ก.ต่างประเทศเผยขณะนี้มีคนไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุมเพียง 1 ราย

14 พ.ย. 52 - นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีกระแสข่าวกัมพูชาจับกุมคนไทยว่า ขณะนี้มีเพียงรายเดียว คือ นายศิวรักษ์ โชติพงษ์ วิศวกรชาวไทย ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำเพซอ ซึ่งตั้งอยู่ชานกรุงพนมเปญ พร้อมทั้งฝากเตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนก ให้ตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร เพราะมีกระบวนการพยายามเชื่อมโยงทำให้เกิดปัญหา อย่างไรก็ตาม ขอให้คนไทยในกัมพูชาใช้ความระมัดระวังในการดำเนินชีวิต หากมีสิ่งใดขอให้ประสานทางการไทยทันที
ส่วนความคืบหน้าการติดตามช่วยเหลือ นายศิวรักษ์ โชติพงษ์ วิศวกร บ.กัมพูชา แอร์ ทราฟฟิคเซอร์วิส หรือ CATS ที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุม โดยกล่าวหาว่าเป็นผู้ขโมยข้อมูลเรื่องตารางเวลาการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก่อนนำข้อมูลดังกล่าวไปให้เลขานุการเอกประจำสถานทูตไทยนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบสถานที่คุมขังที่แน่ชัดของนายศิวรักษ์แล้ว วันนี้เจ้าหน้าที่กงสุลของไทยในกัมพูชา และทนายส่วนตัวนายศิวรักษ์ จะเดินทางไปเยี่ยมพร้อมทั้งจะตั้งคณะทำงานด้านกฎหมาย ช่วยประสานงานในทางคดีแก่นายศิวรักษ์ และพร้อมจะให้ความสะดวกมากกว่าในกรณีอื่นๆ อีกด้วย
นายชวนนท์ เปิดเผยว่า ได้รับการยืนยันแล้วว่า นายศิวรักษ์ โชติพงษ์ วิศวกรไทย ถูกคุมตัวอยู่ที่เรือนจำเพซอ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้ยื่นเรื่องต่อกรมราชทัณฑ์กัมพูชาแล้ว ระบุ ขอทราบเหตุผลการจับกุมและขอเข้าเยี่ยม ซึ่งอยู่ระหว่างรอคำตอบจากทางการกัมพูชาทั้งนี้ ถือว่าเป็นโชคไม่ดีที่ช่วงเกิดเหตุ ติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งอาจทำให้การประสานงานให้ความช่วยเหลือเป็นไปค่อนข้างลำบาก แต่ยืนยันว่าทางการไทยจี้ติดเรื่องนี้ให้กัมพูชาดำเนินการเรื่องการเข้าเยี่ยมให้ได้โดยเร็วที่สุด
ด้าน นางวิมล คิดชอบ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศจะให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์เต็มที่ และการที่ไทยลดระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชา จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศตั้งความหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะให้การดูแลนายศิวรักษ์ตามขั้นตอน และกระบวนการของกฎหมายที่ถูกต้อง
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่สิงคโปร์ ไม่ประสงค์ที่จะหารือนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา เป็นการส่วนตัว เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศ ขณะที่ฝ่ายนายฮุนเซน ก็ไม่ได้ติดต่อประสานมา เพื่อขอหารือกับนายกรัฐมนตรีเช่นกัน
ทหารยันไม่มีสายลับชื่อมานิต
ด้าน พ.อ.สิทธิชัย มากกุญชร โฆษกกองทัพไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวกัมพูชาจับกุม นายมานิต เจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย ข้อหาสอดแนมที่โรงแรมซิตี้ อังกอร์ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นที่พักของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า จากการตรวจสอบจากศูนย์รักษาความปลอดภัยยืนยันว่า ทางหน่วยไม่มีเจ้าหน้าที่ที่ชื่อนายมานิตแต่อย่างใด แต่หากต้องการให้มั่นใจ ขอให้ผู้ที่นำเสนอข่าวระบุนามสกุลด้วย จะได้ตรวจสอบได้อย่างแน่ชัด อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ของกองทัพเข้าไปยังกัมพูชาและถูกจับกุม คงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากทางกัมพูชา แต่ข่าวที่เกิดขึ้นสร้างความเสื่อมเสียให้กับ ศรภ.
