Skip to main content
sharethis
เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 52 ที่ผ่านมา กลุ่มพนักงานผลิตอุปกรณ์ตัดไฟยี่ห้อเซฟทีคัท บริษัท ซี.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนล อิเล็กทรอนิกส์ จำกัด เลขที่ 999/47/48 หมู่ 9 ถนนสุขุมวิท ต.เทพรักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ประมาณ 300 คน ปิดถนนช่องทางด้านซ้ายของถนนเทพารักษ์ หน้าสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง ขอความเป็นธรรมหลังถูกนายจ้างปลดออกโดยไม่ยอมจ่ายค่าชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด
นายสุวัฒน์ กิจเจริญวัฒน์ วิศวกรวิจัยพัฒนา ตัวแทนพนักงานบริษัท ซี.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนลฯ กล่าวว่า มาชุมนุมเพื่อให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชิญผู้บริหารบริษัทมาเจรจา หลังพนักงานบริษัทในเครือ 3 แห่ง ที่ จ.สมุทรปราการ 2 แห่ง และ จ.ชัยนาท 1 แห่ง รวม 200 คน ถูกนายจ้างปลดออกโดยไม่มีการจ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่พนักงานแต่อย่างใด
"พนักงานที่ถูกปลดเคยเจรจากับนายจ้างมาแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด หากนายจ้างยังไม่มาตามคำเชิญของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด พนักงานทั้งหมดจะเคลื่อนขบวนเข้ายื่นหนังสือต่อนายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต่อไป" นายสุวัฒน์กล่าว
ด้านนายปฐม เพชรมณี เจ้าพนักงานสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ติดต่อไปยังนายจ้างแล้วแต่ไม่สามารถติดต่อได้
ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ยื่นเปลี่ยนสภาพการจ้าง ลดสวัสดิการต่างๆ
ก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายมนัส ชุบชื้น ประธานสหภาพแรงงานบริษัท ซี.เอส.เซฟ ที คัท จำกัดเปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกสหภาพฯ ว่า บริษัท ซี.เอส.เซฟทีคัท ยื่นข้อเสนอเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างโดยยกเลิกสวัสดิการแก่พนักงาน อาทิ เบี้ยขยัน โบนัสประจำปี การทำประกันชีวิต กองทุนเงินสะสม ลดค่าจ้างจากเดิมลงร้อยละ 30 ตลอดจนลดวันทำงานปกติให้เหลือเพียง 3 วันต่อสัปดาห์ โดยอ้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและลดต้นทุนการผลิต
"สมาชิกของสหภาพและลูกจ้างจำนวน 36 คน ที่บริษัทยื่นข้อเสนอดังกล่าวไม่เข้าใจในขั้นตอนการเจรจาจึงไม่ได้ส่งผู้แทนเจรจาเป็นเหตุปิดงานโดยไม่จ่ายค่าจ้าง ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม" นายมนัสกล่าว
นายมนัสกล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพนักงานฝ่ายผลิตบริษัท ซี.เอส.เซฟทีคัทอีกกว่า 300 คน ไม่มั่นใจในสถานภาพของตนเอง ว่าจะได้รับเงินเดือนหรือไม่ มีผลกระทบต่องานด้านบริการตรวจซ่อมบำรุงดูแลเครื่องตัดไฟจำนวนนับล้านเครื่องที่จำหน่ายออกไปทั่วภูมิภาค
"ผมวิงวอนองค์กรภาครัฐที่รับผิดชอบช่วยดำเนินการข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการกลางเข้ามาไกล่เกลี่ยปัญหาข้อขัดแย้งดังกล่าวให้ยุติโดยเร็ว" นายมนัสกล่าว
ผู้บริหารรับตลาดซบรุกบริการใหม่ ดูแลครบวงจรหวังดันยอดขาย
เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 52 ที่ผ่านมานายจุมพล ภัทรศุภกุล ผู้จัดการฝ่ายเซอร์วิสเซ็นเตอร์ บริษัท เซฟ-ที-คัท (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ข่าวสดว่า จากนโยบายของนายชวาล โสตถิวันวงศ์ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริษัทที่ต้องการให้บริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบกระแสไฟฟ้าร่วงที่จะให้การดูแลอย่างครบวงจร ทำให้บริษัทมีแผนจะเพิ่มบริการใหม่สำหรับตรวจสอบระบบกระแสไฟฟ้าและดูแลแบบครบวงจรกับทางอาคารพาณิชย์ สำนัก งานต่างๆ บ้านที่อยู่อาศัย และโครงการหมู่บ้านจัดสรร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดการวางระบบงานอยู่ และตั้งทีมใหม่เข้ามาดูแลโดยเฉพาะ คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้อย่างจริงจังในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างทดสอบระบบ และวางรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะต้องให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า
พร้อมกันนี้ในเบื้องต้นบริษัทจะขยายพื้นที่ให้บริการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลก่อน ส่วนพื้นที่ในต่างจังหวัดจะประสานกับทางตัวแทนจำหน่ายที่มีช่างผู้ชำนาญงานเข้าไปให้บริการ ซึ่งการลงทุนในส่วนบริการดังกล่าวใช้งบประมาณไม่มาก มีเพียงเครื่องมือ และทีมงานเท่านั้น บริการดังกล่าวจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์สินค้าของเซฟทีคัทได้มากยิ่งขึ้น และเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทด้วย เนื่องจากต้องยอมรับว่าตลาดในขณะนี้ค่อนข้างเงียบ จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้บริษัทต้องเพิ่มรายได้จากการเพิ่มบริการใหม่แทนการจำหน่ายตัวสินค้า
สำหรับยอดขายในปีที่แล้วบริษัทยังสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ เติบโตประมาณ 7-10% เท่ากับปีก่อน ซึ่งในช่วงต้นปีสามารถทำยอดขายได้ดี แม้ว่าในช่วงเดือน พ.ย.และ ธ.ค.ที่ผ่านมายอดขายลดลง เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองจากเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ อีกทั้งบริษัทมีปัญหาเรื่องการผลิตที่ไม่เพียงพอต่อยอดการสั่งซื้อ และปัญหาดังกล่าวทำให้โรงงานใหม่ที่ จ.ชัยนาท ไม่สามารถแล้วเสร็จได้ทันตามที่กำหนด แต่ขณะนี้สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องการผลิตได้แล้ว

 
ประวัติ บริษัท เซฟ-ที-คัท (ประเทศไทย) จำกัด
 
บริษัท เซฟ-ที-คัท (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้การบริหารงานโดย ดร. ชวาล โสตถิวันวงศ์ เป็นผู้ผลิตคิดค้นเครื่องตัดไฟฟ้าอัตโนมัติ เซฟ-ที-คัท "ตัดก่อนตาย เตือนก่อนวายวอด" ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2518 เพราะมีโอกาสเห็นคนถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต จึงเกิดความคิดว่าน่าจะทำอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยจากการใช้ไฟฟ้า โดยใช้เวลาศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้รสามปีในที่สุดก็ได้ผลิตเครื่องตัดไฟเครื่องแรกขึ้น เพื่อความปลอดภัยจากการใช้ไฟฟ้า โดยได้ศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เซฟ-ที-คัท จะเน้นคุณภาพมาก่อนและเน้นความคงทนใช้งานนานปี ทำให้เป็นที่ไว้วางใจของผู้บริโภค ปัจจุบันส่วนแบ่งการตลาดมีมากกว่า 80% ของตลาดสินค้าเพื่อความปลอดภัยในประเทศไทย
 
บริษัท เซฟ-ที-คัท (ประเทศไทย) จำกัด มีผลิตภัณฑ์มากมาย เช่น เครื่องตัดไฟฟ้าอัตโนมัติ SAFE-T-CUT, ตู้ควบคุมวงจนไฟฟ้า CONSUMER UNIT & RCBO, เบรกเกอร์ SAFT-T-CUT, ไฟฉุกเฉิน SAFT-T-LIGHT, เครื่องส่งสัญญาณกันขโมย SAFE-T-HOME, วาล์วตัดแก๊สอัตโนมัติ SAFE-T-GAS เป็นต้น สินค้าแต่ละชนิดของ เซฟ-ที-คัท เป็นที่ยอมรับและอยู่แถวหน้าของตลาดสินค้าเพื่อความปลอดภัยทั้งสิ้น
 
บริษัท เซฟ-ที-คัท (ประเทศไทย) จำกัด มีการพัฒนาทางวิศวกรรมตลอดเวลา เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าและบริการติดตั้งได้ตามที่กำหนด รวมทั้งรายละเอียดสินค้าเสร็จตรงเวลาด้วยทีมงาน ช่างเทคนิค วิศวกร ที่มีประสิทธิภาพ มีโรงงานผลิตเรื้อที่กว่า 100 ไร่ ตั้งอยู่ที่จังหวัดชัยนาท ซึ่งผ่านมาตรฐาน ISO9001:2001 และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI (Thailand Board of Invesment)
 
บริษัทได้ทำการค้นคว้าและพัฒนาจากประสบการณ์ที่สะสมมาจนกระทั่งปัจจุบัน เซฟ-ที-คัท ได้รับใบสิทธิบัตร จดทะเบียนกรรมสิทธิ์ 24 ฉบับ ในการเป็นผู้ริเริ่มคิดค้น
 
จากจุดเริ่มต้นด้วยพนักงานเพียงไม่กี่คน บริษัทฯ ได้พัฒนาประสิทธิภาพในการผลิตจนมีความเจริญก้าวหน้าเติบโต ขึ้นเป็นผู้นำด้านธุริจเพื่อความปลอดภัยในการใช้กระแสไฟฟ้า ปัจจุบัน บริษัทฯ มีพนักงานรวมทั้งสิ้นกว่า 200 คน ซึ่งทุกคนล้วนแต่ผ่านการคัดเลือกฝึกฝนจนชำนาญในหน้าที่ มีความสามารถผลิตงานที่มีพร้อมทั้งคุณภาพและรวดเร็ว ทั้งมีการพัฒนาปรับเทคโนโลยีให้ทันสมัย เพราะเราเชื่อเสมอว่า ลูกค้าทุกท่าน คือ ผู้มีอุปการะคุณของบริษัทฯ
 
ที่มา: http://www.safe-t-cut.com/index.php?name=aboutus
 
 
 
ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: มติชนออนไลน์, เว็บไซต์ข่าวสด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net