Skip to main content
sharethis

ครอบครัวแรงงานไทใหญ่ถูกรถชนตายยกครัว 4 ศพ ขณะไปทำบุญออกพรรษา จัดพิธีศพแล้ว เพื่อนแรงงานร่วมงานคับคั่ง มีชาวบ้านร่วมเตรียมพิธี ญาติเผยต้องยืมเงินหลายหมื่นมาจัดงานศพก่อน ขณะที่ยังไม่ได้ค่าชดเชยจากบริษัทประกันภัย

 
 
ภาพงานฌาปนกิจศพครอบครัวแรงงานชาวไทใหญ่ (Photo: Arntai / SHAN)
 
(SHAN 8/10/52) – งานศพครอบครัวแรงงานไทใหญ่ถูกรถชนตายยกครัว 4 ศพ ขณะไปทำบุญออกพรรษา มีเพื่อนแรงงานร่วมงานคับคั่ง มีชาวบ้านไทยร่วมเตรียมเตรียมพิธี ญาติเผยต้องยืมเงินหลายหมื่นมาจัดงานศพก่อน ขณะที่ยังไม่ได้ค่าชดเชยจากบริษัทประกันภัย
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (8 ต.ค.) ที่วัดร้องสัก ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญศพครอบครัวแรงงานไทใหญ่ 4 ศพ ที่ถูกรถชนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ขณะเตรียมไปทำบุญงานออกพรรษา ได้มีพิธีสวดมาติกาบังสุกุลงานฌาปนกิจของทั้ง 4 ศพ โดยพิธีศพเป็นไปอย่างเรียบง่าย แต่มีญาติพี่น้องและเพื่อนแรงงานชาวไทใหญ่ที่ทราบข่าวไปร่วมจำนวนมาก นอกนั้นมีชาวชุมชนบ้านร้องสักเข้าไปช่วยจัดเตรียมพิธีกรรมต่างๆ ให้จำนวนหนึ่ง
 
ขณะที่ศพของ 4 พ่อแม่ลูก ซึ่งประกอบด้วย ศพของนายสุ หรือ นายเดือน ลุงยะ อายุ 30 ปี นางพร ลุงยะ อายุ 29 ปี ด.ช.มน ลุงยะ อายุ 11 ปี และด.ญ.มาย ลุงยะ อายุ 1 ขวบ ถูกนำใส่โลงวางเรียงรายอยู่บนศาลาวัด โดยมีรูปภาพของทั้ง 4 วางไว้ตรงหน้า รวมทั้งสิ่งของเครื่องใช้เช่น ทีวี เครื่องเล่นซีดีและเสื้อผ้าอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งหลังพระสงฆ์ทำพิธีสวดแล้วเสร็จ ผู้ร่วมงานได้ช่วยกันยกโลงศพของทั้ง 4 ลงมาใส่รถลากศพที่ทางวัดจัดให้ 2 คัน โดยแบ่งคันละ 2 ศพ จากนั้นได้นำไปยังสุสานบ้านร้องสัก อยู่ห่างจากวัดไปประมาณ 800 เมตร และหลังจากพระสงฆ์ทำพิธีบังสุกุลขั้นสุดท้าย ได้มีการแยกศพของทั้ง 4 ประกอบพิธีเผาพร้อมกัน ท่ามกลางความเศร้าโศกอาลัยเสียใจของญาติและผู้ร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง  
 
ด้านนางพีด พี่สาวนางพร ผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า นายเดือน มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านป่างโพน อ.เกซี รัฐฉานภาคใต้ ส่วนนางพร มีภูมิลำเนาอยู่เมืองล่าเสี้ยว รัฐฉานภาคเหนือ ทั้งสองมาพบกันที่เมืองไทย และแต่งงานอยู่กินด้วยกันเมื่อ 4 ที่ผ่านมา มีลูกด้วยกัน 1 คน ส่วนลูกคนโตเป็นลูกติดนางพร ก่อนเกิดเหตุตนได้รับโทรศัพท์จากนางพร ว่า จะพาลูกมาเยี่ยมหาและจะมาร่วมทำบุญงานออกพรรษาด้วย ซึ่งไม่คาดคิดว่าทั้ง 4 คน จะมาถูกรถชนและเสียชีวิตพร้อมกัน
 
นางพีด กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการติดต่อหรือได้รับค่าชดเชยใดๆ จากกรมการประกันภัยหรือจากฝ่ายญาติของผู้ต้องหา และการจัดงานศพก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากใครซึ่งตนได้ไปยืมเงินญาติพี่น้องมาจัดสิ้นไปหลายหมื่นบาท ส่วนการดำเนินการต่างๆ ตนไม่รู้จะทำยังไง เพราะไม่รู้ขั้นตอน ขณะที่ลุงของผู้ต้องหาซึ่งมาร่วมงานศพด้วยบอกว่า หลังงานศพแล้วเสร็จจะช่วยติดตามเดินเรื่องให้ ซึ่งตนยังไม่แน่ใจว่าจะได้หรือไม่
 
การเสียชีวิตยกครอบครัวแรงงานชาวไทใหญ่ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากทั้ง 4 ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกัน โดยมีนายเดือน ผู้เป็นพ่อเป็นคนขับ ออกจากที่ทำงานซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างในอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ตั้งใจไปทำบุญงานออกพรรษาและไปเยี่ยมหาญาติที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ขณะไปถึงบนถนนเลียบรางรถไฟ หมู่ที่ 1 ต.สารภี อ.สารภี เชียงใหม่ เกิดอุบัติเหตุถูกรถยนต์ปิกอัพ ซึ่งมีนายกฤษดา เกิดสุวรรณ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/2 หมู่ที่ 1 ต.ป่าพลู อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน เป็นผู้ขับพุ่งชนอย่างจัง ทำให้นายเดือน และด.ญ.มาย เสียชีวิตคาที่ ส่วนนางพร และ ด.ช.มน อาการสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่และต่อมาทั้งสองก็เสียชีวิตภายในวันเดียวกัน
 
 
ที่มา: สำนักข่าวฉาน (SHAN – Shan Herald Agency for News) เป็นสำนักข่าวอิสระจัดตั้งโดยกลุ่มชนไทยใหญ่พลัดถิ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐฉาน สหภาพพม่า ตลอดจนตามแนวชายแดนไทย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรการเมือง / การทหารกลุ่มใด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ shan_th@cm.ksc.co.th หรือ ติดตามอ่านข่าวสารภาคภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org และภาษาไทยใหญ่ที่ www.mongloi.org

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net