“กองทัพไทยขอเรียนว่า ขณะนี้มีข้อมูลข่าวสารออกมาจำนวนมาก และมีการเล่นข้อมูลข่าวสารกัน จึงอยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพกัมพูชา การค้าขาย และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวชายแดน ยังเป็นไปตามปกติ ส่วนเรื่องที่ทางการกัมพูชาระบุว่าถอนกำลังทหารออกจากบริเวณตามแนวชายแดนแล้วนั้น ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องนี้ กองทัพจะตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง” โฆษกกองทัพไทย กล่าว
โฆษกปชป. หนุนท่าที รัฐบาล จี้ 'กัมพูชา' แจง เหตุจับกุมคนไทย
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันท่าทีของประเทศไทย โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีสามารถที่จะแสดงถึงวุฒิภาวะในการแก้ปัญหาตลอดเวลาที่ผ่านมา และยังได้รับการยอมรับอย่างสูงบนเวทีการประชุมระหว่างประเทศทุกเวทีในอดีต จึงไม่น่าจะมีปัญหาประกอบกับที่ผ่านมาสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาและรัฐบาลกัมพูชาเคยมีปัญหาในลักษณะเดียวกัน เป็นที่รับทราบกันในกลุ่มประเทศอาเซียนอยู่แล้ว ขณะนี้มีประเด็นที่เป็นปัญหาภายใน คือ การยกเลิกเอกสิทธิคุ้มครองทางสภาต่อนายสม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านของประเทศกัมพูชาและเข้าใจว่า เรื่องนี้จะมีประเด็นที่น่าจะความสนใจมากกว่า ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนสามารถแยกแยะออกว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้เริ่มต้นจากประเทศไทย แต่รัฐบาลกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้น
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่ทางการกัมพูชาจับกุมนายศิวรักษ์ โชติพงษ์ ลูกจ้างบริษัทจัดการจราจรทางอากาศกัมพูชา โดยแจ้งข้อหาว่าขโมยข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติ ขอเตือนไปยังรัฐบาลกัมพูชาและสมเด็จฮุน เซน ว่าการดำเนินการดังกล่าว ถือว่านอกเหนือจากมาตราการทางการฑูต และขอให้ปฏิบัติตามข้อตกลง ว่าด้วยพันธสัญญาในการปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุม ซึ่งต้องสงสัยว่าต้องเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีการพิสูจน์ ว่ากระทำผิดตามข้อกล่าวหาและเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดูแล้วมีพิรุจหลายเรื่องอาจเป็นการดำเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์ทางการเมือง ทั้งนี้ จะเป็นการจงใจยั่วยุให้เกิดปฏิกิริยาจากฝ่ายไทย ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลกัมพูชาต้องตอบข้อสงสัยในการดำเนินการดังกล่าวคือ ข้ออ้างและการกล่าวหาว่าคนไทยและรัฐบาลไทย ได้สอดแนมข้อมูลที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นข้อมูลลับ ซึ่งโดยธรรมเนียมสากลข้อมูลที่เป็นตารางการบิน เป็นข้อมูลที่ต้องมีการประสานงานร่วมกัน กับประเทศที่เป็นพันธ การบินฝ่ายพลเรือน เพื่อที่จะสามารถให้ความปลอดภัยต่อเที่ยวบินต่างๆได้ แต่ทำไมกรณีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กัมพูชาจึงมองว่าเป็นความลับของรัฐบาลกัมพูชา
"สุเทพ"ยืนยันคนไทยถูกเขมรจับไม่ใช่สายลับ ระบุรู้อยู่แล้วว่าเครื่องบินทักษิณผ่านประเทศไทย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายศิวรักษ์ โชติพงษ์ วิศวกรไทย ถูกเจ้าหน้าที่กัมพูชาถูกจับกุมข้อหาลักลอบส่งข้อมูลตารางการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้รัฐบาลไทย โดยนายสุเทพ ยืนยันว่า นายศิวรักษ์ไม่ได้เป็นสายลับตามที่ถูกกล่าวอ้าง เพราะตารางการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่ความลับ เนื่องจากเป็นเครื่องบินเช่าเหมาลำ และได้ขออนุญาตกรมขนส่งทางอากาศและวิทยุการบินบินผ่านประเทศไทย ซึ่งกรมขนส่งทางอากาศอนุญาตเพราะไม่มีการแจ้งว่าเครื่องบินเช่าเหมาลำดังกล่าวมีอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นผู้โดยสาร
“รัฐบาลไทยรู้ตั้งแต่เริ่มต้นบินออกจากเมืองนาฎบุระ ประเทศอินเดีย ในเวลา 06.40 น. และผ่านน่านฟ้าไทยเวลา 08.20 น. เข้าสนามบินโกเชนตงของกัมพูชา ในเวลา 08.55 น. จึงไม่จำเป็นต้องล้วงเอาข้อมูลจากสถานีวิทยุการบินในกัมพูชา และทันทีรัฐบาลไทยรู้ข้อมูล ผมในฐานะที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ได้ทำหนังสือสั่งการไปยังวิทยุการบิน ไม่อนุญาตให้เครื่องบินที่อดีตนายกรัฐมนตรีบินผ่านน่านฟ้าไทย เพราะเป็นบุคคลที่ทำผิดกฎหมายและมีข้อหากระทบต่อความมั่นคง ซึ่งหากฝ่าฝืนก็จะส่งเครื่องบินขึ้นประกบบังคับให้ลงจอดในประเทศ และดำเนินการจับกุมทันที” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า จะนำหลักฐานดังกล่าวใช้ในการต่อสู้คดี เพื่อช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ที่กัมพูชา แต่รัฐบาลไทยจะไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา ซึ่งเบื้องต้นบริษัทสามารถ คอร์เปอเรชั่น ซึ่งเป็นต้นสังกัดได้จัดส่งทนายความเข้าไปช่วยเหลือแล้ว ในขณะที่รัฐบาลไทยจะให้กงสุลไทยเข้าไปติดตามและดูแล
นายสุเทพ เชื่อว่าการจับกุมคนไทยในกัมพูชาจะไม่ส่งผลให้ปิดสถานทูตไทยประจำกัมพูชา ทั้งนี้ รัฐบาลไทยจะดูแลความปลอดภัยสถานทูตกัมพูชาในประเทศไทย และเชื่อว่ากัมพูชาจะดูแลสถานทูตไทยในกัมพูชาเช่นกัน แต่หากมีการยกระดับความรุนแรงด้านความสัมพันธ์ รัฐบาลไทยก็พร้อมที่จะอพยพคนไทยออกจากกัมพูชาทันที
"ทักษิณ"ออกจากกัมพูชาแล้ว
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เดินทางออกจากประเทศกัมพูชา เพื่อกลับดูไบแล้วในช่วงเช้าของวันนี้ โดยนายปรัก สักฮอน รองรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางออกกัมพูชา ภายหลังจากเวลา 4 วันที่เขาเดินทางเข้ามาทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลกัมพูชาแต่งตั้ง
 
ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ, เว็บไซต์สยามรัฐ, เว็บไซต์คมชัดลึก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท