อับดุลสุโก ดินอะ เขียนถึงกรณีศาลอาญาไม่รับคำร้องญาติจากเหตุการณ์ตากใบซึ่งมีผู้เสียชีวิต 78 ศพ ซึ่งสิ่งที่ตามมาอาจเป็นการไม่ยอมรับและปฏิเสธกระบวนการยุติธรรมไทยในที่สุด
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตากรุณาเสมอ ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสดามูฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีแด่ผู้อ่านทุกท่าน
การที่ศาลอาญาไม่รับคำร้องญาติเหยื่อตากใบ 78 ศพที่ยื่นขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลจังหวัดสงขลาในคดีไต่สวนการตายที่ระบุผู้ตาย 78 คนเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ โดยเจ้าหน้าที่ที่สลายการชุมนุมปฏิบัติราชการตามหน้าที่ อาจจะนำไปสู่การไม่ยอมรับและปฏิเสธกระบวนทางกฏหมายและกระบวนการยุติธรรมของผู้ได้รับผลกระทบ ญาติผู้เสียชีวิต แนวร่วมและชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในที่สุด
ผู้เขียนได้มีโอกาสฟังการบรรยายของ นายอนุกูล อาแวปูเตะ ประธานศูนย์ทนายความมุสลิมประจำจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นทนายในพื้นที่ที่กรุณาเล่าถึงประสบการณ์การทำงานด้านนี้[1] ซึ่งท่านกรุณาอธิบายให้ผู้เขียนและผู้ร่วมสัมมนาได้ฟังพอสรุปใจความได้ว่า “ ปัญหาความไม่เป็นธรรมเป็นเรื่องใหญ่ในจังหวัดชายแดนภาคภาคใต้ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องยอมรับ โดยเฉพาะคดีตากใบแต่ความไม่เป็นธรรมเป็นเพียงนามธรรมเท่านั้น และกรอบของความไม่เป็นธรรมใหญ่มาก เช่น ความไม่เป็นธรรมเชิงโครงสร้าง ความไม่เท่าเทียมทางสังคม ทางเศรษฐกิจ และทางการเมือง การปฏิบัติที่ไม่เหมือนกันต่อผู้ที่นับถือศาสนาต่างกัน หรือต่อคนต่างเชื้อชาติ แต่ความไม่เป็นธรรมที่เห็นเป็นรูปธรรมที่สุดก็คือการถูกกล่าวหาและดำเนินคดีโดยไม่ได้กระทำความผิดจริง เป็นความไม่เป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมองเห็นเป็นรูปธรรม และเป็นความเจ็บปวดที่บาดลึกลงไปในหัวใจ ทั้งต่อตนเองและญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และหากความไม่เป็นธรรมนี้เกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา ก็จะขยายวงกว้างไปอีก ถึงแม้คนของหน่วยความมั่นคง รัฐหรือรัฐบาลจะยอมรับในข้อเท็จจริงนี้ การแก้ปัญหาก็เป็นเพียงนามธรรมเช่นเดียวกัน ไม่ได้ปรากฏการแก้ปัญหาในกระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นรูปธรรม และสุดท้ายก็ต้องยอมรับในระบบว่าประเทศไทยเป็นระบบกล่าวหา หากถูกกล่าวหาโดยเจ้าหน้าที่ก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธต่อสู้คดีในชั้นศาล เพราะปลายทางของคดีอยู่ที่ศาลจะพิจารณาตัดสิน โดยไม่ได้พูดถึงว่าสิ่งที่เขาสูญเสียไปในระหว่างการพิจารณาคดีกับความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่นั้น รัฐจะชดเชยอย่างไร และจะแก้ปัญหาอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ทั้งหมดนี้เป็นการเล่าสู่กันฟังในฐานะที่อยู่ในวงการและมีประสบการณ์ในคดีความมั่นคงและทนายความเป็นวิชาชีพหนึ่งที่มีหน้าที่ในการปกป้องสิทธิของผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม” ท่านได้อธิบายต่อว่า “ เจ้าหน้าที่ไม่อาจที่จะปฎิเสธทนายความได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้คดีในศาลจะต้องมีทนายในการแก้ต่าง โดยเฉพาะคดีความมั่นคงเป็นคดีที่มีโทษหนัก ย่อมต้องให้ทนายความเข้าไปมีบทบาทตั้งแต่แรกในเบื้องต้น นอกจากนี้มีความรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ที่มีรายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคงว่า ภายหลังที่มีคำพิพากษาคดีตากใบ เหตุการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะยิ่งหนัก และผู้พิพากษาที่พิจารณาคดี รวมทั้งอัยการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะถูกหมายหัวจากผู้ก่อความไม่สงบ เพราะคดีตากใบเป็นเพียงคดีหนึ่งของอีกหลาย ๆ คดีที่เกี่ยวกับความมั่นคง แม้ความไม่เป็นธรรมจะเป็นเหตุของความไม่สงบ แต่คำพิพากษาของศาลมันไม่ใช่ผลที่ทำให้มีเหตุการณ์รุนแรง เพราะปัจจัยที่ทำให้มันรุนแรง ไม่รุนแรง ทรง ๆ ทรุด ๆ ไม่รู้จริง ๆ มาจากสาเหตุอะไร หากจะบอกว่าผลของคำพิพากษาในคดีตากใบ ทำให้เหตุการณ์มีความรุนแรงขึ้น แล้วหลังเหตุการณ์ตากใบที่เกิดตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ จนศาลมีคำพิพากษา ปี ๒๕๕๒ ในระหว่างรอคำพิพากษาแล้วเหตุใดเหตุการณ์ยังเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ และจะอธิบานได้อย่างไรว่าในอีกหลาย ๆ คดีที่ศาลให้ความปรานีพิพากษายกฟ้องจำเลยแล้ว เหตุการณ์ความรุนแรงก็ยังคงเกิดขึ้น นอกจากนี้ในกรณีที่ศาลพิพากษายกฟ้องจำเลยแล้วปล่อยตัวไป น่าจะเป็นที่พอใจของผู้ก่อความไม่สงบ แต่เหตุการณ์ก็ยังเกิดขึ้นอีก สุดท้ายจะอธิบายอย่างไร ในคดีที่จำเลยถูกจับกุมดำเนินคดีและต้องถูกขังระหว่างพิจารณา เมื่อศาลพิพากษายกฟ้องปล่อยตัวไปแล้ว ก็ถูกฆาตรกรรมโดยผู้ก่อความไม่สงบอีกเช่นเดียวกัน”
ในขณะที่อีกวงสัมมนาหนึ่งที่ผู้เขียนได้มีโอกาสร่วมเสวนาเช่นกันคือ โครงการเวทีเสวนายุติการทรมาน ยุติอาชญากรรม คือ ยุติความอยุติธรรม[2]ในเวทีผู้ได้รับผลกระทบได้สะท้อนความไม่ยุติธรรมที่เขาได้รับจาการซ้อมทรมานทั้งที่ประเทศไทยโดยรัฐ ได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี (Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment: CAT) หรืออนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ ในวันที่ 2 ตุลาคม 2550 แต่จากเหตุการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน การจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย การสอบสวนด้วยวิธีที่รุนแรง ในหลายกรณีมีการทรมานหรือการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี (การทรมาน) เพื่อให้ผู้ต้องสงสัยยอมรับสารภาพ หรือให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ การกระทำเหล่านี้เป็นการกระทำที่ผิดต่อสัตยาบันที่ได้ให้ไว้ตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯในขณะที่ผู้ใหญ่จากความมั่นคงก็ยอมรับเพียงแต่ขอความเห็นใจจากผู้เข้าร่วมประชุมว่าผู้กระทำเป็นเจ้าหน้าที่นั้นส่วนน้อยเท่านั้นและทางหน่วยเหนือได้ลงโทษไปแล้วและผู้ใหญ่ในหน่วยความมั่นคงรับปากว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีกแต่หากเกิดขึ้นอีกนั้นจะจัดการขั้นเด็ดขาด
นี่คือภาพสะท้อนจากสองเวทีที่ผู้เขียนได้รับที่สรุปตรงกันว่าชาวบ้านยังคงได้รับความไม่ยุติธรรมที่เป็นรูปธรรมตลอดมาทั้งหนักบ้าง น้อยบ้าง ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว
ภาพข่าวที่ผู้เขียนได้เห็นวันที่บรรดาสตรีทั้งสูงอายุและวัยรุ่น หรือเป็น ญาติผู้เสียชีวิตในคดีตากใบเดินทางไปยื่นคัดค้านและขอความเป็นธรรมจากคำสั่งศาลกรณีไต่สวนการตายของผู้เสียชีวิต 78 คนในเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส ในวันจันทร์ที่ 29 มิ.ย.2552 นี้ ที่ศาลอาญา กรุงเทพฯ เป็นภาพการต่อสู้ที่พวกเขายังมีความหวังในกระบวนการยุติธรรมไทย แต่การที่ศาลไม่รับคำร้อง และถ้าเหตุการณ์ความไม่ยุติธรรมยังคงดำรงอยู่ ตลอดทั้งพวกเขาผิดหวังเชิงประจักษ์กับกระบวนการศาลไทยหลายๆครั้งเมื่อไร อาจจะผลักให้พวกเขา ชาวบ้านและแนวร่วมไม่ยอมรับและปฏิเสธกระบวนทางกฏหมายและกระบวนการยุติธรรมไทยในที่สุดก็เป็นได้
________________________________________
[1] ผู้เขียนได้เข้าประชุมร่วมกับโต๊ะครู ทนายความมุสลิม กรรมการอิสลามและเจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชนจากส่วนกลาง เมื่อวันที่ 15-16 มิถุนายน 2552 ณ โรงแรมซีเอส จังหวัดปัตตานี
[2] วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2552 ณ อาคารวิทยาลัยอิสลามมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีจัดโดยมูลนิธิผสานวัฒนธรรมโดยมีวิทยากรรับเชิญ
ช่วงที่ 1
ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากการทรมาน
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บิน ชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยทักษิณ ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา
นายปรีดา นาคผิว ตัวแทนทนายความคดีตากใบ
นางยานะ สาลาแม ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบกรณีตากใบ
นายอิสมาแอล เตะ นักกิจกรรม
ช่วงที่ 2
พลโท กสิกร คีรีศรี ผู้บังคับการกองกำลังพลเรือนตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท)
พล.ต.ตรีนราศักดิ์ เชียงสุข ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ศปกตร. จชต
นายอับดุลเราะมาน มอลอ นายกองค์การบริหารองค์การนักศึกษา
นายอับดุลอาซิซ ตาเดร์อิน อุปนายกฝ่ายสิทธิมนุษยชน สมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย
คุณพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)