Submitted on Sat, 2009-07-18 19:31
เครือข่ายปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียกร้องให้“พรรคประชาธิปัตย์” ในฐานะแกนนำรัฐบาลและข้าราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัด ต้องมารับผิดชอบ แก้ปัญหาความยากจนของคนสุราษฎร์ฯ โดยเฉพาะ เรื่องที่สำคัญ คือ“การปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน”
เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์แก้ปัญหาคนจน โดยเฉพาะเรื่องที่ดินทำกิน
18 ก.ค. 52 - เครือข่ายปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียกร้องให้“พรรคประชาธิปัตย์” ในฐานะแกนนำรัฐบาลและข้าราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัด ต้องมารับผิดชอบ แก้ปัญหาความยากจนของคนสุราษฎร์ฯ โดยเฉพาะ เรื่องที่สำคัญ คือ“การปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน”
แถลงการณ์ฉบับที่ 2
เครือข่ายปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เรื่อง ความรับผิดชอบของรัฐบาลประชาธิปัตย์ต่อการแก้ปัญหาการปฏิรูปที่ดินในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เรียน พี่น้องประชาชน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เคารพ
ในสถานการณ์ที่การเมืองมีความขัดแย้งสูงยิ่งขึ้น ใน 4 - 5 ปี ที่ผ่านมา ทำให้ข้าราชการบางส่วนฉวยโอกาสแสวงหาผลประโยชน์มากยิ่งขึ้น และข้าราชการต่างขึ้นต่อเจ้ากระทรวงของตนเองมากกว่าขึ้นกับฝ่ายการเมืองหรือราชการส่วนอื่น ๆ การเฉื่อยชาต่อการปฏิบัติหน้าที่แก้ปัญหาประชาชน การปัดปัญหาให้พ้นความรับผิดชอบ ลักษณะเช้าชามเย็นชาม ยิ่งหนักหน่วงยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดวิกฤติศรัทธาความเชื่อต่อระบบราชการของประชาชน
ระบบตำรวจในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไม่รู้เห็นการทำลายป่าต้นน้ำ 4 - 5 พันไร่ ในอำเภอท่าชนะ และการบุกรุกครอบครองที่ดินอย่างผิดกฎหมายของกลุ่มนายทุน กลุ่มอิทธิพล ในอำเภอชัยบุรี และอำเภออื่น ๆ จำนวนมาก ในที่ดินหลายประเภท ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดอื่น ๆ ในภาคใต้
ข้าราชการบางคนกลับเรียกร้องผลประโยชน์จากผู้ประกอบการอย่างไร้ยางอาย ไม่คิดถึงการแก้ปัญหาแต่เป็นส่วนสร้างปัญหาเสียเอง โดยอาศัยช่องทางกฎหมายเอื้อประโยชน์กลุ่มทุนโดยคิดว่าไม่มีใครกล้าตรวจสอบ
ในขณะเดียวกันข้าราชการบางส่วนกลับว่องไวและขยันต่อการปราบปรามประชาชน โดยเฉพาะคนยากจนที่ไร้ทางออกและอ่อนแอ เปรียบเสมือนขยะของสังคมที่ต้องคอยกวาดทิ้งอยู่เสมอ
การเข้าไปค้นอาวุธของตำรวจ ที่ยกกำลังเข้าค้นอาวุธคนจนที่รุกเข้าไปในแปลงที่ดินที่หมดสัญญาเช่าจากนายทุนและเมื่อตำรวจออกไป ก็มีการทำลายเพิงที่พักของคนจนในปี 2550 ที่อำเภอชัยบุรี ล่าสุดการฆ่าคนจน 2 ศพ ที่อำเภอชัยบุรี ในเดือนมีนาคมนี้มีหลักฐานคนร้ายชัดเจนแต่เรื่องกลับเงียบหาย แต่กลับสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าดูแลความสงบในพื้นที่ ที่แท้เหมือนเป็นการคุ้มครองนายทุนขโมยผลปาล์มในที่ดิน สปก. โดยทางอ้อม
ถึงเวลาที่ “พรรคประชาธิปัตย์” ในนามของรัฐบาลและข้าราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัด ต้องมารับผิดชอบ แก้ปัญหาความยากจนของคนสุราษฎร์ฯ โดยเฉพาะ เรื่องที่สำคัญ คือ“การปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน”
ประชาชนสุราษฎร์ฯ มีความพร้อมในการปฏิรูปที่ดินและมีปัญหาไม่มากนัก เพราะปัญหาที่แท้จริง ไม่ใช่อยู่ที่คนจน แต่เหตุเกิดจากความผิดพลาดจากนโยบายของรัฐฯ คือการกระจายสิทธิที่ดินอย่างไม่เป็นธรรม
“ขอให้ข้าราชการจังหวัดช่วยเปลี่ยนทัศนะคติต่อการปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน ให้ถูกต้อง” เพราะเป็นแนวทางประชาธิปไตยทางด้านทรัพยากร อย่าแช่แข็งและดองปัญหา
ตำรวจและหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงช่วยหยุดปราบปรามคนอ่อนแอไร้ทางต่อสู้
รัฐบาลประชาธิปัตย์ หยุดนิ่งเฉยต่อการแก้ปัญหา อันจะทำให้เรื่องนี้บานปลายมากยิ่งขึ้น โดยการสั่งการทางนโยบาย ให้ข้าราชการในจังหวัดดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับคนจนผู้เดือดร้อนด้านที่ดินทำกินในจังหวัด สุราษฎร์ธานี โดยด่วน
เรียนมาด้วยความเคารพยิ่ง
เครือข่ายปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี
|
ข้อเรียกร้องของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยข้อเรียกร้องเพื่อเร่งรัดการจัดสรรที่ดินสวนปาล์มและปัญหาเกษตรกรสวนปาล์มรายย่อย ของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีดังนี้
1. เร่งดำเนินการนำที่ดินสวนปาล์มที่ผู้ประกอบการหรือเอกชน สิ้นสุดสัญญาเช่าหรือครอบครอง โดยผิดกฎหมาย ในที่ดินของรัฐทุกประเภท มาจัดสรรให้ราษฎรผู้เดือดร้อนด้านที่ดินทำกิน โดยให้ยึดถือตามมติคณะรัฐมนตรี 26 สิงหาคม 2546 และสรุปผลการประชุมของคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีราษฎรบุกรุกสวนปาล์มเอกชน ครั้งที่ 1/2547 เมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2547 ณ ตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาล
2. ให้จังหวัดนำบัญชีรายชื่อผู้เดือดร้อนของกลุ่ม / องค์กร / เครือข่ายที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี มาตรวจสอบคุณสมบัติตามที่คณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดิน (ศจพ.จ.สฎ.) กำหนด ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน
3. ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบที่ดิน เร่งสรุปความคืบหน้าประเด็นแปลงที่ดิน ตามมติที่ประชุมของคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดิน (ศจพ.จ.สฎ.) เห็นชอบ โดยให้สรุปความชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรม และกำหนดวัน เวลา ในการนำที่ดินมากำหนดรูปแบบเพื่อจัดสรรให้กับราษฎรโดยเร็ว
4. ห้ามมิให้รัฐจ่ายค่าชดเชยหรือค่าตอบแทนใดๆให้กับผู้ประกอบการหรือเอกชนที่บุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐ และให้เร่งดำเนินคดีฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกโดยเร่งด่วน ในระหว่างการฟ้องขับไล่ หากหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นโจทย์ ให้ขออำนาจศาล สั่งคุ้มครองชั่วคราว เพื่อนำที่ดินมาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน โดยไม่ต้องรอคำสั่งศาลตัดสินจนถึงที่สุด
5. ให้กรมธนารักษ์ กำหนดการต่ออนุญาตการเช่าคราวละ 30 ปีในที่ดินราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ สฎ. 848 ที่ได้จัดสรรให้ราษฎร ในท้องที่อำเภอพุนพินและเคียนซา และขอให้รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนในการปลูกสร้างสวนปาล์มใหม่แทนปาล์มเก่าที่ เสื่อมสภาพ
6. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนพัฒนาแปลงที่ดินที่ได้จัดสรรไปแล้ว เช่น จัดสร้างสาธารณูปโภค สาธารณูปการต่าง ๆ โครงการบ้านเอื้ออาทร บ้านมั่นคงชนบท จัดตั้งชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง
7. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือผู้แทน เสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล โดยกลุ่ม / องค์กร/เครือข่ายฯผู้เดือดร้อนที่ดินทำกิน และจะนัดมาชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี อีกครั้ง เพื่อรอรับฟังคำตอบและการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนแล้วเสร็จและนำที่ดินจัดสรรให้กับราษฎร ผู้เดือดร้อนได้อย่างเป็นรูปธรรม
เผยรายละเอียดข้อมูลพื้นที่ป่าที่เอกชนได้รับอนุญาตและไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้เครือข่ายปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เปิดเผย รายละเอียดข้อมูลพื้นที่ป่าที่เอกชนได้รับอนุญาตและไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์เพื่อปลูกปาล์มน้ำมันในท้องที่จังหวัดสุราษฎรธานี จำนวน 16 ราย ดำเนินการสำรวจตามมติ ครม. 26 สิงหาคม 2546 และสรุปแนวทางการแก้ปัญหาที่ประชุม 4 กระทรวงหลัก 13 มกราคม 2547
ที่
|
รายชื่อผู้ประกอบการ
|
เนื้อที่อนุญาต
ไร่
|
สำรวจตามมติ ครม.
26 สิงหาคม 2546
|
สำรวจรังวัดจริง
ได้เนื้อที่ปลูก
|
พื้นที่ราษฎรบุกรุก
ทำประโยชน์
|
ท้องที่อำเภอ
|
สัญญาสิ้นสุด
|
ประเภท
พื้นที่
|
หมายเหตุ
|
1.
2.
3.
4.
5.
6.
|
บริษัทที่ใบอนุญาตยังไม่สิ้นสุด
บริษัท ประจักษ์วิวัฒน์ จำกัด
บริษัท แสงสวรรค์ปาล์มน้ำมัน จำกัด
บริษัท พรทวีปาล์ม จำกัด
บริษัท ไทยอุตสาหกรรม จำกัด
บริษัท พันธ์ศรี จำกัด
บริษัท ภูสวัสดิ์ จำกัด
|
10,600
20,000
3,246-3-28
8,250
20,000
700
|
8,588
10,730
2,514
6,863
12,874
698
|
2,406-1-95
704-3-64
|
2,012
9,270
732
1,387
7,126
|
เคียนซา
พระแสง
กาญจนดิษฐ์
พระแสง
ชัยบุรี
ชัยบุรี
|
กรกฎาคม 2557
มกราคม 2558
มีนาคม 2560
พฤศจิกายน2566
มกราคม 2558
มกราคม 2567
|
ที่ราชพัสดุ
ที่ราชพัสดุ
ที่ป่าสงวนฯ
ที่ป่าสงวนฯ
ที่ป่าสงวนฯ
ที่ป่าสงวนฯ
|
ยื่นขอเช่าต่อกรมป่าไม้
ยื่นขอเช่าต่อกรมป่าไม้
แปลงที่1 1,765-1-63ไร่แปลงที่2 641 ไร่
|
|
รวม
|
62,796
|
42,267
|
|
20,527
|
|
|
|
|
1.
2.
3.
4.
5.
6.
|
บริษัทที่ใบอนุญาตสิ้นสุด
บริษัท นำบี้พัฒนาการเกษตร จำกัด
บริษัทกุ้ยหลิมพัฒนาการเกษตร จำกัด
บริษัท สามชัยสวนปาล์ม จำกัด
บริษัท ไทยบุญทอง จำกัด
บริษัท สุราษฎร์ปาล์มทอง จำกัด
บริษัท ชัยบุรีปาล์มทอง จำกัด
|
20,000
20,000
1,850
3,000
1,168
15,000
|
6,182
3,572
3,775
3,420
747
7,534
|
985-1-15
|
13,818
16,428
182-3-85
7,466
|
พุนพิน
พุนพิน
พุนพิน
ชัยบุรี
กาญจนดิษฐ์
ชัยบุรี
|
กุมภาพันธ์ 2542
กุมภาพันธ์ 2542
กุมภาพันธ์ 2542
ธันวาคม 2543
ธันวาคม 2543
มกราคม 2543
|
ที่ราชพัสดุ
ที่ราชพัสดุ
ที่ราชพัสดุ
ที่ป่าสงวนฯ
ที่ป่าสงวนฯ
ที่ สปก.
|
ยื่นขออนุญาตแบ่งครึ่งต่อกรมธนารักษ์
ยื่นขออนุญาตแบ่งครึ่งต่อกรมธนารักษ์
ยื่นขออนุญาตแบ่งครึ่งต่อกรมธนารักษ์
ระหว่างขออนุญาตแบ่งครึ่งต่อกรมป่าไม้
ยื่นขออนุญาตแบ่งครึ่งต่อกรมป่าไม้
อยู่ระหว่าง สปก.ฟ้องขับไล่ผู้บุกรุก
|
|
รวม
|
61,018
|
25,230
|
985-1-15
|
37,894-3-85
|
|
|
|
|
1.
2.
3.
4.
|
บริษัทที่ไม่ได้รับอนุญาต
บริษัท วรการปาล์ม จำกัด
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.เกียรติเจริญ
บริษัท เกษตรกรรมปาล์มน้ำมัน จำกัด
บริษัท จิวกังจุ้ยพัฒนา จำกัด
|
|
3,373
2,057
10,561
3,000
|
|
|
เคียนซา
เคียนซา
พุนพิน
ชัยบุรี
|
|
ที่ราชพัสดุ
ที่ราชพัสดุ
ที่ราชพัสดุ
ที่ สปก.
|
ยื่นฟ้องศาลปกครองเรียกค่าชดเชย
ยื่นฟ้องศาลปกครองเรียกค่าชดเชย
ยื่นทบทวน ครม. แบ่งเช่าที่ดิน 40 %
อยู่ระหว่าง สปก. ฟ้องขับไล่ผู้บุกรุก
|