แกนนำเสื้อแดงนัดชุมนุม 10 ธ.ค. แสดงเจตนารมณ์ เรียกร้องรัฐธรรมนูญปี 40


สื้อแดงนัดชุมนุม 10 ธ.ค.นี้ แต่ไม่ใช่ขับไล่รัฐบาล
สำนักข่าวไทย  รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.52 ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ร่วมกันแถลงข่าวนัดชุมนุมในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยจะเริ่มตั้งแต่ 12.00-24.00 น.

นายวีระ กล่าวว่า การนัดชุมนุมครั้งนี้เพื่อแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านเผด็จการและเรียกร้องประชาธิปไตย ให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาบังคับใช้ ซึ่งไม่ใช่การชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาล แต่จะเชิญนักวิชาการมาแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและ สถานการณ์บ้านเมือง เบื้องต้นนายอุดม มั่งมีดี อดีตหัวหน้าคณะผู้พิพากษาศาลฎีกา และนายคณิน บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ตอบรับที่จะเข้าร่วม
 
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จะไม่มีการดาวกระจายไปจุดอื่น และจะใช้โอกาสนี้จุดเทียนชัยถวายพระพร ขณะเดียวกันในวันที่ 9 ธ.ค. แกนนำคนเสื้อแดงจะหารือเพื่อกำหนดท่าทีในการชุมนุมใหญ่ก่อนจะแถลงอย่างเป็น ทางการอีกครั้ง และหากรัฐบาลจะประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ก็สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า คนเสื้อแดงมีความเป็นเอกภาพและไม่มีปัญหาขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทยตามข่าว

อภิสิทธิ์โยน “สุเทพ” ประเมินม็อบแดง 10 ธ.ค.
คมชัดลึกรายงาน  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายสุเทพไปประเมินสถานการณ์ ส่วนแนวโน้มประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง อยู่ที่ฝ่ายความมั่นคงจะประเมินสถานการณ์ รัฐบาลต้องการให้บรรยากาศเป็นไปด้วยดี แต่เราไม่สามารถไปจำกัดสิทธิการชุมนุมกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ ซึ่งการชุมนุมเป็นสิทธิของประชาชน

เมื่อถามว่า เป็นการเล่นสงครามประสาทกับรัฐบาลหรือไม่ พอรัฐบาลยกเลิก พรบ.มั่นคง เสื้อแดงก็ประกาศชุมนุมทันที นายกฯ กล่าวว่า การใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็เพื่อควบคุมพื้นที่ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย ซึ่งไม่ได้ละเมิดสิทธิประชาชน กฎหมายมีไว้ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวกองกำลังทหารพรานค่ายปักธงชัย จะมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดงด้วย นายกฯ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของทางทหารจะเข้าไปตรวจสอบ นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวว่า ตนยังมั่นใจในการข่าวขณะนี้

“สุเทพ” เตรียมประเมินสถานการณ์
ด้านสำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ล่าสุดประกาศชุมนุมในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ว่า จะต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษา ความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีบุคคลบางกลุ่มพยายามจะสร้างสถานการณ์ในช่วง เทศกาลปีใหม่ในกรุงเทพมหานครนั้น ตนเองได้ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ว่าได้มีการประเมิน สถานการณ์ ซึ่งพบว่าไม่น่ากังวลใจ พร้อมได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเทศกิจ และอาสาสมัคร ช่วยสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนด้วย

รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติให้ นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มีความผิดจากการถือครองหุ้นในบริษัทเอกชนเกินร้อยละ 5 ว่า ตนเองพึ่งทราบข่าวดังกล่าวและจะไม่ฉวยโอกาสในขณะนี้เพื่อปรับคณะรัฐมนตรี

“พัลลภ” ย้ำพท.ลงมติไม่เคลื่อนไหวตลอดเดือน ธ.ค. ชี้สงบศึกถึงปีใหม่
ส่วนมติชนออนไลน์ รายงานว่า พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าตลอดเดือนธันวาคมพรรคเพื่อไทยจะไม่เคลื่อนไหวหรือชุมนุมใดๆ รวมถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า อาจมีกลุ่มไม่หวังดีเตรียมก่อเหตุระเบิดใหญ่ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 ก็ขอยืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือกลุ่มพวกตนเช่นกัน

โดย พล.อ.พัลลภให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมว่า ได้ประชุมกันแล้วว่าในเดือนธันวาคมจะไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นช่วงวันสำคัญของประเทศ เป็นห้วงเวลาที่คนไทยต้องการมีความสุขกับวันสำคัญต่างๆ ไล่ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 10 ธันวาคม วันรัฐธรรมนูญ และวันที่ 31 ธันวาคม-1 มกราคม วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเกิดเหตุรุนแรงช่วงดังกล่าวไม่ใช่ฝีมือคนในพรรคเพื่อไทย พล.อ.พัลลภกล่าวว่า ใช่ เพราะเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ตนกับ พล.ท.อุดม เกษพรหม อดีตเสนาธิการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ แกนนำกลุ่ม จปร.9 สมาชิกพรรคเพื่อไทย และ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ได้คุยกันในพรรคเพื่อไทย แล้วว่าจะไม่ทำอะไรช่วงดังกล่าวแน่นอน และหลังปีใหม่ค่อยมาหารือกันอีกครั้งว่า จะเคลื่อนไหวอย่างไร เมื่อถามว่า พล.ท.อุดมระบุว่ามีทหารและนักการเมืองวางแผนและเตรียมระเบิดจำนวนมากใช่ สร้างสถานการณ์ช่วงปีใหม่ พล.อ.พัลลภกล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถาม พล.ท.อุดม แต่ที่เจอกันที่พรรคเพื่อไทยไม่เห็นพูดอะไร คงต้องถามเขาอาจมีข้อมูลบางอย่าง

เชื่ออดีตทหารปักธงชัยยังเกาะกลุ่ม
เมื่อ ถามถึงกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะระบุว่า มีการเตรียมกองกำลังทหารพรานค่ายปักธงชัย จ.นครราชีสีมา ที่เคยถูกยุบไปสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลไว้เป็นกำลังต่อกรอำนาจกองทัพ พล.อ.พัลลภกล่าวว่า ทหารพรานค่ายปักธงชัยเป็นทหารหน่วยรบ เคยปฏิบัติการรบทั้งภายในและนอกประเทศ ดังนั้น เมื่อยุบหน่วยไป ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมรบ ผู้บังคับบัญชาและลูกน้องยังมีอยู่ เพราะเคยร่วมเป็นร่วมตายกันมาในสนามรบ

“ผม ไม่เคยเป็นทหารหน่วยนี้ แต่ พล.ต.ขัตติยะเคยเป็น เขาคงคุยกับเพื่อนร่วมรบในอดีต ซึ่งทหารหน่วยนี้ถือว่ามีความเชี่ยวชาญการบมาก เป็นหน่วยทหารที่ติดอาวุธสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ สมัยก่อน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อปราบปรามกองกำลังผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และปฏิบัติภารกิจรบนอกแบบทุกสมรภูมิ ถือเป็นกองกำลังเสริมหน่วยทหารหลัก แต่สมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้บัญชาการทหารบกสั่งยุบไป ทั้งนี้ ทหารที่เคียงบ่าเคียงไหล่ในสงครามยังไปมาหาสู่กันอยู่ เมื่อผู้บังคับบัญชาต้องการความช่วยเหลือน่าจะเป็นไปได้ พล.ต.ขัตติยะเคยอยู่หน่วยนี้น่าจะรู้ดี”

“เสธแดง” เผยมีการระดมอดีตทหารพรานป้องแดง
พล.ต.ขัต ติยะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเตรียมกองกำลังทหารพรานค่ายปักธงชัย ที่เคยอยู่ใต้การบังคับบัญชาของ พล.อ.ชวลิต รวมตัวปกป้องกลุ่มคนเสื้อแดงว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พล.อ.พัลลภ เรียกตนไปพบ เพราะขณะนี้ทหารพรานค่ายปักธงชัยที่ถูกยุบกำลังรวมตัวกันประมาณ 1,000 คน และเตรียมอาวุธหนักพร้อมรบ เพราะเห็นว่ารัฐบาลไม่มีความเป็นธรรมเกิดสองมาตรฐาน ซึ่งตอนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ปิดสนามบิน แต่ทหารไม่ออกมาปราบปราม แต่เมื่อกลุ่มเสื้อแดงออกมาล้อมทำเนียบรัฐบาล อย่างเหตุการณ์เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทหารออกมาปราบปรามใช้อาวุธปืนยิง ซึ่งอดีตทหารพรานเหล่านี้จะออกมาแฝงเป็นการ์ดคนเสื้อแดง เวลามีม็อบเสื้อแดงจะแฝงตัวไป ดังนั้น ขอเตือนว่าทหารอย่าออกมาช่วงนี้ เพราะจะถูกทหารพรานที่มีอาวุธพร้อมรบออกมา อาจทำให้เกิดสงครามกลางเมืองได้ ที่สำคัญทหารพรานเหล่านี้ใช้อาร์พีจีเก่งกว่าทหารหลัก

ขู่ทบ."ปลด-ถอดยศ"ระวัง
พล.ต.ขัต ติยะกล่าวว่า การที่ พล.อ.พัลลภเรียกตนไปพบ เพราะต้องการไปเคลียร์ว่า อย่าเพิ่งให้ทหารพรานเข้ามา ปล่อยให้เป็นการต่อสู้กันเองของรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทั้งนี้ การที่ทหารพรานออกมาเป็นเพราะ พล.อ.ชวลิตเป็นคนตั้งค่ายนี้ขึ้นมา เมื่อ พล.อ.ชวลิตลงเล่นการเมืองเขาจึงอยากจะออกมา และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีบุญคุณขึ้นเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงให้

“ผม พยายามบอกทหารว่าอย่าออกมา แต่กลับมีคนมาด่าว่าผม และหาเรื่องปลด ถอดยศ ทั้งที่ไม่มีความผิดด้านวินัย ตกลงกองทัพบกอยู่ใต้คำสั่งของนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่หรือของใคร เพราะแค่เขาบอกให้สั่งสอบก็จะสอบผมทันที หากปลดผมก็เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะไม่มีความผิดอะไร จะมาถอดยศผมได้อย่างไร คนที่ถอดยศผมได้มีเพียงพระองค์เดียว ผมมาปกป้องกองทัพ หากปลดผมระวังออกจากกองทัพไม่ได้”

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท