สรุปข่าวพม่า 14-20 ก.ค.

พม่ายึดยาเสพติดมูลค่ากว่าร้อยล้านบาท,เศรษฐกิจขาลง ขอทาน-โจรชุก,กับระเบิดคร่าชีวิตประชาชนพม่าเพิ่มสองเท่า,เจ้าหน้าที่ตำรวจบังกลาเทศทำลายค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยา,ผู้บริจาคเลือดในรัฐชินต้องควักเงินจ่ายค่าตรวจเอชไอวี,จับสมาชิกพรรคเอ็นแอลดีเพิ่ม, ทางการพม่าตัดไฟฟ้าเหลือ 6 ชั่วโมงต่อวัน     

    
15 ก.ค. 52
พม่ายึดยาเสพติดมูลค่ากว่าร้อยล้านบาท 
 
ทหารพม่าและตำรวจปราบปรามยาเสพติดพม่าประจำ จ .ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน(ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย) สามารถยึดยาบ้าจำนวน 340, 000 เม็ด พร้อมเฮโรอีนอัดแท่งน้ำหนัก 1,000 กิโลกรัม ซึ่งมีมูลค่ากว่า 300 – 500 ล้านบาท ตรงถนนสายเมืองสาดเข้าสู่ จ. ท่าขี้เหล็ก ที่กำลังจะถูกลักลอบขนข้ามชายแดนเข้าไทย
 
ผู้ต้องคือนายอาฝา อายุ 46 ปี ชาวจีนเชื้อสายโกกั้ง อดีตลูกน้องขุนส่า และเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่บ้านนากองมู (ตรงข้าม อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่) โดยมีความสนิทสนมกับพลเอกจ่อตู่ ผู้บัญชาการทหารพม่าในพื้นที่นากองมูเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ทางการพม่าคาดการณ์ว่า นายเจียงซาง ผู้นำกองกำลังอาสาสมัครนาไย (อ. น้ำจ๋าง) ซึ่งเป็นอดีตลูกน้องอีกคนหนึ่งของขุนส่า น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการลักลอบค้ายาเสพติดในครั้งนี้ด้วย(SHAN) 
 
 
 16 ก.ค. 52 
เศรษฐกิจขาลง ขอทาน-โจรชุก 
พบจำนวนขอทานในเมืองซิตต่วย เมืองหลวงของรัฐอาระกันเพิ่มขึ้น หลังเศรษฐกิจในพื้นที่อยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการก่ออาชญากรรมเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะโจรวิ่งราวที่อาละวาดอย่างหนักจนทำให้ผู้หญิงหลีกเลี่ยงการใส่เครื่องประดับเดินตามถนน
 
ปัญหาเศรษฐกิจยังส่งผลให้สุขภาพจิตของคนในพื้นที่ย่ำแย่ลง ทั้งนี้ ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา มีนักธุรกิจล้มละลายเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายคนหันมาดื่มสุราเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับวัยรุ่นในพื้นที่ที่หนีปัญหาชีวิตด้วยการใช้ยาเสพติด อย่างไรก็ตามแม้ปัญหาเศรษฐกิจในรัฐอาระกันจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ ขณะที่รัฐบาลพม่าไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด (Narinjara) 
 
กับระเบิดคร่าชีวิตประชาชนพม่าเพิ่มสองเท่า 
เมื่อไม่นานมานี้ องค์กรรณรงค์เพื่อยุติกับระเบิดนานาชาติ (The International Campaign to Ban Landmines (ICBL)) ออกมาเปิดเผยว่า เมื่อปีที่ผ่านมา มีประชาชนในพม่าเสียชีวิตจากกับระเบิดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ขณะที่ผู้รอดชีวิตไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาล สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ ทหารพม่ายังคงบังคับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สู้รบหรือนักโทษให้นำหน้ากองกำลังทหารในสนามรบเพื่อค้นหาทุ่นระเบิดอย่างต่อเนื่อง
 
ทั้งนี้ ทั่วพื้นที่รัฐกะเหรี่ยงมีการวางกับระเบิดทั้งจากกองทัพพม่าและกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยูเพื่อป้องกันตัวจากกันและกัน ขณะที่พบว่าเหยื่อกับระเบิดส่วนใหญ่ เป็นชาวบ้าน โดยมีตัวเลขชาวกะเหรี่ยงที่เหยียบกับระเบิดมาเข้ารับการรักษาในฝั่งไทยเพิ่มมากขึ้น ด้านแพทย์หญิงซินเธีย มาวจากแม่ตาวคลินิก ใน อ.แม่สอด จ.ตากเปิดเผยว่า มีเหยื่อกับระเบิดราว 60 – 70 คน มารับการรักษาที่คลินิกดังกล่าว ขณะที่เหยื่อกับระเบิดพบว่ามีทั้งเด็กและสตรี โดยมีรายงานอีกเช่นกันว่า ครึ่งหนึ่งของประเทศพม่าถูกฝังด้วยกับระเบิด (DVB)   
 
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจบังกลาเทศทำลายค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยา  
 
