“ภานุพงศ์” ประชุมกองปราบนัดแรก ยอมรับมี ขรก.ระดับสูงเอี่ยวทุจริตซื้อรถสายตรวจ/แจงสื่อไม่หนักใจ- วอนมั่นใจพนักงานชุด“ปทีป”สั่งมาคุม ดูแลงานสืบฯ-เผยพอใจพยานหลักฐานกองปราบ/ยืนยันใครผิดต้องว่าตามนั้น

28 พ.ย. 52 เวลา 11.50 น. พล.ต.อ.ภานุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รักษาการที่ปรึกษา(สบ.10) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีการตรวจสอบการทุจริตการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจของ สตช.ภายหลังเข้าประชุมเกือบ 2 ชั่วโมง ว่า พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผบ.ตร. แต่งตั้งให้ตนเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่สนใจของประชาชน มีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ต้องสอบสวนให้เกิดความเป็นธรรม ขณะนี้มีข้อมูลเบื้องต้น ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งหลังจากนั้นก็คงจะทราบว่าใครเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องอย่างไร  ยังต้องใช้เวลา เพราะตอนนี้เพิ่งเริ่มต้น

“ท่านปทีป รักษาการ ผบ.ตร. แต่งตั้งผมเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน มีทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และรักษาการผู้การกองปราบ ก็ร่วมเป็นคณะทำงานกับทีมงาน เพราะท่านมีความเป็นห่วง เพราะเรื่องนี้เป็นที่สนใจของประชาชนและก็มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้อง ท่านก็ได้สั่งการกำชับมา ให้ผมมาควบคุมกำกับดูแลงานสืบสวนสอบสวนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดความเป็นธรรมครับ ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ เท่าที่ตรวจสอบการรวบรวมพยานหลักฐานเท่าที่ทางกองปราบปรามทำมาก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ใครที่เข้าไปเกี่ยวข้อง หากพยานหลักฐานระบุถึงเราก็จะดำเนินการต่อไปครับ ไม่หนักใจ ใดๆ ทั้งสิ้น”

ถามว่าข้าราชการระดับสูงมีระดับใดบ้าง พล.ต.อ.ภานุพงศ์ กล่าวว่า เดี๋ยวยังต้องดูและต้องตรวจสอบอีก

ถามว่าคดีมีข้อมูลจำนวนมากน่าหนักใจหรือไม่  พล.ต.อ.ภานุพงศ์ กล่าวว่า “ไม่หนักใจครับ เพราะท่านรักษาการฯ ท่านปทีป ท่านกำชับอยู่แล้ว ให้ดำเนินการไปตามพยานหลักฐานทั้งหมด ใครเกี่ยวข้อง ใครผิด ก็ต้องว่าไปตามนั้น ไม่หนักใจนะครับ”

ถามว่าหากผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูง พล.ต.อ.ภานุพงศ์ กล่าวว่า ไม่น่าหนักใจเลย เพราะทุกอย่างอยู่ที่พยานหลักฐานหมดครับ ไม่ได้หนักใจ เพราะท่านปทีปท่านก็เน้นย้ำกำชับมา

ถามว่าดูแล้วจะส่งผลทางการเมืองหรือไม่ พล.ต.อ.ภานุพงศ์ กล่าวว่า ต้องใช้เวลารวบรวมหลักฐาน

ถามว่าจากนี้ไปจะมีการเชิญตัวใครบ้าง พล.ต.อ.ภานุพงศ์ กล่าวว่า จะมีการทยอยเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมา ตอนนี้พนักงานสืบสวนสอบสวนก็ได้ทำตารางนัดหมายไว้เรียบร้อยแล้ว 

ถามว่าจะมีใครเพิ่มเติมนอกจากที่เป็นที่รับรู้อยู่แล้วหรือไม่ พล.ต.อ.ภานุพงศ์ กล่าวว่า ก็เดี๋ยวสอบสวนไปนะครับ ใครที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เราก็ต้องเรียกตัวมาสอบ แล้วเรามีพยานหลักฐานในส่วนไหน ก็จะดำเนินการในส่วนนั้น ก็ขอให้สบายใจนะครับ เพราะท่านปทีปท่านก็มีความเป็นห่วงอยู่แล้ว ก็ให้ผมและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่จากสอบสวนกลางลงมาควบคุมดูแลการปฏิบัติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่น่าเป็นห่วง 

ถามว่าจะเรียกนายตำรวจระดับสูงมาสอบด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.ภานุพงศ์ กล่าวว่า “ก็ใครเข้าไปเกี่ยวข้องนะครับ เราก็อาจจะเรียกมาให้ข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์กับรูปคดีนะครับ เราก็ต้องเชิญมาสอบสวนนะครับ ก็ขอให้มีความเชื่อมั่น ในชุดคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ท่านปทีปตั้งมา เราก็จะทำงานด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมและให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายครับ ขอให้เกิดความมั่นใจได้”

ถามว่าตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่สุดที่สามารถสาวไปถึงสามารถเปิดเผยได้หรือไม่ พล.ต.อ.ภานุพงศ์ กล่าวว่า หากใครเกี่ยวข้อง เดี๋ยวเราก็ต้องรวบรวมและต้องเชิญมา ไม่ต้องห่วงเลย อันนี้ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะหากพยานหลักฐานเกี่ยวข้องกับใคร เราก็ต้องดำเนินการในส่วนนั้นอยู่แล้ว อันนี้ไม่ต้องเป็นห่วงเลย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมดังกล่าวเริ่มต้นเวลาประมาณ 10.10 น. ที่ห้องประชุมสุรสีหนาท โดยผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ พล.ต.อ.ภานุพงศ์ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม(รรท.ผบก.ป.)  พ.ต.อ. พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.2 บก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.4บก.ป. พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนกองปราบปราม