Skip to main content
sharethis

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีระบุทุกฝ่ายควรมีสติ อย่าทำบ้านเมืองเสียหาย เผยได้คุยกับสมเด็จฮุนเซ็นแล้ว ย้ำให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเข้าใจคนไทยอยากจะอยู่อย่างสันติกับประเทศเพื่อนบ้าน เคารพในอธิปไตยของแต่ละฝ่าย ไม่เข้าไปแทรกแซงก้าวก่ายกัน

วานนี้ (27 ต.ค.) เวลา 08.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศกัมพูชาที่กำลังจะบานปลาย เนื่องจากในประเทศไทยใช้คำพูดค่อนข้างหยาบคาย ว่า เราทุกคนก็ควรจะมีสติกันทุกฝ่าย หากเราคิดแต่ที่จะทำร้ายคนอื่นก็จะเป็นปัญหา ซึ่งก็ต้องช่วยแก้ปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ปัญหาอยู่ที่ว่านโยบายรัฐบาลจะเอาอย่างไรให้ถูกทาง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลายด้วยสันติวิธีและพูดคุยกันเจรจากัน ทั้งกล่างด้วยว่าได้คุยกับสมเด็จฮุนเซ็นแล้ว ซึ่งสมเด็จฮุนเซ็นก็เข้าใจดี ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าตนจะไปเยือนประเทศกัมพูชานั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบตนตั้งแต่ต้นแล้วว่าถ้ามีประเด็นอะไรที่เกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน จะให้ตนช่วยเข้าไปดูแลให้ ฉะนั้น ถ้ามีประเด็นอะไรก็ต้องไปคุยกัน ซึ่งประเด็นที่ยังค้างอยู่ที่ตนคือเรื่องที่จะปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับการพัฒนาร่วมกันในทะเลเพื่อสำรวจหาก๊าซธรรมชาติหรือน้ำมัน ซึ่งเป็นเรื่องยาวที่คุยกันมาหลายรัฐบาล ก็ต้องคุยกันต่อ

โดยนายสุเทพเปิดเผยว่าประเด็นที่ได้พูดคุยกับสมเด็จฮุนเซ็นก็คือได้อธิบายให้สมเด็จฮุนเซ็นได้เข้าใจว่าที่สมเด็จฮุนเซ็นคิดว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้รับความเป็นธรรม ความจริงคงไม่ใช่ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของการไปข่มเหงรังแก พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กระทำผิดกฎหมายและพาลกระบวนการต่างๆที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย แม้กระทั่งกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกตัดสินจำคุกก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงกับสมเด็จฮุนเซ็นได้ทราบว่า ที่บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องไปอยู่ต่างประเทศในวันนี้เพราะผลมาจากการปฏิวัติ ตนก็บอกว่าการปฏิวัตินั้นได้จบไปตั้งนานแล้ว ส่วนรัฐบาลปฏิวัติก็อยู่แค่ปีเดียว

นอกจากนี้ยังมีกระบวนการในการจัดทำรัฐธรรมนูญและนำรัฐธรรมนูญนั้นไปจัดทำประชามติ ซึ่งคนส่วนใหญ่ในประเทศก็เห็นด้วยให้ประกาศใช้ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ และบริวารก็ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะได้ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และได้ชนะการเลือกตั้งเป็นรัฐบาล มีรัฐมนตรีถึง 2 คนคือนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนที่ทั้ง 2 คนต้องพ้นตำแหน่งก็ไม่ใช่เพราะรัฐบาลปฏิวัติ ซึ่งเรื่องจบไปแล้ว แต่เป็นเพราะว่าทั้ง 2 คน มีผลจากการทำผิดกฎหมาย ทั้งกฎหมายว่าด้วยคุณสมบัติทางการเมืองและคุณสมบัติการเลือกตั้ง ซึ่งก็ได้พิสูจน์โดยกระบวนการทางศาลทั้งสิ้น เรื่องนี้มันสายไปแล้วที่จะมาบอกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถ้าอ้างมาตั้งแต่ตอนที่มีการปฏิวัติและไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งก็คงจบไปแล้ว ซึ่งสมเด็จฮุนเซ็นก็เข้าใจดี

