จากการออกมาเปิดโปงการถือครองที่ดินอย่างผิดปกติและไม่เป็นธรรมของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุฬานนท์ องคมนตรี โดยกลุ่มคนเสื้อแดง และการต่อสู้ของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ต่อการกระจายที่ดินไม่เป็นธรรมของโครงการ สปก. 4-01 ที่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร นอกจากกลุ่มทุนบางกลุ่ม ซึ่งเครือข่ายได้เคลื่อนไหวทั่วประเทศมาเป็นเวลาก่อนหน้านี้ระยะหนึ่งแล้ว จนกระทั่งเมื่อไม่นานมีสมาชิกของเครือข่ายถูกสังหารเสียชีวิตคาบ้านพักเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2553 คือนายสมพร พัฒนภูมิ จากการที่ต่อสู้เพื่อการปฏิรูปที่ดินร่วมกับชาวบ้านอีกหลายพันคนในประเทศไทย ปรากฏการณ์เหล่านี้ ทั้งกรณีเขายายเที่ยง และกรณีการต่อสู้ของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย เป็นสิ่งที่ตอกย้ำปัญหาที่ดินในประเทศที่เรื้อรังค้างคา และไม่ได้รับการใส่ใจจากภาครัฐมาโดยตลอด

 

แต่ในขณะเดียวกัน กรณีดังกล่าวก็เป็นสิ่งตอกย้ำถึงความตื่นตัวมากขึ้นของประชาชนผู้ไร้ที่ดินทำกินและประชาชนผู้รักความเป็นธรรมทั่วประเทศ ต่อกรณีความไม่เป็นธรรมในการถือครองที่ดินในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง เครือข่ายปฏิรูปที่ดิน และประชาชนผู้ตื่นตัวจากทุกภาคส่วนที่เล็งเห็นปัญหานี้มากขึ้น

 

ปรากฏการณ์เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นแล้วว่า บัดนี้เป็นโอกาสอันดีที่สังคมไทยจะทำการตั้งคำถามและหาคำตอบอย่างจริงจังให้แก่ปัญหาการปฏิรูปที่ดินเสียที หลังจากถูกละเลยมาเป็นเวลานาน พวกเรา สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.), สหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน และองค์กรภาคี ได้เห็นพ้องต้องกันที่จะมีข้อเรียกร้องดังนี้ต่อสังคมและรัฐไทย

 

๑. พวกเราขอสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้แก่ผู้รักความเป็นธรรมทุกภาคส่วน ที่กำลังต่อสู้ เปิดโปงปัญหาการถือครองที่ดินที่ไม่เป็นธรรม และมีเป้าหมายที่จะก่อให้เกิดการปฏิรูปและกระจายที่ดินที่เป็นธรรมขึ้นในสังคมไทย ได้ร่วมกันต่อสู้ต่อไป ในฐานะที่เป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรไร้ที่ดิน ที่จะมีที่ดินทำกินเป็นของตนเองถ้วนหน้า และมิให้คนบางกลุ่มมีที่ดินจำนวนมากเกินไปจนเบียดเบียนผู้ไร้ที่ทำกินในสังคม

 

๒. พวกเราขอให้รัฐดำเนินการปฏิรูปที่ดินอย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงการตั้งคณะกรรมการหลอกๆที่มีแต่ผลงานเป็นเอกสารกองพะเนินขึ้นมา โดยไม่มีรูปธรรมที่จับต้องได้หรือไม่มีการกระจายที่ดินที่เป็นธรรมให้แก่ประชาชนที่ไร้ที่ทำกินจริงๆ หากแต่ไปตกอยู่กับกลุ่มทุนไม่กี่กลุ่มเหมือนดั่ง สปก. 4-01 การปฏิรูปที่ดินในประเทศไทย หากจะต้องถึงขั้นมากกว่าการปฏิรูป คือการ “ปฏิวัติ” ระบบการถือครองที่ดินให้กระจายอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ก็จำเป็นที่จะต้องทำ

 

๓. ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ประชาชนที่เรียกร้องการกระจายที่ดิน ไม่ว่าจะกรณีของชาวบ้านที่ถูกขับไล่ จับกุม ดำเนินคดี หรือกระทั่งข่มขู่ ใช้กำลัง และสังหาร จะต้องได้รับการเยียวยาฟื้นฟูแก้ไข เร่งรัดหาคนผิดจริงมาดำเนินการลงโทษ ให้มีการลงโทษทางกฏหมายแก่ผู้กระทำผิด และให้มีการยึดคืนที่ดินที่ได้รับโดยไม่เป็นธรรมมาจัดสรรแก่ประชาชนต่อไป และให้มีการให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนผู้เสียหาย ผ่านการได้รับการชดเชยและได้รับที่ทำกินอย่างเป็นธรรม