(30 ก.ย.52) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ส่งหนังสือชี้แจงต่อสื่อมวลชน เกี่ยวกับการปฎิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง กรณีกรมสรรพากรมีคำสั่งให้ธนาคารไทยพาณิชย์นำส่งเงินอายัดรายนางสาวพินทองทา ชินวัตร และนายพานทองแท้ ชินวัตร เพื่อการชำระหนี้ภาษีอากรแก่กรมสรรพากร วงเงินกว่า 12,000 ล้านบาท

หนังสือชี้แจงดังกล่าวระบุว่า ตามที่กรมสรรพากรได้มีหนังสือคำสั่งวันที่ 22 ส.ค.51 ให้ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) นำส่งเงินอายัดรายนางสาวพินทองทา ชินวัตร และนายพานทองแท้ ชินวัตร คำสั่งดังกล่าวซ้ำซ้อน และมีความขัดแย้งกับคำสั่งอายัดของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) หากธนาคารปฏิบัติตามคำสั่งใดคำสั่งหนึ่งจะเป็นการฝ่าฝืนอีกคำสั่งหนึ่งซึ่งเป็นความผิดมีโทษทางอาญาได้ ดังนั้น ธนาคารจึงได้นำเรื่องเสนอไปยังศาลปกครองกลางเพื่อขอความกระจ่างในแนวทางปฏิบัติ ซึ่งต่อมาศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลางกำหนดมาตราการคุ้มครองชั่วคราวแก่ธนาคารก่อนมีคำพิพากษา

ในวันเดียวกันนั้น ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาสั่งเพิกถอนคำสั่งของกรมสรรพากรที่ให้ธนาคารนำส่งเงินอายัดในบัญชีเงินฝากของ นางสาวพินทองทา ชินวัตร และนายพานทองแท้ ชินวัตร ซึงธนาคารได้น้อมรับคำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่ออกมา

โดยการพิจารณาคดี นายจรวย หนูคง หัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ตุลาการเจ้าของสำนวน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา กรณีที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ฟ้องต่อศาลว่า ศาลได้พิจารณาแล้วว่า คตส.มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของบุคคลทั้ง 2 ในการเป็นกรรมการของบริษัท แอมเพิลริช ในการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น ให้แก่บริษัท เทมาเส็ก ซึ่งเป็นการดำเนินการชอบด้วยกฎหมาย และคำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2550 โดยให้อายัดเงินในบัญชีต่างๆ ที่ฝากไว้กับธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นคำสั่งที่เกิดขึ้นก่อนคำสั่งของกรมสรรพากร

แม้ว่าต่อมา คตส.จะยุติบทบาทและถ่ายโอนอำนาจต่างๆ ไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงใดๆ นับว่าเป็นการดำเนินการก่อนคำสั่งอายัดเงินของกรมสรรพากร เพื่อเก็บภาษีเป็นเวลาถึง 5 เดือน และเห็นว่าทั้ง 2 องค์กรมีเจตนาอายัดเงิน เพื่อให้เป็นของแผ่นดิน ดังนั้นศาลจึงพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของกรมสรรพากร เพื่อให้ธนาคารไทยพาณิชย์ปฏิบัติตามคำสั่งของ คตส.ต่อไป

ด้าน นายนิยม วานิชวัฒนรำลึก ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการด้านกฎหมาย ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาแล้ว ทำให้ธนาคารมีความชัดเจนในการดำเนินการตามคำสั่งของ คตส. และจะอายัดเงินในบัญชีต่างๆ ของบุคคลทั้งสอง ไปจนกว่าคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินดังกล่าวจะสิ้นสุด หรือมีคำเปลี่ยนแปลงของ ป.ป.ช

ที่มาข้อมูลบางส่วน: เว็บไซต์คมชัดลึก