Skip to main content
sharethis

สืบเนื่องมาจากเมื่อกลางเดือนธันวาคม 2550 กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบ้านย่าหมี ต.เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา จำนวนกว่า 30 คน ได้รวมตัวกันเข้าไปสำรวจพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าช่องหลาด ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำของชุมชนหลังจากสังเกตเห็นมีการนำรถแบ๊คโฮเข้ามาบุกรุกและถางไถ ปรับสภาพพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ หลังจากนั้นต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ชาวบ้านย่าหมี จำนวน 17 ราย ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาจากสถานีตำรวจภูธร อ.เกาะยาว จ.พังงา ในข้อหาร่วมกันบุกรุกหรือเข้าไปทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครอง อสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข และร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม เวลา 09.00น. กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบ้านย่าหมี ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา พร้อมด้วยเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบ้านท่าสนุก อ.ทับปุด และ บ้านในหงบ-ควนคา จ.พังงา รวมจำนวน 50 คน เดินทางมาให้กำลังใจกับแกนนำนักอนุรักษ์บ้านย่าหมี 17 ราย ที่ถูกบริษัท นาราชา จำกัด ฟ้องร้องในข้อหาร่วมกันบุกรุกหรือเข้าไปทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครอง อสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข และร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ซึ่งวันที่ 24 ส.ค. เป็นวันที่ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องและไกล่เกลี่ย

กลุ่มชาวบ้านทั้งหมดได้เดินขบวนพร้อมถือป้ายผ้าจากสวนสาธารณสมเด็จศรีนคริทร์เดินเรียบถนนทางหลวงเพื่อมุ่งหน้าไปยังศาลจังหวัดพังงา ข้อความป้ายผ้าเขียนบอกเพื่อขอความยุติธรรมว่า “17 ผู้ต้องหาปกป้องทรัพยากรต้องได้รับ ความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรมไทย” และ “อัยการ ศาลเป็นทนายของประเทศชาติ ดำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมปกป้องทรัพยากร”

และก่อนที่จะเข้าไปยังศาล กลุ่มชาวบ้านย่าหมีทั้งหญิงและชายได้ทำการละหมาดฮาญัติเพื่อขอพรจากพระอัลเลาะห์ หลังจากนั้นจึงเดินทางเข้าไปยังห้องพิจารณาคดี ห้องพิจารณาคดีบัลลังก์ที่ 2 โดยมีนายกิตติกร กิตติกรพานประยูรเป็นผู้พิพากษา และผลจากการพิจารณาคดีนั้น ศาลนัดไกล่เกลี่ยครั้งต่อไปในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา 09.00 น.
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net