"จักรภพ" โฟนอินแจงไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อนอก เรื่องสะสมอาวุธ-ความรุนแรง

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่ร้าน Red shop ชั้น 5 ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำขบวนการประชาธิปไตยและแกนนำกลุ่มแดงสยาม อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้นัดหมายสื่อมวลชนเพื่อแถลงข่าวผ่านการโฟนอินชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวที่นายจักรภพให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศเกี่ยวกับการปฏิบัติทางทหารและมีการขนอาวุทธยุทโธปกรณ์บริเวณแนวชายแดนไทยกับกัมพูชา ว่า ขอยืนยันว่า ไม่ได้เคยให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวดังกล่าว เพราะนายชอว์น คริสพิน (Shawn Crispin) ของเอเชีย ไทม์ส ออนไลน์ ได้นัดสัมภาษณ์ตนเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ผ่านผู้ประสานงานสื่อต่างประเทศของตนและยังได้ถ่ายภาพที่สัมภาษณ์ตนครั้งนี้เป็นหลักฐานด้วย อีกทั้งได้สนทนาเพียงกว้างๆ ในประเด็นอนาคตของการต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตยและวิสัยทัศน์ของตนต่อการเมืองไทยในอนาคต ทั้งนี้ยืนยันว่า ไม่ได้ให้สัมภาษณ์และไม่ปรากฎว่ามีประเด็นเกี่ยวกับการสะสมอาวุธ ซึ่งได้คุยกับนายชอว์นครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้าย และไม่มีการติดต่ออีกจนบัดนี้

"เมื่อมีประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงนี้ สื่อไทยบางส่วนก็คว้าเอาไปเล่นข่าวกันเสมือนเป็นเรื่องจริง โดยไม่เคยตรวจสอบกับผมเลย ทำให้เกิดคำถามว่าคนเหล่านี้มีแผนอะไรกัน ผมขอตั้งประเด็นไว้ว่าเป็นเจตนาป้ายสีผมโดยหวังให้เกิดผลบางอย่างในทางการเมือง และขอย้ำว่าการเตรียมการใดๆ ที่ใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะสถานที่ใดไม่ใช่แนวทางของผมและผู้สนับสนุนตัวผมเด็ดขาด การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในไทยจะต้องเกิดจากพลังขับดันภายในประเทศ และเกิดโดยสงบสันติ เมื่อปวงชนชาวไทยมีความพร้อมแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้ฝ่ายที่สนับสนุนประชาธิปไตย โปรดฟังหูไว้หู ก่อนจะเชื่อข่าวดังกล่าว และอย่ากระทำการใดๆ ที่เป็นการเหยียบย่ำคนในฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันเพื่อให้ทางศัตรูวิพากษ์วิจารณ์ได้เสมอ และอย่าใช้วิชามารป้ายสีตีตราทำร้ายผู้สนับสนุนอีกกลุ่มหนึ่งเพราะลุ่มหลงในลัทธิพรรคพวกอย่างเกินเลย เป็นต้น พึงละเว้นเสีย" นายจักรภพ กล่าว

นอกจากนี้ นายจักรภพ กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของเสื้อแดงในวันที่ 28 พฤศจิกายน ว่า การชุมนุมลักษณะใดก็ถือเป็นประโยชน์ต่ออนาคตทั้งสิ้น การรวมมวลชนไม่ว่าจะสถานการณ์ใดๆถือเป็นการประคองประชาธิปไตยไปสู่ระยะยาว และยังเป็นการให้ความรู้ประชาธิปไตยเพื่อจัดตั้งฝ่ายประชาธิปไตยให้มีประสิทธิเหมือนฝ่ายตรงข้ามถึงจะพูดเรื่องชัยชนะได้ ส่วนกลุ่มเสื้อแดงจะล้มรัฐบาลได้หรือไม่นั้น มองว่าไม่ว่าฝ่ายใดก็ถือเป็นฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันเพียงแต่มีหลายแนวทางในการต่อสู้ ซึ่งการล้มรัฐบาลนั้นต้องมองลึกด้วยว่าเมื่อโค่นล้มได้แล้วเราจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับมาหรือไม่

นายจักรภพ กล่าวว่า ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นระยะบ้างทางโทรศัพท์ และพ.ต.ท.ทักษิณได้ฟังความเห็นหลายคนในการกำหนดเกมเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงซึ่งไม่ใช่แค่ปรึกษาตนเท่านั้นแต่ฟังเสียงประชาชนด้วยเพราะเป็นที่ปรึกษาที่ใหญ่ที่สุด ส่วนการชุมนุมเสื้อแดงจะจบเกมได้หรือไม่ ไม่ขอวิจารณ์แต่ขอให้ทำงานด้านมวลชนเต็มที่ เพราะเวลานี้เป็นการสู้กันระหว่างอำมาตย์กับประชาธิปไตยยากที่จะชี้ชัดได้ว่าผลจะเป็นอย่างไร หากจะมีการส่งไม้ต่อให้พวกเราเมื่อไรตนก็พร้อมรับเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่าจะรับไม้ต่อจาก นปช.ใช่หรือไม่หากการชุมนุมไม่ประสบผล นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่กล้าพูดเช่นนั้น แต่บอกแค่ว่าการพัฒนาประชาธิปไตยตอนนี้ระดมมวลชนกัน ซึ่งการต่อสู้ระยะต่อไปต้องรวมถึงการจัดตั้งให้เป็นระบบยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ขอบอกในตอนนี้ได้ และยืนยันไม่ใช่เรื่องการใช้อาวุธหรือความรุนแรงแน่ เพียงแต่ต้องเตรียมที่จะไปแทนที่กลไกอำมาตย์ที่เข้มแข็งกว่าประชาธิปไตยให้ได้

เมื่อถามว่า แดงสยามกับกลุ่ม นปช.มีความสัมพันธ์ทิศทางเดียวกันหรือไม่นายจักรภพ กล่าวว่า ยังเดินสู่ประชาธิปไตยเดียวกัน ก็คือปวงชนชาวไทยมีอำนาจสูงสุด ส่วนเรื่องยุทธวิธีจะเดินไปอย่างไร เราเชื่อว่าจะรวมความคิดออกมาให้ดีที่สุด เพราะเจตนารมณ์ฝ่ายประชาธิปไตยเหมือนกันหมดไม่มีความแตกต่างกัน ไม่มีความแตกร้าวด้านความคิดใดๆ มีแต่ความหลากหลายในยุทธวิธีเท่านั้นไม่ใช่เรื่องที่แปลก และเชื่อว่าเวลาจะสมานเรากลับมาด้วยกัน แต่ทั้งนี้ขอร้องว่าหากเป็นฝ่ายเสื้อแดงหรือประชาธิปไตยด้วยกันอย่าทำร้ายกัน

เมื่อถามถึงคดีความของนายจักรภพที่อัยการได้เลื่อนฟ้องมาหลายครั้งแล้วจะกลับมาสู้คดีหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ได้ติดตามอยู่ แต่ไม่แน่ใจว่าขณะนี้เกิดอะไรขึ้นเพราะคดีเลื่อนแล้วเลื่อนอีก และอยากจะให้คดีจบเรื่องเร็วที่สุดไม่ว่าผลออกมาด้านใด จะได้ทราบและพร้อมรับทุกอย่างอยู่แล้ว ส่วนจะกลับมาต่อสู้คดีได้เมื่อไรนั้น แต่ตอนนี้ ขอใช้เวลาในการอธิบายให้ชาวโลกได้รู้ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นในเมืองไทยเพราะไม่มีประโยชน์ที่จะเดินทางกลับที่จะไปแสดงจุดยืนเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากคดี แต่ทั้งนี้ ช่วงนี้จะเดินทางไปประเทศทั่วโลกมาแล้ว 10 ประเทศยังพบรัฐบาลและสื่อมวลชน กลุ่มนักธุรกิจ รวมทั้งจะไปบอกองค์การระหว่างประเทศเพื่ออธิบายความผิดของฝ่ายอำมาตย์ โดยเฉพาะเรื่องการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ หากหมดเรื่องพวกนี้จะกลับไทยเพื่อไปกราบประชาชนแน่

สาทิตย์เตือนสื่อ นำเนื้อหาการโฟนอิน "จักรภพ" เผยแพร่ เสี่ยงผิด กม.
ก่อนหน้าการโฟนอินของนายจักรภพ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมร่วมรัฐสภา ที่รัฐสภาว่า กรณีนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตแกนนำ นปช. เตรียมโฟนอินในการชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช.ว่า กรณีนายจักรภพมีหมายจับอยู่ จะต้องดูว่ามาจากที่ไหน อย่างไร ประเด็นใหญ่มี 2 เรื่องคือ 1. เนื้อหาที่แถลงจะเป็นเรื่องอะไร หากเป็นเรื่องที่เสี่ยง ผิดกฎหมายก็จะต้องดำเนินการ เช่น เช่น ผู้อำนวยความสะดวกหรือเผยแพร่ข่าวที่มีการแถลงออกไปจะต้องมีความระมัดระวังเนื้อหาด้วย หากผิดกฎหมายจะต้องดำเนินการ เนื่องจากคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีความประสงค์ดีแน่ 2. เป็นการดำเนินการที่ร่วมกันเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนวุนวายในบ้านเมือง ตั้งแต่การเดินทางไปกัมพูชา ของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย การเข้าไปเป็นที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชา ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีเหตุการณ์ต่อเนื่อง ทำให้เกิดความวุ่นว่ายในประเทศ

"เรื่องนี้รัฐบาลจับตาแน่นอน กับคนที่มีท่าทีปรปักษ์กับประเทศและสถาบัน อย่างคุณจักรภพไม่ใช่เรื่องประสงค์ดีแน่ๆ คิดว่าการโฟนอินครั้งนี้จะต้องดูที่มาที่ไปของตัวโฟนอินด้วยใช้ที่ไหน อย่างไร ส่วนสถานที่ เข้าใจว่าอิมพิเรียล ลาดพร้าว ต้องดูด้วยว่าเข้าข่ายกฎหมายใดที่จะต้องดำเนินการ และถึงเวลาแล้วที่จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้นกลุ่มคนเหล่านี้จะสร้างความวุ่ยวายให้แก่ประเทศไม่รู้จักจบ" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินการกับนายจักรภพจะเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ติดตามกันอยู่ตลอด ต้องยอมรับว่าเรื่องระหว่างประเทศมีกฎหมายและระเบียบของมันอยู่ใม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะเห็นว่าการออกหมายก็ทำไปตามขั้นตอน ก็ตามกันอยู่

เมื่อถามว่า นายจักรภพ ระบุว่าจะขนอาวุธเบาเข้ามาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รัฐบาลได้ตรวจสอบหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงก็ตามอยู่ ในขณะนั้นยังไม่มีเรื่องชัดเจน คิดว่าต้องทำความเข้าใจกับประชาชน เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้น คนกลุ่มนี้พยายามทุกทางที่จะล้มรัฐบาลเพื่อกลับเข้าสู่อำนาจ ข่าวสารที่ออกมาไม่อยากให้ประชาชนสับสนและสื่อมวลชนจะต้องกรองข่าวสารด้วย ยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมที่จะรับสถานการณ์ทุกประเภทและยังดูแลได้

 

 

ที่มา: มติชนออนไลน์และไทยรัฐออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท