แกว เก่อ ลึ: อ่อง สู่ ผู้รอดจากพายุและทหารพม่า

ชะตากรรมของ “อ่อง สู่” เด็กชายจากพม่าที่รอดจากพายุนาร์กีส ถูกทหารพม่าจับไปเป็นทหารเด็ก ก่อนที่เขาจะหนีทหารข้ามมาอยู่ฝั่งไทยได้สำเร็จ

เด็กชายอ่อง สู่ ผู้รอดตายจากพายุและทหารพม่า (ที่มา: www.kwekalu.net)

 

ชะตากรรมของ “อ่อง สู่เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่เด็กชาย “อ่อง สู่” วัย 14 ปี (ปัจจุบันอยู่ฝั่งไทย) พ่อแม่เขาได้จากเขาไปในช่วงพายุนาร์กิสพัดถล่ม เมื่อเดือนพฤษภาคม 2551 ที่ผ่านมา ทำให้อ่อง สู่ ได้กลายเป็นเด็กกำพร้าทันทีโดยไม่รู้จะพึ่งใคร ชีวิตในการเผชิญปัญหาไม่จบเพียงแค่นั้น อ่อง สู่ ต้องเจอกับปัญหาใหม่ที่เข้ามา หลังจากพ่อแม่จากไปไม่นานยังถูกทหารพม่าจับไปเพื่อไปเป็นทหารรบกับผู้ที่ต่อต้านเผด็จการพม่า

อ่อง สู่ เป็นคนในหมู่บ้านทีท่าเซว พ่อชื่อเคโอเมี๊ยะ แม่ชื่ออูจีเอ ช่วงที่เกิดพายุ อ่อง สู่ กับพ่อแม่อยู่ในเรือ พ่อกับแม่ถูกพายุพัดหายไปกับเรือ ส่วน อ่อง สู่ ที่รอดมาได้เพราะเขาขึ้นไปอยู่บนต้นไม้

หลังจากนั้น อ่อง สู่ ได้ไปอาศัยในบ้านกับเพื่อนและช่วยเพื่อนทำงานเท่าที่จะทำได้ ตอนนั้นเป็นเวลาที่ทหารพม่าต้องการทหารใหม่และบังคับชาวบ้านให้ไปเป็นทหารหมู่บ้านละ 11 คน อ่อง สู่ กับเพื่ออีก 3 คนจึงถูกเผด็จการทหารพม่าจับไปด้วย

อ่อง สู่ กับเพื่อนอีก 4 คนหลังจากถูกจับ ก็ถูกส่งต่อเพื่อไปฝึกทหาร เขาได้ฝึกทหาร 4 เดือนกว่า จากนั้นเขาถูกส่งไปเป็นทหารราบ สังกัดกองพันที่ 17 ในจังหวัดบลิ๊ โดย อ่อง สู่ กล่าวว่า “ในกองพันที่เขาสังกัดอยู่มีทหารที่เป็นเด็กอายุระหว่าง 13 -15 ปี มีอยู่ประมาณ 50 กว่าคน ได้รับค่าจ้างเดือนละประมาณ 21,000 จั๊ต (672 บาท) แต่ก็ถูกผู้บังคับบัญชาหักอีกและเดือนสุดท้ายที่เขาได้รับนั้นเหลือเพียง 5,000 -6,000 จั๊ต (160-192 บาท) เท่านั้น”

อ่อง สู่ ได้อยู่ในกองพันที่ 17 ได้ 8 เดือนหลังจากนั้นต้องเริ่มเป็นทหารแนวหน้า ในกองทัพสังกัดกองพลน้อยที่ 4 อยู่ได้ 1 เดือนกว่าต้องเผชิญกับการรบกันเองของชาวกะเหรี่ยง ถึง 2 ครั้งและเป็นอีกครั้งที่ อ่อง สู่ เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด

เขากล่าวว่า “ผมได้เป็นแนวหน้าได้เดือนกว่ามีอาการไม่สบายถึงขนาดรากออกมาเป็นเลือด แบกของก็ไม่ไหว เดินต่อก็ไม่ไหว สุดท้ายผู้บัญชาการบอกกับผมว่าหากทำอะไรไม่ไหวแล้วให้หลบหนี ผมได้หนีไปถึงกระท่อมในไร่เขาที่หนึ่ง (บ้านเก่อมิทีคี) จึงได้เห็นผู้คนแถวนั้น ทันทีที่เขาเห็นผมเขาก็ยิงมาโดยคิดว่าผมเป็นทหารพม่า แต่ปืนยิงไม่ออกทำให้รอดมาได้”

ภายหลังชาวบ้านแถวนั้นได้แนะนำให้เขารู้จักกับผู้นำชาวกะเหรี่ยงที่ต่อต้านเผด็จการทหารพม่า เขาจึงตามไป อ่อง สู่ หนีจากการเป็นทหารเมื่อสิ้นเดือนสิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา

ตอนนั้นจะทำอย่างไร จะไปที่ไหนต่อ อ่อง สู่ ยังตัดสินใจไม่ได้ หากกลับไปก็ต้องถูกเผด็จการทหารพม่าจับเข้าคุก ส่วนที่หมู่บ้านของเขา เขาบอกว่าเหลือคนที่พอจะรู้จักอยู่แค่ 5 คนเท่านั้น อย่าไรก็แล้วแต่เป้าหมายสูงสุดของเขาคือการกลับไปทำบุญให้กับพ่อแม่ที่จากไป

“ส่วนตัวคิดว่าการทำงานที่นี่ (ฝั่งไทย) เมื่องานเสร็จแล้วจะกลับไปที่หมู่บ้าน เพราะตั้งใจจะกลับไปทำบุญให้กับพ่อแม่ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ” อ่อง สู่ กล่าวทิ้งท้าย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท