Skip to main content
sharethis

 

23 .. 52 - หลัง จากที่รัฐบาลพยายามหารายได้ด้วยการขึ้นภาษีสรรพามิตน้ำมัน ภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และภาษีบุหรี่ เพื่อหารายได้เข้ารัฐเพิ่มปีละประมาณ 7 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่การจัดเก็บภาษีของ 3 กรมหลักคือกรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิตต่ำกว่าเป้าจากที่คาดทั้งปีไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านบาท ล่าสุดกระทรวงการคลังสั่งให้กรมธนารักษ์เก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุเพิ่มรายได้เข้ารัฐ

สั่งรีดค่าเช่าที่ราชพัสดุ2 หมื่นล./ปี
สืบเนื่องจากที่ นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง ได้ให้สัมภาษณ์หลังร่วมงานครบรอบ
76 ปี กรมธนารักษ์ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ว่า ได้มอบนโยบายให้ผู้บริหารกรมธนารักษ์พัฒนาพื้นที่ราชพัสดุ เพื่อใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่วนหนึ่งจะทำให้มีรายได้เข้ากรมธนารักษ์มากขึ้นเพื่อนำไปใช้บริหาร ราชการของรัฐบาล โดยตั้งเป้าหมายให้กรมธนารักษ์หารายได้เข้ารัฐประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี จากปกติมีรายได้ 3,000-4,000 ล้านบาท

ชาวบ้านร้องจ๊าก! ต้องจ่ายเพิ่มก่อนสิ้นปี
รมช.คลัง กล่าวว่าการเพิ่มรายได้ดังกล่าวจะมาจากการปรับขึ้นค่าเช่าที่ราชพัสดุ โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เช่น ในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งมีประมาณ
5,000 แปลง เพราะค่าเช่าที่ราชพัสดุใช้มาเป็นเวลานานในราคาที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับค่า เช่าที่ดินของภาคเอกชน จึงต้องการปรับเพิ่มค่าเช่าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่จะดูให้เป็นธรรมทั้งในเชิงพาณิชย์และเชิงสังคมเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้ น้อย คาดว่าเมื่อศึกษาแล้วเสร็จจะปรับค่าเช่าได้ภายในสิ้นปีนี้

เล็งพัฒนาทำเลทองทำรายได้
นพ.พฤติ ชัย กล่าวว่านอกจากนี้ได้ให้กรมธนารักษ์พัฒนาที่ดินของรัฐในทำเลที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มมูลค่าจากทรัพย์สินดังกล่าว จากแผนที่วางไว้มีอยู่
4-5 แปลง เช่น พื้นที่ตรงข้ามสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 บริเวณวัดไผ่ตัน บริเวณศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี เพื่อพัฒนาเป็นอาคารสูงให้เช่าเป็นอาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัยของประชาชน และข้าราชการ สำหรับที่ราชพัสดุในจ.ภูเก็ต จะใช้เป็นศูนย์ประชุมนานาชาติ การพัฒนาดังกล่าวน่าจะทำให้รายได้เข้าสู่รัฐมากขึ้นสำหรับการพัฒนาที่ดิน บริเวณสถานีขนส่งหมอชิตเดิม กรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้สนใจเข้าพัฒนาสร้างเป็นอาคารจอดรถและสถานีบริการผู้โดยสารเพื่อเชื่อมต่อ รถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟใต้ดินเข้าด้วยกัน ซึ่งจะมีการหารือร่วมกันในเร็ว ๆ นี้

นพ.พฤติชัย กล่าวด้วยว่า ได้ให้กรมธนารักษ์เร่งประเมินราคาที่ดินทั้งหมด 30 ล้านแปลงให้เสร็จภายในปีนี้ หลังจากประเมินได้แล้ว 5.8 ล้านแปลง เพื่อจัดทำฐานข้อมูลรองรับการบังคับใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพราะถือว่าเป็นฐานข้อมูลที่มีความจำเป็นมากในการเป็นฐานอ้างอิงเก็บภาษีของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)

         

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: หนังสือพิมพ์แนวหน้า, โพสต์ทูเดย์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net