Skip to main content
sharethis

“มาร์ค” เมินผู้ใช้แรงงาน กลัวทุนรถยนต์นอกหนี จี้กระทรวงแรงงานเคลียร์ปัญหาพิพาทแรงงาน “ฟอร์ด-มาสด้า” หลังตัวแทนบริษัทรถยนต์ฟอร์ดเข้าพบและขู่ว่าหากไทยยังแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่จบ อาจส่งผลต่อการพิจารณาลงทุนในไทยและอาจมีปัญหาถึงขั้นย้ายฐาน

 
“มาร์ค” จี้กระทรวงแรงงานเคลียร์ปัญหาพิพาทแรงงาน ไทรอัมพ์ และ “ฟอร์ด-มาสด้า” ห่วงนักลงทุน
7 ม.ค. 53 – เวบไซต์ไทยโพสต์รายงานว่านายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ (รศก.) หรือ ครม.เศรษฐกิจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้กระทรวงแรงงานเร่งแก้ปัญหาการชุมนุมเรียกร้องของแรงงานกรณี อุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมสิ่งทอ (กรณีโรงงานไทรอัมพ์) เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีตัวแทนบริษัทรถยนต์ฟอร์ดเข้าพบ และระบุว่าหากไทยยังแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่จบ อาจส่งผลต่อการพิจารณาลงทุนในไทยและอาจมีปัญหาถึงขั้นย้ายฐานการลงทุน
 
ขณะเดียวกัน ครม.เศรษฐกิจยังได้รับรายงานจากกระทรวงแรงงานถึงสถานการณ์ด้านแรงงานไทย ซึ่งมีสัญญาณชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยเริ่มที่จะประสบภาวะขาดแคลนแรงงานขั้น พื้นฐาน โดยล่าสุดสถานประกอบการได้แจ้งความต้องการแรงงานกว่า 120,000 ตำแหน่ง หรือคิดเป็นความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
 
"ขณะนี้มีแนวโน้มการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ ซึ่งในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมามีการเลิกจ้างไปบางส่วน และขณะนี้ไม่มีความสนใจกลับมาทำงานเดิม เพราะเข้าโครงการต้นกล้าอาชีพและมีงานที่มีรายได้สูงกว่างานที่เคยทำ" นายวัชระกล่าว
ขณะที่ความต้องการแรงงานไทยในต่างประเทศ พบว่ามีความต้องการแรงงานไทยสูงถึง 140,000 คน
 
นายวัชระ กล่าวว่า ปลัดกระทรวงแรงงานยังรายงานสถานการณ์จ้างแรงงานในไทยซึ่งมีแนวโน้มปรับตัวดี ขึ้น มีตัวเลขสถิติจากสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าอัตราการว่างงานรายเดือนปี 2552 มีแนวโน้มลดลง จากเดือนเมษายนที่มีอัตราว่างงานสูงถึง 2.1% ลดเหลือ 1.2% ในเดือนกันยายน และคาดว่าจะลดเหลือ 1.1% ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2552 หรือคิดเป็นประมาณ 400,000 คน
 
สหภาพฯ ฟอร์ด-มาสด้า นัดชุมนุมอีก 8 ม.ค.
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 53 ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ประธานและรองประธานสหภาพแรงงานฟอร์ดและมาสด้า ประเทศไทย
 
นายสมศักดิ์ สุขยอด ประธานสหภาพแรงงานฟอร์ดและมาสด้า ประเทศไทย จำกัด นายรุ่งสว่าง ดวงสอนยา รองประธานสหภาพแรงงานฯ แกนนำกลุ่มพนักงานบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 49 หมู่ 4 นิคมอุตสาหกรรม อิสเทิร์นซีบอร์ด ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เป็นบริษัท ร่วมทุนระหว่างบริษัท ฟอร์ดมอเตอร์ คอมปานี สหรัฐอเมริกา กับบริษัท มาสด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น มีพนักงานซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานฯเดินทางมาชุมนุม ที่บริเวณหน้าโรงงาน ริมถนนเหมราช กว่า 900 คน มาร่วมลงชื่อ หลังโรงงานปิดประกาศสั่งปิดโรงงาน งดจ้างเฉพาะพนักงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้อง สหภาพแรงงานฟอร์ด มาสด้า ประเทศไทย ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2552
 
ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานฟอร์ด มาสด้า ประเทศไทย ที่ยื่นต่อบริษัทยังไม่สามารถตกลงกันได้ ทั้งที่มีการเจรจามาหลายครั้ง ทำให้เกิดปัญหากับองค์กรในหลายด้าน จนทำให้ไม่สามารถส่งงานให้ลูกค้าได้ทัน พนักงานบางส่วนไม่ให้ความร่วมมือในการทำงาน ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบริษัท ทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่พนักงาน และบรรยากาศด้านแรงงานสัมพันธ์แย่ลงทุกขณะ
 
ดังนั้น เพื่อให้ปัญหาหมดไป บริษัท จึงขอประกาศสั่งปิดงานดังนี้ 1.เริ่มปิดงานงดจ้างตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 เป็นต้นไป 2. ปิดงานกรณีข้อเรียกร้องที่ตกลงกันไม่ได้(เฉพาะพนักงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับข้อเรียกร้อง) ลงนามโดย นายคิโยทากะ โชวบุตะ ประธานบริษัท
 
ด้านสหภาพแรงงานฯแจกคำแถลงการณ์ ลงวันที่ 5 มกราคม เรื่องการปิดงานของบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์(ประเทศไทย) จำกัด เรียนสมาชิกสหภาพแรงงานฯเพื่อนพนักงานและสื่อมวลชน ว่าที่ผานมาบริษัทประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ ดีกว่าบริษัทผลิตรถยนต์รายอื่นในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา ทำให้บริษัทบริษัทฯแม่ ให้ดำเนินการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นในปี 2552 เพิ่มการลงทุนอีกประมาณ 17,000 ล้านบาท ผลิตรถยนต์เก๋งนั่งขนาดเล็ก B car หรือมาสด้า 2 ซึ่งกำลังได้รับความสนใจสูงสุดในเวลานี้
 
ส่วนสาเหตุการปิดงานครั้งนี้ มาจากการเจรจาข้อเรียกร้องที่ไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากบริษัท ยืนยันที่จะจ่ายเงินโบนัสตามที่เสนอครั้งแรกคือ เงินเดือน 5 เดือน บวก 10,000 บาทและปรับเงินเดือน 4.5 % บวก 100 ในขณะที่สหภาพแรงงานได้ลดตัวเลขลงจากที่เคยขอไว้ เงินเดือน 6.5 บวก 18,000 บาท เหลือ 5.6 บวก 20,000 และปรับเงินเดือน 5.5 %บวก 400
 
นายรุ่งสว่าง ดวงสอนยา รองประธานสหภาพแรงงานฟอร์ดและมาสด้า ประเทศไทย กล่าวว่าก่อนหน้านี้ข้อเรียกร้อง ที่สหภาพแรงงานฯเรียกร้องให้บริษัทปรับเรื่องสวัสดิการแก่พนักงานให้ดีขึ้น ส่วนบริษัทก็เรียกร้องต่อสหภาพบ้างว่า กรณีให้ปรับลดเรื่องสวัสดิการลงบ้าง จึงทำให้ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงเป็นข้อพิพาทแรงงานตามกฎหมาย พ.ร.บ. 2518 บริษัทฯจึงใช้กฎหมาย พ.ร.บ.นี้สั่งปิดงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 เมื่อพนักงานจำนวนหลายร้อยคน เดินทางกลับบ้านช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พอเดินทางกลับจะมาทำงานปรากฏว่าโรงงานสั่งปิดงาน พนักงานจึงต้องออกชุมนุมบริเวณหน้าโรงงาน
 
นายรุ่งสว่าง กล่าวว่าระหว่างนี้สหภาพแรงงานฯกำลังเรียกสมาชิกสหภาพและพนักงานนับพันคนมา ลงชื่อ เพื่อทำความเข้าใจว่าเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ บรรดาสมาชิกและพนักงานจะให้ดำเนินการอย่างไร ถ้าพนักงานลงมติให้สหภาพแรงงานฯดำเนินการ สหภาพแรงงานฯก็จะดำเนินการตามมติ ขณะนี้พวกพนักงานมองว่าบริษัทมีกำไรหลายหมื่นล้านบาท และในปีนี้มียอดการผลิตรถยนต์เก๋งมาสด้า 2 (B car) จำนวน 2,009,000 คัน (สองแสนเก้าพันคัน) แต่เป้าหมายบริษัทฯต้องการจะล้มสหภาพแรงงานฟอร์ดและมาสด้า
 
นายรุ่งสว่าง กล่าวว่าได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานนัดเดินทางมาเจรจาระหว่าง บริษัท ฯกับสหภาพแรงงานฯ ในวันที่ 8 มกราคม เวลา 10 .00 น. ซึ่งทางสหภาพแรงงานฯได้นัดกลุ่มพนักงานมาชุมนุมกันที่หน้าโรงงานอีกครั้งใน วันที่ 8 มกราคมนี้ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้สลายการชุมนุมเมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน
 
ค่ายรถอเมริกันแนะรัฐล้อมคอกปัญหาแรงงาน
เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่าแหล่งข่าวจากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM) ได้เปิดเผยว่า จากกรณีเรื่องข้อพิพาทแรงงานยานยนต์ในปีที่ผ่านมา เช่น ข้อพิพาทแรงงานของสหภาพแรงงานเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือ สหภาพแรงงานเอเอที (โรงงานผู้ผลิตฟอร์ด มาสด้า) หรือแม้กระทั่งโรงงานซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์หลายแห่ง ทำให้ผู้ประกอบยานยนต์เริ่มไม่มั่นใจ ในเสถียรภาพของภาคแรงงานและได้มองหาทางออกโดยเริ่มต้น มีการศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาและทำทำหนังสือเพื่อเสนอแนวทางแก้ปัญหาส่งถึงรัฐบาลผ่านทางหอการค้าฯ เพราะผลเสียหายจากข้อพิพาทแรงงานที่ยืดเยื้อและเกิดขึ้นซ้ำทุกปีนั้น ส่งผลเสียต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมาก โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเช่นทุกวันนี้ ดังนั้น อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศโดยรวม โดยนำบทเรียนที่ผ่านมามาพิจารณาถึงแนวทางแก้ปัญหาโดยที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมอย่างเป็นธรรม
 
ทั้งนี้ ค่ายรถยนต์มองว่าปัญหาเรื่องแรงงานเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ต้องแก้ในแบบเชิงรุกมากกว่าเชิงรับและทำเป็นแผนระยะยาว สิ่งที่ภาครัฐควรสนใจคือกระบวนการทางแรงงาน และกฎหมายที่เกี่ยวกับการเจรจาข้อเรียกร้อง ซึ่งในปัจจุบันหากภาครัฐสามารถตีกรอบให้กับแรงงานได้มากขึ้นอาจทำให้เหตุแห่งการพิพาทแรงงานจนถึงขึ้นนัดหยุดงาน หรือปิดงานลดลงหรือ ยุติข้อพิพาทได้รวดเร็ว ตัวอย่างต่อไปนี้คือข้อพิจารณา
 
1. ภาครัฐควรให้คำปรึกษาแก่ลูกจ้าง และตรวจสอบข้อเรียกร้องของลูกจ้างก่อนการยื่นต่อนายจ้าง เพื่อเป็นการช่วยลดปัญหาข้อเรียกร้องที่เกินความเป็นจริง ภายใต้ พ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลโดยตรงต่อบรรยากาศในการเจรจาข้อเรียกร้อง การตรวจสอบและกลั่นกรองในขั้นต้นนี้จะช่วยลดแรงงานกดดันในการเจรจาตลอดจนความคาดหวังได้เป็นอย่างดี ก่อนที่ส่งผลรุนแรงเมื่อเป็นกรณีพิพาท
 
2. ภาครัฐควรให้ความรู้กับภาคแรงงานในเรื่องกฎหมายและสิทธิที่แรงงานควรหรือไม่ควรปฏิบัติ ทั้งในส่วนของผู้นำแรงงาน และสมาชิกสหภาพแรงงาน ซึ่งปรากฏว่าในหลายเหตุการณ์ลูกจ้างกระทำการโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์จนเกิดคดีความ
3. ภาครัฐควรเป็นผู้นำในการจัดคณะทำงานเฉพาะกิจกรณีเหตุการณ์นัดหยุดงาน หรือพิพาทแรงงานอื่น คณะทำงานควรประกอบด้วยตำรวจ แรงงานจังหวัด เจ้าหน้าที่จังหวัด และตัวแทนฝ่ายในจ้าง ทั้งนี้เพื่อให้สามารถควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ภายใต้กรอบ และชี้แนะแรงงานในทางที่เหมาะสมเพื่อการนัดหยุดงานเป็นไปอย่างสันติและจบลงเร็วที่สุด
 
4. คณะผู้ไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทแรงงานจากภาครัฐควรเป็นผู้มีความรู้และชำนาญในการเจรจา และเป็นกลางคอยให้ข้อมูลทางกฎหมาย การชี้นำในบางความคิดเห็นหลายครั้งส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดในด้านเจตนาของผู้ไกล่เกลี่ย ซึ่งอาจรวมถึงผู้ไกล่เกลี่ยควรได้รับการอบรมเฉพาะทาง
 
5. ระหว่างการนัดหยุดงานและรวมตัวกันของลูกจ้าง ภาครัฐควรให้มีตัวแทนเพื่อให้คำปรึกษาและให้ความรู้แก่สมาชิกที่ร่วมนัดหยุดงานอย่างเหมาะสมเป็นระยะในเรื่องสิทธิทางกฎหมาย และข้อจำกัดในการแสดงออกที่เหมาะสม
 
ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: เวบไซต์ไทยโพสต์, ASTV ผู้จัดการออนไลน์, เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net