Nick Nostitz รายงานกิจกรรมถวายฎีกาของคนเสื้อแดง และเหตุชุลมุนแถว ถ.พระอาทิตย์ ผ่านเว็บไซต์ New Mandala เขาเห็นว่า “นี่คือวันประวัติศาสตร์ ประเด็นหลักของความขัดแย้งถูกทำให้ชัดเจนขึ้น และก็ยากที่จะบอกว่ามันจะไปจบลงตรงไหน”
ผมเดินทางไปถึงในเวลา 09.00 น. คนเสื้อแดงประมาณ 3-4 หมื่น รวมตัวกันที่สนามหลวงและพื้นที่โดยรอบ
กิจกรรมเริ่มด้วยพิธีพราหมณ์
การร้องเพลงเริ่มขึ้นบนเวที แกนนำเสื้อแดงร้องและเต้นไปด้วย บนสนามหลวงพื้นที่สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ถูกกั้นรั้วเพื่อการเดินขบวน
กล่องถูกห่อด้วยผ้าสีแดงบรรจุลายมือชื่อถูกนำมาไว้ในพื้นที่ที่กั้นรั้ว คนเสื้อแดงพร้อมด้วยธงชาติและพระสงฆ์เริ่มตั้งขบวน ผมได้พูดคุยกับคนงานก่อสร้างซึ่งลาหยุดงานมาเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม เขาบอกว่าตัวเขาและครอบครัวเดินทางมาด้วยตัวเอง ไม่มีการจ่ายเงิน ขณะที่ภรรยาของเขากำลังให้นมกับลูกคนเล็ก เขาอธิบายว่า ในหมู่บ้านของเขาที่บุรีรัมย์ ประชาชนประมาณครึ่งหนึ่งยังคงสนับสนุนเนวิน ชิดชอบ ขณะที่อีกครึ่งหนึ่งไม่สนับสนุนอีกต่อไปแล้ว
ไม่นานหลังจากที่ทักษิณโฟนอินสั้นๆ ขบวนก็เริ่มออกเดินโดยรอบสนามหลวงและไปหยุดอยู่ที่หน้าพระบรมหาราชวัง กล่องที่บรรจุลายมือชื่อถูกจัดวางไว้บนเวทีเล็กๆ ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นลม ความร้อนและความชื้นเป็นสิ่งที่แทบจะทนได้ยาก
ผู้นำกลุ่มเสื้อแดงได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่สำนักราชเลขาธิการ และได้ยื่นฎีกา เต็มไปด้วยบรรดาช่างถ่ายภาพและช่างภาพวิดีโอจำนวนมาก และมีเพียงแค่ 2 จุดเล็กๆ เท่านั้นที่จะสามารถถ่ายภาพได้ ผมโชคดีที่ได้ภาพ ด้วยวิธียื่นแขนข้ามหัวเพื่อนช่างภาพคนอื่นๆ
กล่องและฎีกาได้รับการประทับตราและลงชื่อโดยสำนักพระราชวัง และถูกขนย้ายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยรถบรรทุกจำนวน 5 คัน ทั้งหมดมี 383 กล่อง
คนเสื้อแดงสลายตัวหลังจากที่ผมได้ยินว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่ศาล และไม่มีกลุ่มเสื้อนำเงิน ผมก็เดินทางกลับบ้านเช่นกัน
เมื่อผมผ่านมาทางสำนักงานเอเอสทีวีที่ถนนพระอาทิตย์ ผมเห็นเหตุชุลมุนเล็กน้อย ผมจอดรถมอเตอร์ไซค์ มีการ์ดพันธมิตรประมาณ 20-30 คน หน้าสำนักงานเอเอสทีวีและตรงข้ามบ้านพระอาทิตย์ตะโกนใส่แท็กซี่ รถตู้และรถบัสที่มีคนเสื้อแดงขับผ่าน การ์ดพันธมิตรบางคนยิงหนังสติ๊กใส่รถยนต์ และปาก้อนหิน ในตอนแรกพวกเขาต้องการไล่ผมไป แต่หลังจากที่ผมยืนยันว่าผมจะอยู่และถ่ายภาพ เราก็เริ่มต้นเจรจา-ผมสามารถถ่ายภาพได้แต่ต้องไม่เห็นหน้าพวกเขา อย่างน้อยที่สุด ขณะที่ผมอยู่ตรงนั้น การ์ดปล่อยให้รถตุ๊กตุ๊กและจักรยานยนต์ที่บรรทุกคนเสื้อแดงผ่านไปได้ และยิงเพียงแค่รถยนต์และรถบัส หนึ่งในการ์ดบอกกับผมว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการทำร้ายร่างกายใคร เพียงแค่ต้องการทำให้กลัวเท่านั้น
ไม่นานหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงโดยรถยนต์หนึ่งคันและมอเตอร์ไซค์อีกหลายคัน บรรดาการ์ดก็กลับเข้าไปในออฟฟิศเอเอสทีวีและเหตุการณ์ก็สงบลง
ประเทศไทยไม่เคยมีการถวายฎีกาต่อพระมหากษัตริย์ด้วยการเคลื่อนไหวทางการเมืองขนาดใหญ่เช่นนี้มาก่อน นี่คือวันประวัติศาสตร์ ประเด็นหลักของความขัดแย้งถูกทำให้ชัดเจนขึ้น และก็ยากที่จะบอกว่ามันจะไปจบลงตรงไหน ฝ่ายตรงข้ามของกลุ่มเสื้อแดงนั้นไม่พอใจเนื่องจากพวกเขาเห็นว่านี่เป็นการโจมตีพระมหากษัตริย์ และอย่างที่ผมได้เห็นในช่วงท้ายวันของการยื่นฎีกา ความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้