นายสุเทพกล่าวต่อไปว่าได้ชี้แจงให้ห้สมเด็นฮุนเซ็นทราบว่าที่มีคนโน้นคนนี้ไปพูดให้ชาวต่างประเทศเข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีอิทธิพลอยู่สูงมากในประเทศมีฝ่ายนั้นฝ่ายนี้เข้ามาสนับสนุน บางทีอาจจะไม่ใช่ภาพจริง ซึ่งเรื่องของประเทศไทยเป็นไปไม่ได้ที่จะให้นานาชาติมาช่วยตัดสินปัญหาประเทศไทย แต่เป็นเรื่องที่คนไทยต้องตัดสินปัญหาของเราเองการเมืองภายในคนไทยรู้และเข้าใจดีและจะเลือกวิธีการในการแก้ไขปัญหาของเราเอง ก็กราบเรียนท่าน ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุนเซ็นระบุว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศกัมพูชาจะมีการเปิดบ้านให้อยู่นั้น ไม่ได้มีการพูดคุยกันในประเด็นการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากตนไม่ได้เน้นในประเด็นนี้ และไม่ได้ชวนสมเด็จฮุนเซ็นโต้วาที เพียงแต่ไปคุยให้สมเด็จฮุน เซ็นได้เข้าใจว่าสถานการณ์ในประเทศไทยเป็นอย่างไร และได้ย้ำให้สมเด็จฮุนเซ็นเข้าใจว่าคนไทยอยากจะอยู่อย่างสันติกับประเทศเพื่อนบ้าน และเคารพในอธิปไตยของแต่ละฝ่าย ไม่เข้าไปแทรกแซงก้าวก่ายกัน ถ้ามีปัญหาก็มาคุยกันด้วยสันติวิธี อย่างไรก็ตาม หากสมเด็จฮุนเซ็นรักชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรเป็นเพื่อนกันมาก่อนก็เชิญเป็นเพื่อนกันต่อไป ไม่ได้เป็นปัญหา แต่ในระหว่างประเทศก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งหากสมเด็จฮุนเซ็นให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอาศัยอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ก็ต้องใช้กฎหมายระหว่างประเทศขอตัวมา ซึ่งท่านก็เข้าใจไม่มีปัญหา

นายสุเทพกล่าวด้วยว่า สมเด็จฮุนเซ็นก็ไม่ได้มีการสอบถามว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ แต่สมเด็จฮุนเซ็นได้บอกกับตนว่าไม่มีความปรารถนาที่จะเข้ามาแทรกแซงก้าวก่ายเรื่องภายในประเทศไทยแต่ประการใด เพราะสมเด็จฮุนเซ็นถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของคนไทย เคารพในอธิปไตยความคิดของคนไทยทั้งหลาย

สำหรับกรณีที่ขณะนี้มีกลุ่มวุฒิสภาและบางฝ่ายมีการเสนอให้รัฐบาลตัดความสัมพันธ์นั้น นายสุเทพกล่าวว่า คงทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านประเทศอยู่ใกล้กัน ถึงอย่างไรก็ต้องมีความสัมพันธ์กัน และใช้วิธีการพูดคุยกันดีกว่า แต่ความจริงเป็นเรื่องของคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นเอง ประชาชนทั้ง 2 ประเทศก็ยังมีไมตรีที่ดีต่อกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าไปประเทศกัมพูชาจริง คิดว่าทางนั้นจะมีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าไปคาดเดา เอาเป็นว่าทำอย่างที่ประเทศไทยเคยทำ ซึ่งหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไปประเทศกัมพูชาชัดเจน มีหลักมีฐานก็ทำเรื่องขอตัวไปตามกฎหมาย และอย่าเพิ่งไปคาดการณ์ล่วงหน้าว่ากัมพูชาจะไม่ส่งตัวให้

ท้ายที่สุด นายสุเทพกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวความไม่พอใจเกี่ยวกับกรณีของสมเด็จฮุนเซ็น นายวีระ สมความคิด ซึ่งจะเดินทางไปที่สถานทูตกัมพูชาว่า เราอย่าไปใช้อารมณ์ คนส่วนหนึ่งก็อย่าทำให้บ้านเมืองเสียหาย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net