรุงย่างกุ้ง, ที่มา - อิระวดี/Reuters/MNA

 

 

เขาเป็นคนรักสนติ, มีความคิด, รู้จักให้อภัย, และเป็นคนสุภาพเรียบร้อย เขาต้องการให้เธอได้รับความปรารถนาดีนางเยตตอว์ให้สัมภาษณ์หน้าบ้านของเธอที่ แคมเดนตัน ในเซ้าท์-เซ็นทรัล มิสซูรี่ ฉันคิดว่า เขาคงไม่ตระหนักว่ามันกลับกลายเป็นเรื่องวุ่นวาย และต้องมีผู้มาเกี่ยวข้องมากมาย

 

บางทีเขาอาจจะคิดว่าเขาสามารถเข้าไปแล้วกลับบออกมาได้ โดยไม่มีใครรู้ เพราะเขาเคยทำมาก่อนแล้ว

 

เธอกล่าวว่านายเย็ตตอว์ เคยว่ายน้ำไปหานางอองซานซูจีเมื่อฤดูร้อนปีก่อนแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ที่บ้านนางซูจีกีดกันไม่ยอมให้เขาได้พบ ฉันคิดว่านี่เป็นแรงกระตุ้นทำให้เขากลับไปอีก เขาคิดว่าเขาสามารถเข้าไปแล้วกลับออกมาได้

 

จอห์น วิลเลียม เย็ตตอว์ วัย 53 ปี ถูกจับกุมเมื่ออาทิตย์ก่อน และถูกตั้งข้อหาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่ากระทำความผิดข้อหาเข้าไปในเขต หวงห้าม ซึ่งอาจถูกจำคุกถึงห้าปี นอกจากนี้ยังมีความผิดในข้อหาการหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งจะถูกจำคุกเป็นเวลาหนึ่งปี

 

 

 

ภาพนายจอห์น วิลเลียม เย็ตตอว์, ที่มา - อิระวดี/AFP

 

 

ด้านลูกสาวคนโต นส.คาร์ลี เย็ตตอว์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพฤหัสว่า ฉัน เดาว่าเขาไม่คิดว่ามันจะจบลงร้ายๆ แบบนี้ แต่ฉันไม่รู้หรอก ฉันกังวลกับชื่อเสียงของเขา แต่ฉันอยากยืนยันว่าเขาไม่ได้ป่วย และไม่ต้องการให้ใครได้รับอันตราย

 

กลุ่มผู้สนับสนุนนางซูจี กล่าวหารัฐบาลทหารว่าต้องการใช้กรณีนี้เพื่อให้นางซูจีถูกกักบริเวณก่อนที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นในปีหน้า

 

ด้านนางอิวอน เย็ตตอว์ อดีตภรรยาของนายจอห์น เย็ตตอว์ ซึ่งพำนักอยู่ที่ปาล์มสปริง แคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า นายจอห์นทิ้งบุตรสาววัย 10 ขวบ และบุตรชายวัยรุ่นสามคน ไว้ในเซาเทิร์น มิสซูรี ก่อนจะมาพบเธอแล้วบอกว่า เขาต้องเดินทางไปเอเชีย เพื่อทำงานวิจัยด้านจิตวิทยา เกี่ยวกับการให้อภัย เขามีการคุ้มกันบุตรของเขาจากคำสั่งศาล

 

เขามีลูก 4 คน แล้วเขาก็เดินทางออกจากประเทศไป ทิ้งลูกๆ ไว้กับเพื่อนเธอกล่าว

 

แต่เบตตี้ ก็กล่าวถึงนายจอห์น ว่าเป็นบิดาที่ดี รักลูกๆมาก และเพื่อนทุกคนรวมทั้งเธอต่างก็เป็นห่วงกับการเดินทางของเขา เขาไม่ได้บ้า แต่เขาออกจะประหลาดๆหน่อยๆเธอกล่าว

 

เธอ บอกว่า สามีของเธอไม่มีความคิดทางการเมืองทั้งสิ้น แต่สนใจศึกษาว่ามนุษย์จะรับมือกับความกดดันและการล่วงละเมิดในทุกกรณีได้ อย่างไร นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องการพูดคุยกับนางซูจี

 

เขาไม่มีเบื้องหลัง ในการเดินทางไปที่นั่นเธอกล่าว ฉันเชื่อว่า เขาแค่อยากจะได้ความเห็นจากนางซูจี

 

นายริชาร์ด เม โฆษกเจ้าหน้าที่สถานฑูตสหรัฐฯ กล่าวว่านายเย็ตตอว์ไม่มีทนาย แต่ทางสถานฑูตกำลังหาทนายที่พูดภาษาอังกฤษได้ให้เขาอยู่

 

เบตตี้ เย็ตตอว์กล่าว่า เธอส่งเงิน 630 เหรียญไปให้กับทนายความ เราไม่มีเงินมากนักหรอกเธอบอก และยังกล่าวว่า การเดินทางไปเอเชียรอบที่แล้วของนายเย็ตตอว์ยังไม่สามารถหาเงินมาแทนได้เลย

 

ส่วน นางอิวอนน์ เย็ตตอว์ กล่าวว่าอดีตสามีของเธอไม่ได้กล่าวอะไรถึงนางซูจี เมื่อเขามาพบและคุยกับเธอ เขาเพียงแต่กล่าวถึงงานวิจัยด้านจิตวิทยาและเล่าเรื่องการเดินทางของเขาน้อย มาก ฉัน ไม่รู้ว่านี่เป็นการระบายออกของเขาหรือเปล่า แต่เขาต้องการจะกลับไปเอเชียอาคเนย์ เขาต้องการเอกสารและข้อมูลบางอย่างเพื่อทำงานวิจัยเกี่ยวกับการให้อภัยกับ บาดแผลทางจิตใจเธอกล่าวเพิ่มว่า เขาเพียงแต่พูดว่าเขาต้องไปและเขาวางแผนจะกลับประเทศในวันที่ 24 มิถุนายน

 

จอห์น เย็ตตอว์ อ้างว่าเขาเป็นนักศึกษา สถาบันฟอเรสต์ในสปริงฟิลด์ มิสซูรี แต่เจ้าหน้าที่ของสถาบันนี้ บอกว่าทางสถาบันการศึกษาด้านจิตวิทยาชั้นสูง ซึ่งมีนักศึกษาลงทะเบียน 250 คน ไม่มีชื่อนายเย็ตตอว์ลงทะเบียนอยู่ และไม่เคยได้รับปริญญาจากที่นี่ ส่วนนางเบตตี้ก็กล่าวว่า สามีของเธอกำลังเรียนเกี่ยวกับด้านจิตวิทยาแต่ไม่ได้ลงทะเบียนในสถาบันฟ อร์เรสต์แต่อย่างใด

 

อิวอนน์ เย็ตตอว์กล่าวว่าเธอแต่งงานกับจอห์น เย็ตตอว์เมื่อ 12 ปีก่อน และหย่าขาดจากกัน ในปี 2002 (พ.ศ. 2545) พวกเขามีลูกด้วยกันหกคน บุตรชายคนหนึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์เมื่อปี 2007 (พ.ศ. 2550) เธอยังกล่าวด้วยว่าเขาได้รับเงินบำนาญทุพพลภาพทหารผ่านศึก และรับจ้างงานทั่วไป

 

เธอยังกล่าวด้วยว่าครอบครัวของเธอเป็นสมาชิกของโบสถ์ของนักบุญ แลตเทอร์ เดย์ หรือ ศาสนาจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุดท้าย (The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints) และยังบอกด้วยว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะไปเผยแพร่ศาสนา หรือทำให้นางซูจีต้องเปลี่ยนศาสนา

 

นายเย็ตตอว์ยังมีโรคเบาหวาน และโรคหืดหอบประจำตัว และยังลดน้ำหนักไป 70 ปอนด์ เขามีโรคหืดหอบที่ร้ายแรงมาก ฉันจึงค่อนข้างประหลาดใจที่เขาว่ายน้ำได้ไกลขนาดนั้นเธอ ยังกล่าวด้วยว่าเจ้าหน้าที่อเมริกันเล่าให้เธอฟังว่า เขาได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดีในคุก และเจ้าหน้าที่ก็คอยดูแลเขาเรื่องโรคเบาหวานให้ด้วย

 

ที่มา - อิระวดี

 

 

หมายเหตุ http://www.siamintelligence.com แปลจาก สำนักข่าวเอพี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net