องค์กรแพทย์ไร้พรมแดน(Medicins Sans Frontiers (MSF)) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจบังกลาเทศกว่า 30 นายพร้อมชาวบังกลาเทศจำนวนหนึ่งเข้ารื้อถอนบ้านพักของชาวโรฮิงยาจำนวน 259 หลังในค่ายผู้ลี้ภัย Kutupalong โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้กับผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ ที่ยังไม่ถูกทำลายบ้านพักให้รื้อถอนบ้านพักชั่วคราวของตนเองภายใน 48 ชั่วโมง โดยขู่ว่าหากไม่ปฏิบัติตาม จะเผาที่พักของผู้ลี้ภัยทันที
 
ด้านองค์กรแพทย์ไร้พรมแดนได้ประณามการกระทำดังกล่าวว่า  การกดขี่ข่มเหงชาวโรฮิงยาดังกล่าวเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ เพราะผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยาที่อยู่ในบังกลาเทศมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทางการบังกลาเทศก็ได้รื้อถอนที่พักของชาวโรฮิงยามาแล้วครั้งหนึ่ง (DVB/เอเอฟพี)
 
 
17 ก.ค. 52  
 
ผู้บริจาคเลือดในรัฐชินต้องควักเงินจ่ายค่าตรวจเอชไอวี  
 
โรงพยาบาลรัฐในเมืองฟาลัม รัฐชิน เรียกเก็บเงินผู้บริจาคเลือดเพิ่มอีกคนละ 4 หมื่นจั๊ต(1, 242 บาท) โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อเอชไอวี ขณะที่ชาวบ้านร้องเรียนว่า ก่อนหน้านี้ทางโรงพยาบาลได้รับบริจาคเครื่องมือในการตรวจเชื้อเอชไอวีจากองค์กรยูนิเซฟ (UNICEF) แต่กลับพบว่า แพทย์ในโรงพยาบาลดังกล่าวได้นำเครื่องมือเหล่านั้นไปใช้ในคลินิกส่วนตัว ขณะที่โรงพยาบาลต้องประสบกับปัญหาขาดแคลนเครื่องมืออย่างหนัก
 
นอกจากนี้มีรายงานอีกว่า ผู้ป่วยในต้องจ่ายเงินค่าเตียงนอนอีกคนละ 5,000จั๊ต (155 บาท) โดยพบว่าผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดต้องจ่ายเงินราว 15,000 จั๊ต(466 บาท)  อย่างไรก็ตาม ในรัฐชินมีโรงพยาบาลรัฐจำนวน 9 แห่ง ซึ่งโรงพยาบาลเหล่าล้วนได้รับความช่วยเหลือจากองค์กรยูนิเซฟ (Khonumthung)
 
 
20 ก.ค. 52
 
จับสมาชิกพรรคเอ็นแอลดีเพิ่ม
รัฐบาลพม่าสั่งจับสมาชิกพรรคเอ็นแอลดีเพิ่มอีก 50 คนหลังจากทั้งหมดเดินทางไปร่วมพิธีรำลึกครบรอบวันเสียชีวิต 62 ปีของนายพลอองซาน บิดาของนางอองซาน ซูจีเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยทางการพม่าได้ระดมกำลังตำรวจปราบจลาจลพม่าทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวน 1, 000  นายเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดรอบกรุงย่างกุ้ง
 
ขณะที่หลายฝ่ายเชื่อว่า น่าจะมีการหยิบยกการจับกุมสมาชิกพรรคเอ็นแอลดีมาพูดในการประชุมอาเซียนที่จัดขึ้นที่ จ.ภูเก็ตด้วย (Irrawaddy)  
 
ทางการพม่าตัดไฟฟ้าเหลือ 6 ชั่วโมงต่อวัน 
ทางการพม่าประกาศลดการจ่ายไฟฟ้าในย่างกุ้งเหลือวันละ 6 ชั่วโมง หลังท่อส่งก๊าซจากทางทะเลใกล้กับรัฐมอญที่ส่งก๊าซมาผลิตกระแสไฟฟ้าในย่างกุ้งได้รับเสียหายจากน้ำท่วม ประชาชนในกรุงย่างกุ้งจำนวนมาก ได้รับความเดือดร้อนและต้องใช้เครื่องปั่นไฟแทน

ทั้งนี้  ไฟฟ้าที่ใช้ในย่างกุ้งได้จากโรงผลิตไฟฟ้าพลังน้ำลอปิตา ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของย่างกุ้ง ในช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายนจะขาดแคลนไฟฟ้าเนื่องจากปริมาณน้ำฝนไม่เพียงพอต่อการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งประชากรราว 5 ล้านคนในย่างกุ้งต้องการใช้ไฟฟ้าประมาณ 450 เมกกะวัตต์ต่อวัน ขณะที่โดยปกติในช่วงฤดูมรสุมในย่างกุ้งจะมีไฟฟ้าใช้ตลอด 24 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ในกรุงเนย์ปีดอว์ เมืองหลวงแห่งใหม่ พบว่าประชาชนแม้อยู่ห่างไกลจากทางหลวงกลับมีไฟฟ้าใช้ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่ชาวบ้านวัย 60 คนหนึ่งในย่างกุ้งเปิดเผยว่า แม้พม่าจะมีพลังก๊าซมหาศาลแต่กลับส่งขายให้จีนและไทย ขณะที่ประชาชนในประเทศกลับไม่มีไฟฟ้าใช้เพียงพอ(Irrawaddy)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท