Silence of the Lamp: คำตอบที่ผมได้จากนายกสมาคมนักข่าวฯ กรณีเสถียร จันทิมาธร

 

เมื่อวันที่28 .. ผู้เขียนได้รับเชิญไปร่วมเสวนาเรื่องสื่อและประชาธิปไตยในวิกฤต: บทบาทและความรับผิดชอบของสื่อซึ่งที่นั้นผู้อภิปรายชาวเยอรมันชื่อดร.วูลฟ์เกง ชูลส์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสื่อจากมหาวิทยาลัยฮัมบวร์ก ได้พูดถึงกรณีเหตุการณ์ในเยอรมันว่าเมื่อไม่นานมานี้มีบรรณาธิการของสถานีโทรทัศน์เยอรมันช่องหนึ่งได้ถูกกดดันให้ออกเพราะจุดยืนทางการเมืองซ้ายจัด แต่ในที่สุดก็รอดเพราะมีการรณรงค์เพื่อปกป้องเขา ซึ่งในที่นี้รวมถึงบรรณาธิการและนักข่าวที่มีจุดยืนขวาจัดเข้าร่วมรณรงค์ด้วยซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตระหนักเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกโดยคนที่มีความเห็นทางการเมืองแตกต่างกันแต่ก็ยังยอมรับว่าสิทธิในการแสดงออกเป็นเรื่องสำคัญและจำต้องปกป้องสิทธิของผู้ที่เห็นต่างจากตนเองด้วย
 
ได้ยินเช่นนี้ผู้เขียนจึงนึกถึงกรณีข่าวจากเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ว่าด้วยการปลดนายเสถียร จันทิมาธรออกจากตำแหน่งเพียงเพราะมีจุดยืนทางการเมืองสนับสนุนฝ่ายแดงพอตอนท้ายรายการ ผู้เขียนจึงถือโอกาสถามนายประสงค์เลิศรัตนวิสุทธิ์บรรณาธิการจากเครือมติชนและนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมอภิปรายว่านายประสงค์คิดอย่างไรกับกรณีข่าวปลดนายเสถียรเมื่อเทียบกับกรณีเยอรมันที่ได้ฟังมา
 
นายประสงค์ได้ตอบผู้เขียนว่าข่าวนั้นไม่จริงจึงไม่จำเป็นต้องตอบอะไร แถมนายประสงค์ตั้งข้อกังขาถึงเจตนาของผู้เขียนว่าทำไมถึงถามเช่นนั้นและพูดต่อไปว่าแล้วคุณเชื่อผู้จัดการหรือผู้เขียนไม่ได้ตอบแต่ได้ถามย้อนกลับไปว่าหากเป็นเช่นนั้นทำไมมติชนจึงไม่มีการแก้ข่าวหรือชี้แจงต่อสาธารณะ
 
ไม่ต้องแก้ข่าวคือคำตอบของนายประสงค์ซึ่งท่าทางไม่พอใจต่อผู้เขียนพอสมควรและยกตัวอย่างอีกว่าหลายฉบับ รวมทั้งหนังสือพิมพ์อย่างคมชัดลึกก็เขียนคอลัมน์ให้ข้อมูลอย่างผิดๆแต่ก็ไม่เห็นมีใครแก้ข่าวและบอกว่าให้ประชาชนตัดสินว่าใครน่าเชื่อถือกันเอง
 
(นายกสมาคมนักข่าวฯดูไม่แฮปปี้กับคำถามทั้งๆ  ที่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เขาพูดเองในช่วงอภิปรายว่าสื่อควรได้รับการตรวจสอบจากกลุ่มอื่นๆอย่างเช่นกลุ่มมีเดียมอนิเตอร์มากขึ้นและสื่อควรรับฟังเผยแพร่ผลของการตรวจสอบ ... มันจึงทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่านี่เป็นตลกร้าย)
 
ผู้เขียนพยายามจะถกต่อแต่ก็ถูกตัดบทโดยผู้ดำเนินการอภิปรายและด้วยความเคารพต่อผู้ดำเนินการอภิปรายก็จึงหยุดแต่ก็อดคิดต่อไปไม่ได้และถ้าหากพูดต่อไปได้ก็คงจะพูดว่าคุณเป็นนายกสมาคมนักข่าวฯแต่กลับรู้สึกว่าเวลามีการให้ข้อมูลผิดกลับไม่ต้องแก้ข่าวและถ้าการไม่แก้ข่าวเป็นเรื่องปกตินั้นผมก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรเพราะสังคมจะไปหวังเรื่องความโปร่งใสและการตรวจสอบและความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้อย่างไรในเมื่อสื่อเองไม่ให้ความสำคัญกับความผิดพลาดของข้อมูลซึ่งผู้เขียนเช็คทางอื่นก็ยังคงมีการยืนยันว่ามีการจัดการกับฝ่ายซึ่งสนับสนุนหรือเห็นใจเสื้อแดงในเครือมติชน
 
แทนที่จะบอกว่ามาตรฐานต่ำๆของสื่อที่ไม่ยอมแก้ข้อมูลหรือชี้แจงนั้นควรเปลี่ยนและปรับปรุงได้แล้วแต่นายกสมาคมนักข่าวฯกลับอ้างว่าในเมื่อสื่อหลายฉบับก็ปฏิบัติเช่นนี้โดยไม่ยอมชี้แจงหรือแก้ข้อมูลจึงเป็นเรื่องที่ยอมรับได้และถ้าเกิดข้อมูลเอเอสทีวีผู้จัดการผิดจริงทำไมสมาคมฯไม่ออกมาตรวจสอบและวิจารณ์
 
และอีกประการหนึ่งคุณประสงค์ไม่คิดเหรอว่าคนเสื้อเหลืองจำนวนมากย่อมเชื่อข้อมูลของเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์อย่างมิต้องสงสัยนี่ยังไม่รวมถึงคนเสื้อแดงอีกไม่รู้กี่แสนที่ทราบข่าวนี้แล้วคงรู้สึกสะเทือนใจและโกรธแค้นและถ้าคุณประสงค์คิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ต้องชี้แจงหรือแก้ไขผมว่าก็คงปฏิเสธได้ยากว่าสื่อกระแสหลักอย่างมติชนและความคิดอย่างนี้ในกลุ่มผู้นำสมาคมนักข่าวฯก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความยุ่งเหยิงขัดแย้งทางการเมืองที่มีอยู่ในปัจจุบัน
 
และอีกอย่างการที่คุณประสงค์พูดว่าแล้วคุณเชื่อผู้จัดการหรือเป็นการพูดเหมารวมที่น่าสะเทือนใจมากเสมือนว่านักข่าวและบรรดาบรรณาธิการในเึครือผู้จัดการทั้งหมดเสนอแต่สิ่งที่เป็นเท็จถ้าผู้เขียนเข้าใจไม่ผิดผู้จัดการก็เป็นสมาชิกสมาคมนักข่าวฯด้วยมิใช่หรือการพูดเช่นนี้รู้สึกจะหยาบเหมารวมและไม่ให้เกียรติเป็นอย่างยิ่ง
 
00000
 
 
ป.ล.1 และมันก็น่าเสียดายที่คุณประสงค์คิดได้แต่เรื่องว่าใครที่ถามคำถามเช่นนี้มีเจตนาแอบแฝงหรือไม่เพราะในโลกที่คนคิดเช่นนี้ย่อมหนีไม่พ้นการที่จะมีคนตั้งคำถามว่า แล้วการที่คุณประสงค์ไปเป็นนายกสมาคมนักข่าวฯนั้นมีเจตนาอะไรแอบแฝงหรือไม่ หรืออาจสรุปไปว่าคุณประสงค์ตอบเช่นนี้มีเจตนาปกปิดอะไรหรือเปล่า
 
ผู้เขียนก็แค่เป็นห่วงมติชนและสื่อมวลชนโดยรวมเท่านั้นแหละแต่คำตอบที่ได้รับจากคุณประสงค์ก็ยิ่งทำให้ผู้เขียนกังวลยิ่งขึ้น เพราะ บรรดาสื่อที่เรียกร้องความโปร่งใส เรียกร้องให้มีการตรวจสอบองค์กรและกลุ่มคนต่างๆ ในสังคมกลับดูเหมือนจะทำตัวเป็นข้อยกเว้นเสียเอง
 
ถ้าคิดเช่นนี้ก็มิจำเป็นต้องมีข่าวสืบสวนสอบสวน มิจำเป็นต้องมีการตรวจสอบองค์กรสถาบันอื่นๆ แบบสื่อ เพราะใครจะเชื่ออะไรก็เชื่อไป
 
ป.ล.2 หลังจากเหตุการณ์ซักถามคุณประสงค์ได้จบลง ผู้เขียนก็ได้พยายามถามนักข่าวที่เชื่อถือได้ว่าความจริงเรื่องคุณเสถียร เป็นอย่างไรกันแน่ นักข่าวบางกอกโพสต์ระดับแนวหน้าผู้เคยได้รับรางวัลระดับนานาชาติผู้หนึ่งบอกผู้เขียนว่า ก็จริงอย่างที่เป็นข่าวน่ะแหละ เพราะตัวเธอนั้นมีเพื่อนอยู่ที่มติชนและก็คอนเฟิร์มเรื่องนี้ ส่วนนักข่าวรุ่นพี่อีกคนที่สอบถามไป ถึงขนาดกล่าวหาว่า นายประสงค์์ “ตอแหล” ต่อหน้าสื่อหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุจำนวนมากในวันนั้น
 
ผู้เขียนแทบไม่อยากเชื่อว่าคนที่เป็นนายกสมาคมนักข่าวฯ จะสามารถโกหกซึ่งๆ หน้าต่อหน้าผู้คนจำนวนมากได้อย่างหน้าตาเฉย
 
ในขณะเดียวกันผู้เขียนก็คิดว่า คงถึงเวลาแล้วที่คนอย่างคุณเสถียร จันทิมาธร ผู้ถูกพาดพิงจะออกมาชี้แจง แน่นอนผู้เขียนตระหนักดีว่าเคยมีคนบอกผู้เขียนว่าที่มติชนเขาอยู่กันอย่าง “พี่น้ิอง” ซึ่งหมายถึงวัฒนธรรมระบบอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึก จึงไม่แน่ใจว่าจะรู้ความจริงเรื่องนี้อย่างแท้จริงได้อย่างไร
 
แล้วอีกอย่างสังคมไทยมักชอบพูดอย่าง แต่ทำอีกอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในหลายวงการ ผู้เขียนจึงไม่แน่ใจว่าใครโกหกกันแน่ระหว่างข่าวผู้จัดการหรือนายประสงค์
 

ป.ล. 3 ผู้เขียนได้รับอีเมลเป็นภาษาอังกฤษจากอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ท่านหนึ่งว่าด้วยบทความ จึงอยากแชร์กับผู้อ่าน แต่ขอสงวนนามตัวอาจารย์ไว้ ณ ที่นี้


Dear Pravit,
Thank for your article on Prasong's response to your question on Sathien-Chulalak. That's exactly the answers he gave me when I gave a talk at the TJA's Media Freedom day. I raised the question why there was no action from the TJA regarding the Matichon -VS- Sathien-Chulalak issue. Prasong responded to me, behind the stage, with an irritating voice that: Then you also believe in the Manager's report? Phii Chang (Khanchai) and Phii Sathien are very closed and been working together for a long time, nothing would destroy to their relationship. Lately Sathien was not in charge of the newspaper, someone else did. Matichon only used his name, bla bla bla.
If Prasong as the TJA chairmand and those who run the TJA don't have guts nor credibility, what else could we expect from the media in general. Anyway, your article simply pounded on their integrity. Thanks.

 

…………………………………
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
 

 

หมายเหตุ เพิ่มเติมข้อมูลล่าสุดโดยผู้เขียน เมื่อ 20.25น. วันที่ 3 มิ.ย.52

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท